การคิดบวกคือการมองโลกในแง่ดี คือการเข้าใจว่าในเรื่อง ๆ หนึ่งมีทั้งดีและไม่ดี แต่เลือกที่จะมองหรือคิดในด้านที่ดี เพื่อทำให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์ เกิดพลังที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองและสิ่งรอบตัว
แต่ต้องไม่ใช่การคิดบวกแบบโง่ ๆ หรือปลงโดยไม่มีปัญญามากำกับ คนคิดบวกแบบโง่ ๆ คือคนที่เจอปัญหาแล้วคิดว่าใคร ๆ ก็มีปัญหากันทั้งนั้น ไม่เป็นไร ไม่ต้องแก้ก็ได้ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
คนเราต้องคิดบวกแบบมีปัญญา มองบวกแบบยอมรับความจริง และรับมือกับความจริงด้วยทัศนคติเชิงบวก เช่น คนโง่พอป่วยก็จะหลอกตัวเองว่าไม่ป่วย แต่คนฉลาดจะยอมรับว่าป่วยก็คือป่วย หาวิธีดูแลตัวเองไม่ให้ป่วย และทำให้การป่วยเป็นโอกาสทองของการเรียนรู้ เพราะคนมองบวกจะเอาปัญญาได้จากทุกเรื่อง
การที่เราจะเป็นคนคิดบวกได้นั้นไม่ได้เริ่มต้นได้ทันที แต่ต้องเข้าใจความเป็นไปของโลกพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของ “ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ไร้ประโยชน์” และ “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ” ที่เราต้องเข้าใจ ยอมรับและทำให้ได้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีสิ่งที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าประหลาด..
“ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ไร้ประโยชน์” และ “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ” เป็นสองแนวคิดที่เลือกมองในมุมดี ๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ สู้เลือกมองอีกแง่มุมที่ต่างออกไป มองในมุมที่สร้างสรรค์กว่าและดีกว่าน่าจะดีที่สุด
อย่าลืมว่าทุกสิ่งบนโลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แม้แต่อนุภาคที่เล็กและดูไร้ค่าที่สุดก็มีประโยชน์ได้ ถ้าเรามองเห็นคุณค่าของสิ่ง ๆ นั้น อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นหรือรู้จักใช้มันมากน้อยเพียงใด อะไรก็ตามที่เราคิดว่าน่ารังเกียจหรือไม่มีประโยชน์ ที่จริงแล้วอาจเป็นเราก็ได้ที่โง่เขลา มองไม่เป็น มองไม่เห็นหรือไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์เสียมากกว่า
ทุกสิ่งบนโลกที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ รวมถึงทุกอย่างทั้งที่สายตามองเห็นและไม่เห็น มือสัมผัสได้และไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพบเจอล้วนมีประโยชน์และมีคุณค่าในตัวเองทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งปัญหา อุปสรรค ความทุกข์ ความล้มเหลว และเรื่องราวเลวร้ายอีกสารพัดที่ทุกคนต้องเจอ ซึ่งถ้ามองอีกมุม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ เป็นบทเรียนที่จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น อดทนมากขึ้น และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
อย่างแบคทีเรียที่ใคร ๆ ก็คิดว่าไร้ประโยชน์ เป็นสิ่งสกปรกที่ควรอยู่ให้ห่าง แต่ความเป็นจริงแล้ว แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่มีโทษ มีแบคทีเรียที่ให้ประโยชน์มากมายในธรรมชาติ แบคทีเรียสามารถย่อยสลายสารอินทรีย์ในซากสิ่งมีชีวิตทำให้เกิดการหมุนเวียนของสารในสิ่งแวดล้อมซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ที่สำคัญคนเรายังนำแบคทีเรียมาใช้ประโยชน์ทางอุตสาหกรรมได้ด้วย ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เป็นประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของแบคทีเรีย และเป็นเราต่างหากที่ไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์
อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าเราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้ แม้จะวางแผน เตรียมการมาดีแค่ไหนก็ตาม แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราไม่สามารถหยุดยั้ง ห้ามปราม ไม่ให้เกิดขึ้นได้ แม้เราจะไม่ยอมรับมันได้เลยก็ตาม คนส่วนใหญ่ได้แต่ตีอกชกตัวไม่อยากให้สิ่งไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้น แต่คนที่เข้าใจความเป็นไปของโลกจะรู้ดีว่า “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ”
เมื่อเข้าใจ..เราจะยอมรับได้ง่ายขึ้น เมื่อยอมรับ..เราจะยืนหยัดได้ง่ายขึ้น และเมื่อยืนหยัดได้..เราก็จะมีพลังในการต่อสู้ครั้งต่อไป
ในเมื่อกลับไปแก้ไขก็ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ แทนที่จะมามัวเศร้าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ซึ่งก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น สู้คิดแบบมองไปข้างหน้า ทำให้ดีที่สุดภายใต้ข้อจำกัดและเงื่อนไขที่มีอยู่ เพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองและเดินหน้าต่อไปอย่างมีพลังมากขึ้น
ดังนั้น ถ้าเรารู้จักมองให้ดี ให้ลึกลงไปกว่าแค่ที่สายตาจะมองเห็น เราจะรู้เลยว่า “ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ไร้ประโยชน์” และ “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ”
แทนที่ไลน์ทูเดย์จะจัดทำคอลัมน์ธรรมะให้เป็นหมวดหมู่ มีคุณธรรมไว้สอนคน แต่แม่งมีแต่อีพวกดูดวงงมงายทรงเจ้าเข้าผี สื่อยุคเสื่อม
10 ก.ค. 2561 เวลา 02.16 น.
Y0S ทุกสิ่งย่อมมีมูลเหตแห่งปัจจัย จึงเกิดผลแห่งเหตนั้นๆ
09 ก.ค. 2561 เวลา 13.32 น.
ทุกการกระทำมีราคาเสมอ
09 ก.ค. 2561 เวลา 14.37 น.
S.CIC อดีเราเคยโง่ ตอนนี้ก็ยังโง่แต่น้อยลง
พยายามเตือนตัวเองตลอดเวลาก็ยังหลุดบ้าง
09 ก.ค. 2561 เวลา 13.46 น.
@... ในบางครั้งกับการที่จะต้องทำใจก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ.
09 ก.ค. 2561 เวลา 13.37 น.
ดูทั้งหมด