บันเทิง

"ธงชัย" จิตตกถูกด่าอ่วม ลั่นรักและเคารพช่อง 7 แต่หอบค่ายพอดีคำซบช่องวัน ต้องทำเพื่อความอยู่รอด!

Manager Online
เผยแพร่ 29 ม.ค. 2563 เวลา 13.55 น. • MGR Online

"ธงชัย ประสงค์สันติ" ควง "เก๋" ภรรยา ยกมือไหว้ขอโทษแฟนละคร ออกจากช่อง 7 เพื่ออนาคตลูกชาย และความอยู่รอด ยันไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ กับช่องวัน รอให้ "บอย ถกลเกียรติ" ออกมาชี้แจงเพื่อความชัดเจน เผยช่วงที่ผ่านมาเครียดมาก จิตตก อ่อนไหวไปกับคำด่าเนรคุณ รักและเคารพช่อง 7 แต่ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง ลั่นฟ้าอาจลิขิตให้เลือกช่องวัน แต่ก็ยังไม่รู้อนาคต เหมือนคนบ้านนอกสอนเด็กอินเตอร์ ต้องสู้ต่อ

หลังจากที่มีข่าวลือออกมาหนาหู เกี่ยวกับค่ายละคร พอดีคำ ของผู้กำกับคนเก่ง "ธงชัย ประสงค์สันติ" ว่าตีปีกออกจากช่อง 7 หันไปซบค่ายยักษ์ใหญ่ฝั่งอโศกอย่างช่องวันของ "บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ" ท่ามกลางกระแสข่าวลือมากมาย บางกระแสบอกว่าธงชัยโดนซื้อตัว บางกระแสบอกว่าเป็นเพราะน้อยใจผู้ใหญ่ที่เสนออะไรไปก็ไม่เคยได้ ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีละคร ซึ่งพอมีข่าวหลุดออกมา เจ้าตัวก็โดนกระแสดรามาด่าอื้อ โดยเฉพาะคำว่าเนรคุณ ซึ่งทำให้ผู้จัดดังไม่สบายใจ จนวันนี้ (29 ม.ค.) "ธงชัย" และ "เก๋ มณีรัตน์" ภรรยาต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ณ บริษัทพอดีคำ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ซอยรามคำแหง 140 โดยยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับทางช่อง 7 ทั้งสิ้น แต่ต้องการจะปูทางให้ลูกชายคือ "แผ่นดิน ประสงค์สันติ" เข้ามาดูแลในส่วนนี้ต่อเท่านั้น ลั่นมีพบก็ต้องมีจากเรื่องปกติของวงการ งานนี้ธงชัยก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษแฟนละคร ที่ทำให้ผิดหวังด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ธงชัย : "ผมขอเล่าให้ฟังก่อน อย่างที่เป็นข่าวมาผมไม่ได้เกิดความสบายใจเลย เราก็รอ จนพี่ๆ เขาบอกว่าพี่ธงต้องออกมาพูดแล้ว ทุกคนอยากรู้แล้ว เบื้องต้นขอบอกว่าเราไม่ได้มีปัญหากับทางช่องเลย เรารู้สึกขอบคุณทางช่อง 7 มากๆ ที่ให้โอกาสกับพอดีคำ ตั้งแต่ยุคคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ถึงปัจจุบัน เราถือว่าเราได้รับโอกาสที่มีเกียรติอย่างมากที่ได้ทำละคร เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องชื่นชมทีมของช่อง 7 เป็นทีมที่แข็งแรง และเป็นทีมที่เก่งมาก และผลักดันให้พอดีคำ เดินทางมาได้ไกลมาก มันเป็นทั้งความรักความผูกพัน แต่วันใดวันนึงด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่มีรักก็ต้องมีจาก แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย เราจากกันด้วยดีครับ"

"ผมเรียนตรงๆ เหตุผลที่ไป เพราะว่าลูกชายผมมาทำซีรีส์ ภาระกิจรัก มาทำ มธุรสโรกัน เขาก็มาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ๆ และความคิดใหม่ๆ ผมก็ตกใจมาก และผมก็ได้ทำบริษัท บัฟฟาโล ฟิล์ม จำกัด ทำภาพยนตร์เรื่อง เลิฟยูคู่อีเกิ้ง ผมได้เห็นมุมมองของลูกชายและคนรุ่นใหม่จริงๆ มันไปไกลมากนะ เขาก็เริ่มเอาละครวายมาให้ผมดูบ้าง และพอดีคำก็มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานเยอะ การแข่งขันก็สูงขึ้น แบบฟอร์มต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย และผมเองก็อายุเยอะแล้ว จริงๆ ผมเป็นคนอ่อนไหวนะ ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องให้ลูกของเราเข้ามาบริหารแล้ว มันเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ เพราะมันมีอะไรอีกมากมายที่เราทำไม่ได้ พ่อมีแค่ประสบการณ์นะ ลูกเขาก็มีทีมคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำ"

"สังเกตว่าหลังๆ ภาพของพอดีคำจะดูดีขึ้น การจัดเรียงระบบละคร ความฟินก็จะมีมากขึ้น พ่อก็อาจจะลีลาหน่อยกว่าจะจีบกัน (หัวเราะ) พอมีลูกและทีมคนรุ่นใหม่เข้ามา มันทำให้เราเห็นว่ามันต้องขยายงาน แล้วต้องไปให้ไกล ให้สุดโต่ง ฝันของผมคืออยากทำหนังสักครั้งนึง เพราะเราเริ่มมาจากหนังลูกอีสาน สุดท้ายก็มาทำละคร ก็เลยมาเปิด บัฟฟาโล ฟิล์ม ด้วยเงินส่วนตัว และเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูก ทำให้เรากลับมามองตัวเอง และรู้ว่าเราต้องค่อยๆ วางมือแล้วล่ะ และให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"ซึ่งทั้งหมดที่พูดมามันคือภาพรวม คือพอดีคำมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน มอบให้รุ่นลูกและทีมใหม่ๆ เข้ามาทำงาน และทีมงานเก่าก็ยังอยู่ที่จะช่วยๆ กันไป เราพร้อมที่จะพัฒนาให้ไปพร้อมกัน ที่ผ่านมาบ้านเมืองเราก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ โดยเฉพาะความรู้ผมไม่ค่อยมีอะไร มีแต่ความตั้งใจ ความรักในอาชีพ และธงชัยก็เป็นคนสู้งานมาตลอด เรียนรู้งานมาโดยตลอด แต่พอมาถึงวันนึงเอาเข้าจริงๆ มันไม่พอ คนรุ่นใหม่เขามีมุมมองที่แข็งแรงกว่าเรา แต่เขาก็ต้องอาศัยฐานเดิม เราก็เลยต้องการที่จะขยับขยาย และเปลี่ยนมุมมองของพอดีคำ แต่เรายังยืนยันว่าเรายังรัก และคิดถึง เคารพช่อง 7 มากๆ และขอบคุณช่อง 7 ที่ให้โอกาสเรา และทำให้เราแข็งแรงจนมาถึงตรงนี้"

บอกแทบไม่ได้อ่านคอมเมนต์เลย เพราะเป็นคนอ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้

ธงชัย : "ผมอ่อนไหวนะ ภรรยาและน้องๆ ก็บอกว่าอย่าไปอ่านคอมเมนต์นะ มันเยอะแยะมากเลย (หัวเระา) ดาราที่โดนไปก่อนหน้านี้ เราก็มานั่งคิดว่ามาถึงเราแล้วเหรอ มีผู้จัดด้วยเหรอ ผมอยากจะบอกแฟนๆ ละครว่างานทุกชิ้นเรากลัวผิดพลาด เรารัก เราตั้งใจ เราใส่ทุกอย่างลงไปในนั้น แต่พอวันนึงมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผมรู้สึกหวั่นไหวมากกว่าคุณอีก เพราะผมเห็นตัวละครทุกตัว เห็นการทำงานทุกขั้นตอน ปลายทางที่คุณได้ชม คุณยังรัก แล้วทำไมผมจะไม่รัก"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"เราก็โดนตำหนิบ้าง โดนด่านั่นแหละ ก็ไม่เป็นไร รับได้ จะได้มีสติ บางทีคำหวานคำชม เราไปหลงกับมัน เราอาจจะไปง่ายกว่าปกติ มันก็ดีจะได้บาลานซ์กัน แต่ผมรักแฟนๆ มาก เพราะว่าผมมาจากตัวเล็กๆ ไม่คิดว่าจะมาถึงตรงนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนเข้าใจ รักในความเป็นพอดีคำ รักในการเป็นครอบครัวธงชัย เราดีใจมาก สิ่งที่อยู่ข้างหน้าผมมันยากยิ่งกว่าสิ่งที่ผมอยู่ ณ ตอนนี้ ผมต้องไปต่อสู้อีก ตอนนี้ผมเหมือนครูบ้านนอกที่ย้ายไปอยู่ในเมือง แล้วต้องไปเจอเด็กอินเตอร์ (หัวเราะ) มันต้องเป็นแบบนั้น ไม่งั้นบริษัทผมหาย ผมก็ต้องต่อสู้เพื่อให้งานขยายออกไปให้ได้เยอะ"

"ผมยังอยากทำเรื่องเพลง ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าตอนนี้เรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลงมันชัดเจนมาก ด้วยความที่เราเคยเป็นพิธีกร เราอยากทำพิธีกร ด้วยความที่เราเล่นละคร เราก็อยากทำละครเวทีบ้างถ้ามีโอกาส แล้ว บัฟฟาโล ฟิล์ม ในที่ใหม่ที่ผมจะไปเขาก็ยินดีที่จะร่วมและสนับสนุนกับงานหนังที่ผมทำ เป็นโปรเจกต์ๆ ก็ได้ อันนี้เป็นอะไรที่ผมมีความสุขส่วนตัวที่ได้ทำหนัง”

เผยก่อนจะออกมาจากช่อง 7 ได้มีการบอกกล่าวผู้ใหญ่และเคลียร์ทุกอย่างกันเรียบร้อยหมดแล้ว

เก๋ : "เรื่องนี้เราได้คุยกันมาหลายครั้งแล้วนะคะ ถ้าเกิดเราลองย้อนไปเมื่อปีที่แล้วก็จะมีช่วงจังหวะนึงที่คนจะสงสัยว่าทำไมพอดีคำไม่เปิดละคร ทำไมเงียบไป นั่นเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างนานพอสมควร อันนี้แหละค่ะที่เป็นช่วงจังหวะที่เราเคลียร์ และเราได้คุยกับทางช่อง 7 ซึ่งช่อง 7 ก็ให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของเรา เพราะฉะนั้นเราคุยกันเรียบร้อยและเราก็เคลียร์เรียบร้อย พูดง่ายๆ ว่าเราไม่ได้คบซ้อน เราทำเป็นสเต็ป คือเคลียร์กับทางนี้เรียบร้อยแล้วเราค่อยก้าวออกมา แล้วก็มาทำอีกที่นึง และอีกที่นึงเราก็เป็นฝ่ายเข้าไปหา และไปพูดคุย ขอตอบได้เลยค่ะว่าไม่มีการซื้อตัวใดๆ ทั้งสิ้น และทั้งสองที่รู้ดีว่ามันคืออะไร เพราะเราอยู่กับช่อง 7 มานาน เ​รา​รักนะคะ ก็คือบ้านหลังหนึ่งของเรา อะไรที่เราทำได้เราจะทำให้ทุกอย่าง แต่อันนี้เหมือนเราเคลียร์คัตเป็นสเต็ปๆ ทุกอย่างชัดเจนมาก"

ธงชัย : "ก็เป็นรอยต่อระหว่างคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามา รุ่นลูกผมก็คือคุณแผ่นดิน กับบริษัท บัฟฟาโล่ มันก็เป็นจังหวะพอดีกัน เรียกว่าเป็นจังหวะที่เปลี่ยนรุ่นในการบริหาร และเราก็อยากขยับขยาย โอกาสที่มีมันก็ไม่ได้มาก เราก็อายุเยอะแล้ว จริงๆ ก็วางรากฐานให้ลูกแหละถ้าพูดตรงๆ เลยนะ เขาจะได้สืบต่อ ถามว่ามีเหตุผลอื่นอีกไหม ไม่มีเลย มันเป็นเรื่องภายในที่เราเคลียร์กันน่ะ เคลียร์กันตรงๆ ว่าเราอยากขยับขยายและเราก็ต้องไป"

เชื่อลูกชายสามารถต่อยอดให้กับบริษัทได้อีกมาก และการทำงานกับช่องวันอาจจะเป็นแค่งานที่ทำให้ตนได้คลายเหงาก็ได้

ธงชัย : "เขาต้องไปได้ไกลกว่านี้อีกครับ เราคิดอย่างนั้นนะ โอกาสที่จะกลับมาก็มีอยู่นะครับ และผู้จัดใหม่ๆ เขาก็มีเยอะแยะมากมาย คือผมต้องชื่นชมว่าช่อง 7 เป็นทีมที่แข็งแรงมาก คนอาจจะไม่รู้นะ งานละครชิ้นนึงที่ทำออกมาได้ไม่ใช่แค่บริษัทของผู้จัดที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ทีมงานข่อง 7 ผู้บริหารนี่ต้องชมเลยว่าเขาแข็งแรงมาก ในแต่ละสถานีก็จะมีคาแรคเตอร์ของตัวเองอยู่แล้ว ถามว่าช่อง 7 มียื้อไหม ก็มีแหละครับ เหมือนแฟนละครแหละ ใจหาย ต่างคนก็ต่างใจหาย เราก็ใจหาย เขาก็ใจหาย แต่ว่ามันต้องไป มันต้องขยับขยาย เรื่องของอนาคตของคนรุ่นใหม่ ของพอดีคำด้วย และทีนี้ทึ่ผมไปเขามีอะไรที่ให้ผมทำพอสมควร"

"คือตอนนี้ผมคุยกับช่องวันครับ ผมก็อาจจะได้กลับไปทำพิธีกร และงานละครก็อาจจะเป็นลูกๆ หรืออะไรก็ว่าไป ผมก็อาจจะคลายเหงาของผม (หัวเราะ)​ อาจจะทำเล็กๆ หรืออาจจะไม่ทำเลยก็ได้ ผมอาจจะอยู่ห่างๆ ที่เหลือก็อาจจะเป็นภรรยากับลูกๆ ที่เขาจะทำ ผมก็อาจจะไปเน้นที่บัฟฟาโล่ ฟิล์ม ตอนนี้ก็อย่างที่รู้คือเลิฟยูโคกอีเกิ้งที่กำลัง​ถ่ายทำอยู่ ขบวนการในการพูดคุยก็เริ่มคุย มีหัวข้อโน่นหัวข้อนี้ แต่รายละเอียดยังไม่ได้เกิดขึ้น ถ้าทุกคนอยากได้คำตอบว่ารายละเอียดเกิดขึ้นยังไง รอแป๊บนึง ผมอยากให้ฟังจากปากผู้บริหารของช่องวันเอง ก็คือคุณถกลเกียรติและพี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) เราก็เคยทำงานตั้งแต่สมอลทอล์ค และเล่นละครนิยายรักภาค2 สมัยนั้นนะ มันต่างกันมากเลยนะ ก็ลองดูครับ มันจะได้มีวิธีการทำงานอีกแบบนึง"

ยันไม่ได้มีเรื่องน้อยใจใดๆ และไม่ใช่เพราะไปร่วมงานกับ "คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์" อย่างที่มีข่าว

ธงชัย : "ผมยืนยันว่าไม่มีอะไรกันจริงๆ พอถึงจุดๆ นึงทุกคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน ผมอยากให้มองภาพรวมของวงการบันเทิงว่าตอนนี้มันเป็นยังไง ทุกคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกันครับ"

เก๋ : "เรื่องเสนออะไรไม่ผ่านไม่จริงเลยนะคะ เพราะว่าช่อง 7 อยากให้เรานำเสนอด้วย และต่างคนต่างนำเสนอกัน อะไรที่โอเคที่สุดเราก็ทำสิ่งนั้น เรารับทุกอย่าง คือเราทำงานตามออเดอร์จริงๆ แล้วแต่ช่องจะสั่งมาเลย แต่ถ้าเรามีอะไรดีๆ ไปเสนอช่อง ช่องก็แฮปปี้ เราทำงานเข้าขากันมากเลยค่ะ เรื่องที่ว่าช่อง 7 ต่อว่าพี่ธงว่าไปทำงานให้กับคุณแดง ไม่มีเลยค่ะ เพราะหลายปีที่ผ่านมาเราทำงานกับช่อง 7 ที่เดียวเลย"

ธงชัย : "เรื่องคุณแดงนี่ผมขอเรียนตรงๆ ว่าผมยังรักและเคารพท่านมาก ก็จะมีไปเล่นกอล์ฟวันเสาร์เป็นเพื่อนท่านเท่านั้นเอง คุณแดงก็ยังให้ความห่วงใยผมมาก บอกพูดน้อยๆ นะธง อย่าพูดเยอะ จริงๆ นะคุณแดงสั่งมาเลยว่าพูดน้อยๆ ไม่มีอะไรเลย ในส่วนใจก็เข้าใจ แต่ในส่วนที่ต้องไปเราก็ต้องไป มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น แกเป็นห่วงช่อง 7 มากนะ และเป็นห่วงผมมาก แกบอกว่ายังรัก คือผมจะเจอกับคุณแดงก็คือไปตีกอล์ฟ ผมก็เล่นไม่ค่อยเก่งหรอก ก็ไปเดินเป็นเพื่อนคุย ผมก็ยังชื่นชมว่าคุณแดงยังทำงานในวงการบันเทิงและเป็นคนเก่งมากเลย"

บอกยังไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ แต่รอให้ "บอย ถกลเกียรติ" ออกมาบอกเองดีกว่า

ธงชัย : "ทั้งหมดยังไม่มีอะไร เป็นแค่การคุยเบื้องต้น เอาของมาคุยกัน อยากได้แบบไหน แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ถ้าคุณอยากได้รายละเอียด อยากให้รอคุณบอยจะชัดเจนกว่าผมเยอะ พูดตรงๆ ว่าผมกลัวถ้าพูดอะไรไปแล้วมันจะบิดพลิ้วไปทางอื่น รอคุณถกลเกียรติ รอพี่ป้อน ซึ่งถามว่าวันที่บวงสรวงละครสะใภ้อิมพอร์ตก่อนหน้านี้ ช่วงบ่ายผมได้เข้าไปคุยกับพี่ป้อนไหม คือมันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นเลย ละครจะออนแอร์แล้วเรายังไม่ได้บวงสรวง เรานัดนักแสดงถัดมาอีกวันนึงก็ได้แค่พระเอกกับนาง​เอกเท่านั้นเอง และวันนั้นเป็นวันที่ถ่ายที่นั่นเลย เราก็เลยถือโอกาสไปบวงสรวงที่นั่น ไม่ได้มีเจตนาว่าจะหลบลี้หนีอะไร ไม่มีเลยครับ ธงชัยชอบเผชิญอยู่แล้วครับ ที่อยู่ได้เนี่ยเพราะเผชิญความจริงนะ ที่อยู่ได้เพราะความตั้งใจ ความพร้อมจะต่อสู้สิ่งที่มันเกิดขึ้น"

"ถามว่าการพูดคุยทุกอย่างลงตัวแล้วใช่ไหมกับช่องวัน ก็ยังครับ คุณได้คำตอบนี้แน่นอน แต่ผมอยากให้ได้คำตอบที่ชัดเจนและมั่นคงอย่างที่คุณอยากได้ต้องจากคุณบอยและพี่ป้อนเท่านั้นแหละครับ ซึ่งก็อาจจะไม่นาน และที่ข่าวว่ามีสัญญาว่าเราจะต้องทำงานให้กับทางช่องวันอย่างเดียว ก็คงเพราะว่าจะจับมือกัน แต่ยังไม่ลงรายละเอียด แต่ ณ ตอนนี้ถามว่าผมเป็นพนักงานคนนึงของช่องวันหรือยัง ก็ยังครับ อันนี้ผมยังไม่แน่"

เก๋ : "เรายังเป็นพอดีคำค่ะ ยังเป็นลักษณะเหมือนที่เราทำกับช่อง 7 ไม่ใช่อย่างที่ข่าวว่าเรามีภาษีเท่าๆ กับพี่ปุ๊ย (ผอูน จันทรศิริ) หรือกับ พี่สันต์ ศรีแก้วหล่อ มันคนละเรื่องกันเลยค่ะ มันไม่เกี่ยวกัน"

ธงชัย : "ให้ฟังจากคุณบอยดีกว่า เดี๋ยวจะบิดพลิ้วไปที่อื่น"

เก๋ : "เราก็มีอิสระในการทำงานปกติค่ะ"

ธงชัย : "แต่ว่าการทำงานเราจะกว้างขึ้นเท่านั้นเอง เขาอยากให้เราช่วยเสนอรายการ หรือซิตคอมที่เราอยากทำ ผมเคยทำพวกโคกคูนตระกูลไข่ เคยทำอะไรแบบนี้ เขาก็อยากให้มีมุมอะไรแบบนี้บ้าง"

เผยตนไม่เคยบอกใครเลยว่าจะออกจากช่อง 7 แถมโดนตำหนิด้วยซ้ำว่าต้องให้รู้จากข่าว

ธงชัย : “ผมเรียนตรงๆ ว่าผมรักช่อง 7 และเคารพช่อง 7 มาก ดาราที่ผมสนิทด้วยทุกคน ไม่มีการปริปากได้ยินจากผมเลย ผมยังโดนตำหนิเลยว่าเขารู้จากข่าวทั้งนั้นเลย ผมซื่อสัตย์มาก ไม่ได้บอกใครเลย ตอนที่ดารามาไหว้ปีใหม่ยังคิดเลยว่าจะต้องทำหน้ายังไงให้ยิ้มแย้ม หลายคนบอกพี่อย่าลืมหนูนะตัวสองตัวสามก็เล่น ก็ยังยิ้มแย้มกันอยู่เลย”

"ถามว่างานชิ้นแรกที่จะทำกับช่องวันจะเริ่มเมื่อไหร่ ยังบอกไม่ได้เลยครับ อาจจะต้องเว้นไปอีกประมาณ 4-5 เดือนก็ยังไม่รู้ เราเห็นแค่มีเมนูเขาแต่ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ทำไมเลือกช่องวัน อันนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ตอบไม่ถูก ผมว่าอาจจะเป็นจังหวะ ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นช่องวัน อันนี้อาจจะฟ้าลิขิตหรือพรหมลิขิตก็ไม่รู้ แต่ถามว่าคาดหวังเรื่องเรตติ้งกับการไปทำงานกับช่องวันไหม ผมบอกแล้วว่ามันยาก คุณอยากจะเอาบ้านนอกไปสอนอินเตอร์ก็ต้องปรับตัวกันหน่อย ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง แต่พอดีคำเมื่อก้าวไปแล้วก็ต้องเอาเต็มที่ ต้องเรียนรู้ต่อไป เพื่อลูก เพื่อคนรุ่นใหม่ที่จะมาทำงานในพอดีคำ”

ยอมรับเครียดกับคำว่าเนรคุณ และใจหายไม่แพ้ใครเหมือนกัน

ธงชัย : “ผมบอกแล้วว่าผมก็รู้สึกใจหายไม่แพ้ไปจากแฟนช่อง 7 ไม่แพ้ใครที่คอมเมนต์ผมเลย คือผมไม่เล่นเฟซบุ๊ก ผมเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวแล้วก็ทำงาน สังเกตว่าถ้าจะเจอผมก็จะเจอที่งานเปิดกล้อง หรือไม่ก็งานเพื่อเปิดตัวละครเท่านั้นแหละ ที่เหลือผมก็ไม่ไปไหน ผมทุ่มเทและมีความรักให้ แน่นอนว่าต้องมีจิตตกบ้าง ลูกๆ ก็บอกว่าอย่าอ่านนะพ่อ น้องฝ่ายผลิต น้องๆ ทุกคนก็เป็นห่วงผมมาก เพราะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง จิตตกมาก ก็ไม่เป็นไรก็บาลานซ์เอา คำหวาน คำชมว่าเราเก่งว่าดีเราก็ได้รับแล้ว พอได้รับคำว่าเราบ้างก็ทำให้เราได้สติว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน เราทำสิ่งที่เป็นจริงดีกว่า แล้วเราก็มีความรู้สึกว่าเรามาไกลมาก มีคนมารักมาชอบเรา ฉะนั้นด่าผมว่าเนรคุณไม่ใช่แน่นอน แต่ก็พูดไปเถอะ ผมไม่โกรธนะ เพราะผมเองก็เสียใจ ผมเองก็รู้สึก”

"คำที่รู้สึกแย่ที่สุดก็ประโยคว่าเนรคุณนี่แหละ เห็นดาราใครออกไปก็มีประโยคนี้แหละ มันก็มาถึงผมจนได้เนอะ (หัวเราะ) ก็ดีแล้ว ทำให้ผมได้สติว่าต้องเรียนรู้ใหม่ อ่านหนังสือมากขึ้น ดูตรงนั้นตรงนี้มากขึ้น ลองดูครับ ผมก็อยากไปให้สุดเหมือนกันชีวิตผม จากตัวประกอบไล่เรียงมาเรื่อยๆ ก็อยากรู้ว่าจะไปสุดแค่ไหนกับชีวิตผมเหมือนกัน”

บอกคอนเทนต์ที่จะผลิตในยุคใหม่นี้ท้าทายตนมาก แต่ก็ทำใจเรื่องเรตติ้งเอาไว้แล้ว

ธงชัย : ”มันท้าทายผมมากนะ เมื่อก่อนเดือนหนึ่งดูหนังดูซีรี่ส์แค่ 10 วันต่อเดือน แต่จากนี้ต้องดูเยอะขึ้น และไม่ดูคนเดียวแล้ว ก็ต้องดูกับกลุ่มใหม่ๆ กลุ่มวัยรุ่นที่จะเข้ามาทำงานกับผม ต้องดูต้องฟังเขา แล้วเราก็แค่บอกว่าสังคมไทยวัฒนธรรมไทยเป็นแบบนี้ ที่เหลือก็ให้เขาพัฒนาต่อไป ผมว่ามาถึงนาทีนี้แพลตฟอร์มอื่นๆ เราโดนรุกโดยต่างประเทศเยอะมาก ถ้าเราไม่ขยับตัวไม่ไหวติงพร้อมที่จะไปก็ยากอยู่นะ ผมว่าช่องวันเป็นช่องที่ร่วมสมัยอยู่ตลอดเวลา เป็นช่องที่ไม่อยู่แค่กับตัวเอง แต่พัฒนาไปเรื่อย เขาก็บอกว่าลองดูไหม ก็ลองดู ผมก็แฮปปี้”

"เรื่องเรตติ้งเนี่ยผมทำใจแล้วครับว่าเราอาจจะได้ 2-3 ก็ทำใจแล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้น นักร้องคนหนึ่งกว่าจะได้พวงมาลัยจากแฟนๆ ก็ต้องฝึกฝนอะไรกันมาเยอะ ผมเองก็ผ่านมาเยอะแล้วเหมือนกัน ไม่เคยมีเรื่องง่ายสักอย่างเลย ก็ต้องเผชิญกันไป จะเรตติ้งน้อยก็ไม่เป็นไร ผมยอมรับโดยดุษฎีอยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่นั่นมาจากความคิด สติ ความฝัน จากการทำงาน จากมือของเรา ผมยอมรับอยู่แล้ว”

ปัดไม่รู้จะมีนักแสดงช่อง 7 ตามมาไหม บอกถ้าดึงมาจะแย่มาก ยังไม่มีศักยภาพพอที่จะดึงใคร

ธงชัย : “ผมไม่ทราบจริงๆ เพราะผมไม่ได้บอกนักแสดงสักคนเลย ขนาดสนิทๆ กัน พระเอกที่เล่นกับผมบ่อยๆ เขายังตกใจ เจอหน้าผมเขาก็ไม่กล้าถาม เขาคงรู้ว่าผมเครียดอยู่ ก็ไม่มีใครขอตามไปนะ ผมยังไม่อยากให้มีตอนนี้เลย ไม่งั้นผมจะดูแย่มาก ผมไม่มีนโนบาย ไม่มีศักยภาพที่จะไปดึงใครมา เรายังตกใจ เพราะบริษัทเราไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก ใหญ่แต่ชื่อและเครดิต แต่ตัวเราทำงานยังเล็กอยู่เหมือนเดิม มุมมองบางอันยังมองว่าซ้ำ ไม่ซ้ำ เรื่องนี้เหมือนเรื่องโน้น ยังคิดอยู่เลยกับสิ่งที่เราทำกันอยู่ทุกวันกลัวมันซ้ำ ต้องช่วยกันแก้ เราไม่คิดว่าจะดึงใครไปหรอกครับ แล้วแต่เขาเถอะ ผมเชื่อว่าช่องวันเขาก็แข็งแรงและอยากได้อะไรใหม่ๆ มากกว่า”

"แต่ทุกอย่างจะชัดเจนก็ต่อเมื่อทุกคนได้ไปสัมภาษณ์คุณบอย อันนั้นจะชัดเจนกระจ่างแจ้งยิ่งกว่าผมอีก ตอนนี้ผมแค่จับมือและเขย่ามือกันลองดู แต่น่าจะมีผลงานใหม่ๆ ในปี 2020 แน่นอนครับ ถามว่ากลัวคนคาดหวังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไหม คุณว่าช่องวันเขาคาดหวังกับผมไหม แล้วผมจะกดดันไหม ถามกลับกันถ้าทุกคนเป็นผมก็ไม่รู้จะไปยังไงเหมือนกัน แต่โชคดีที่ในละคร 7 วันมีความหลากหลาย ผมอาจจะเป็น จันทร์-อังคาร หรือ ศุกร์-เสาร์ เบื้องต้นตามแบบฉบับพอดีคำดูก่อน เปรียบเหมือนอาหาร อาจจะเป็นลาบที่ไม่เผ็ดมาก”

บอกลูกชายของตนก็โดนลองของมาเยอะ จนบางครั้งตนก็แอบร้องไห้เพราะเห็นใจเหมือนกัน

ธงชัย : "ตอนนี้ลูกบอกว่าพ่อต้องไปฝึกพูดภาษาอังกฤษบ้างนะ เพราะทางโน้นจะใช้ภาษาอังกฤษเยอะ ก็บอกว่าพ่อจะพยายามลูก (หัวเราะ) ถามว่าจะให้แผ่นดินเขาดูแลหมดเลยไหม หรือผมจะควบคุมการผลิตเหมือนเดิม คือจริงๆ ในช่อง 7 ภรรยาผมมีหน้าที่หนักมากเป็นคนดูเรื่องบท เรื่องขบวนการตัดต่อ 2-3 ปีหลังผมแค่อยู่ภายนอกแค่นั้นเองไม่ได้ข้องเกี่ยว เพราะผมโฟกัสเรื่องหนัง เพราะว่าต้องเปิดบริษัทหนังให้ได้ ส่วนมากเรื่องที่ประสบความสำเร็จจะมาจากเขา ไม่ใช่ผมหรอก ผมแค่ดูโปสเตอร์ ดูเพลง แล้วมาวิเคราะห์หนังเขาหน่อยว่าปรับนี่หน่อยนะ ที่เหลือเขาจะจัดการเอง"

"จริงๆ ผมเองก็จะไม่ไหวนะ เพราะทำงานหนักมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ให้เป็นหน้าที่เขาดีกว่า เขาเป็นคนดูเบื้องหลังมาตลอดนะภรรยาผม ทีนี้พอไปช่องวันด้วยความที่มุมมองผู้หญิง มุมมองลูกชาย ก็ต้องเปิดโอกาสที่จะต่อสู้กับละครใหม่ๆ ผมก็คงจะกลับไปที่หนังเป็นหลัก แต่ก็คงไม่ทิ้งตรงนี้เป็นครอบครัวเหมือนเดิม"

“ส่วนเรื่องว่าลูกชายจะถูกเอามาเปรียบเทียบกับผม มันมีอยู่แล้ว รุ่นเรามันรุ่นบ้านผีปอบ เดี๋ยวนี้ปัจจุบันมันคนละผีแล้วนะ มันไปไหนต่อไหนแล้วล่ะ แต่เขาก็ฟังพ่อนะ คือละครมันเป็นข้าวนะ ลูกจะไปแปรรูปยังไงมันก็ยังเป็นข้าวอยู่ ถามว่าผมเชื่อมือแผ่นดินไหม คือผมเองโดนดาราตำหนิมากเรื่องมธุรสโลกันต์และภารกิจรัก ผมไม่ได้เข้าไปดูลูกเลย จนภรรยาบอกผมว่าเป็นพ่อภาษาอะไรไม่เข้าไปดูลูก ผมต้องทะเลาะกันภายในว่าถ้าอยากให้ลูกเราแข็งแรงแล้วก็เข้มแข็งปีกแข็งแรงพอที่จะบินได้แล้วปล่อยให้เป็นงานเขาเลย"

"แต่ผมแอบไปดูห้องตัด แล้วไปบอกผู้ช่วยว่ามันไม่ได้นะภาพนี้มันโดด ปัจจุบันภาพมันเล่าเรื่องเอาไว เขาเอาแบบฉับไวไม่ต้องดูคอนตินิวมาก เขาก็โดนลองของเยอะนะ เขาก็ยังทน บางทีผมน้ำตาไหลเลยนะ เพราะเราก็เคยเจอไง ธงชัยเป็นใครมากำกับ แต่เราก็สู้ 15 ปีในช่อง 7 ไม่น้อยนะ 50 กว่าเรื่อง ไม่นับที่ผ่านมาก็ต่อสู้มาตลอดเวลา ผมก็งงว่าทำไมเจอแต่เรื่อง ไม่มีโบนัสดีๆ สักอย่าง รางวัลชีวิตอะไรอย่างนี้ มีแต่งาน”

บอกไม่โกรธที่ใครจะว่าตนยังไงก็ตาม เพราะตนก็ยังรักและใจหายเหมือนกัน

ธงชัย : “ฝากไปถึงแฟนๆ ละคร เคล็ดลับของผมบอกเลย ผมบอกผู้กำกับทุกคนว่าเวลาเรากำกับให้นึกถึงหน้าคนดูตลอด นั่นแปลว่าผมใส่ใจกับคนดูทุกชิ้นงาน ผมรักนะ ถ้าไม่มีคนดูคงไม่มีวันนี้หรอก ผมไม่โกรธหรอก ผมยังรักละครของผม แล้วทำไมท่านจะไม่รักช่อง 7 ทำไมท่านไม่รักตัวละครที่เกิดขึ้น ถามว่าใจหายไหม ใจหายแปลว่าอะไร แปลว่ามีความเสียใจอยู่ในนั้นด้วย แต่ผมมีมากกว่าท่านแน่นอน ผมนอนหนาวทุกคืน ชีวิตทำไมเล่นตลกกับเราขนาดนี้ กับประโยคที่บอกว่าเนรคุณน่ะ แต่อย่างที่บอกไม่โกรธเลย ผมเป็นคนอ่อนไหวนะ ต้องขอโทษงามๆ เลย (ยกมือไหว้) ขอโทษแฟนๆ ช่อง 7 ผมทำเต็มที่ รักทุกคน เราก็ยังรำลึกนึกถึงช่อง 7 ตลอดเวลา อันนี้จากใจจริงเลย”

“แต่วันนี้ได้ออกมาพูดแล้วผมดีใจมาก ตอนแรกผมจะไปคุยในกองถ่ายง่ายๆ ให้ผ่านๆ ไป มันก็รอเวลา เรื่องมันก็สะสมความเครียดไปด้วยเหมือนกัน วันนี้ผมรู้สึกสบายใจ ก็ทำงานพิสูจน์ตัวเองอีกแบบหนึ่ง งานมันก็ดำเนินต่อไปไม่อยากหยุดมันอยู่กับที่ อยากพัฒนาไป ก็เลยไปที่ช่องวันนี่แหละ”

เก๋ : “คือเราเสียใจนะคะ จริงๆ เราก็อยากจะขอบคุณช่อง 7 ที่ให้โอกาสเป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ เป็นโรงเรียนที่สอนเราทุกอย่าง มันก็เหมือนเราเป็นศิษย์ คือยังไงเราก็รักโรงเรียนของเรา อยากจะกราบขอโทษแฟนๆ ช่อง 7 คืองานทุกชิ้นงานเราทำด้วยความตั้งใจแล้วก็ทำงานให้ดี แล้วก็ยึดผู้ชมเป็นหลัก เพราะฉะนั้นบางครั้งการเปลี่ยนแปลงมันจะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า แล้วก็ก้าวต่อไปได้ มันจะทำให้บริษัทเราอยู่รอดได้ ขอบคุณแฟนๆ ทุกคน ขอบคุณช่อง 7 ด้วยค่ะ (ยกมือไหว้)”

ธงชัย : “การไปครั้งนี้เราก็ไม่ได้เปลี่ยนอาชีพนะ เรายังทำความสนุกให้ความบันเทิงกับทุกคนเหมือนเดิม แต่เวทีใหญ่ขึ้นเท่านั้นเองครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 38
  • Kai-Patra
    คนที่ด่าเขาน่ะ..ไม่ลองมองอีกด้านบ้างล่ะว่าช่องนี้ทำอะไรบ้าง ถึงได้มีคนย้ายหนีมากมาย .คิดสิคิด
    30 ม.ค. 2563 เวลา 08.36 น.
  • ขั้นเทพ
    รวยๆๆ
    30 ม.ค. 2563 เวลา 08.06 น.
  • ❤️Tg 👍BE 🚚EB 🤟
    โอย. อ่านซะเหนื่อย ยังไม่ถึงครึ่ง ขออ่านต่อพรุ่งนี้นะ.
    30 ม.ค. 2563 เวลา 07.48 น.
  • Porn
    คนที่ด่าเขาคิดสักนิด ถ้ามันดีไม่มีอะไร ไม่มีใครเขาไปหลอกคะ
    30 ม.ค. 2563 เวลา 07.30 น.
  • วิจิตร (เสือ)
    ทำถูกต้องไม่จำเป็นต้องถูกใจใครครับผมให้กำลังใจน่ะเพื่ออนาคตครับเคร
    30 ม.ค. 2563 เวลา 07.13 น.
ดูทั้งหมด