หนุ่มสอบเข้า ราชการ ได้คะแนนอันดับ 1 แต่ไม่ได้รับบรรจุ เจ็บจี๊ด ‘คนไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่’
ราชการ – วันที่ 23 มิ.ย. มีหลายครั้งที่อาจจะเคยได้ยิน หรือประสบกับตัวเอง ในเรื่องความไม่โปร่งใสในการสอบเข้าระบบราชการ แม้จะได้คะแนนเป็นอับดับ 1 แต่ก็ไม่สามารถก้าวข้ามผ่าน หรือเอาชนะคำว่า เด็กเส้น ที่มาเหนือ กฎกติกา จนต้องเสียใจและเจ็บช้ำมานักต่อนัก
ล่าสุดก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง (นายชนะพล แสงชา) ออกมาโพสต์เรื่องราว โดยย่อระบุว่า ได้ไปสอบเข้าในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครพนม ตำแหน่งจ้างเหมาบริการ มีคนสอบทั้งหมด 40 คน ซึ่งผลคะแนนออกมาปรากฏว่า นายชนะพล ได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 (นายชนะพลขอดูคะแนนสอบจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งคณะกรรมการคนอื่นก็แจ้งว่า นายชนะพลได้คะแนนสูงสุด) แต่ปรากฎว่า หัวหน้าหน่วยงานที่จัดสอบดังกล่าว ได้เรียกนายชนะพล เข้าไปพูดคุย พร้อมบอกว่า ครั้งนี้อาจจะไม่ใช่เวลาของนายชนะพล
จากโพสต์ระบุดังนี้
“มันคงยังไม่ถึงเวลาของเราแหระ”
นี่คือคำตอบและเหตุผลว่าทำไมถึงสอบแล้วไม่ได้งานทำ ทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่าตัวเองได้คะแนนเยอะ จึงเชื่อได้เลยว่า “คนที่สอบได้ ยังไงก็แพ้คนที่ใช่(ที่เขาเลือกไว้แล้ว)”
เรื่องราวที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกในตำแหน่งจ้างเหมาบริการ(ลูกจ้างรายปีเงินเดือนหมื่นห้า) ของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวเป็นหน่วยงานระดับภูมิภาค สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงหนึ่งที่สีประจำกระทรวงคือสีชมพู และพึ่งมีเรื่องฉาวออกมาเกี่ยวกับการโกงเงินคนยากไร้
คือ ซึ่งในการสอบครั้งนี้ก็มีผู้คนมาสมัครสอบกว่า 40 คน ซึ่งถือว่าเยอะเลยทีเดียว ซึ่งคนที่มาสมัครก็เป็น นศ. จบใหม่บ้าง ว่างงานบ้าน อยากย้ายงานบ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหวังกับการสอบในครั้งนี้ ซึ่งผมเองก็หวังอย่างมากเช่นกัน เพราะอย่างน้อยผมก็จะได้กลับไปทำงานที่บ้านถ้าหากว่าสอบได้
และการสอบก็ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 19 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา โดยภาคเช้าสอบความรู้ความสามารถทั่วไป+ตำแหน่ง ภาคบ่ายสอบสัมภาษณ์ และก็จะประกาศผลในวันเดียวกันวันนั้นเลย
ซึ่งเรื่องราวที่มันไม่โอเครก็กำลังจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้…
คือหลังจากที่ผมสอบสัมภาษณ์เสร็จ (ประมาณ 17.00 น.) ผมก็ออกจากห้องสัมภาษณ์แล้วไปจองตั๋วรถกลับ กทม. เพราะว่าลางานถึงวันที่ 19 มิ.ย. เท่านั้น ก็ไปจองตั๋วรถอะไรเสร็จสรรพแล้วก็อาบน้ำเก็บกระเป๋าเตรียมตัวและรอเวลาไปขึ้นรถ ซึ่งเวลารถออกคือ 19.30 น.
จนเวลาประมาณ 19.00 น. มีคณะกรรมการสอบท่านนึง (ไม่ขอเอ่ยว่าใคร) ได้ฝากคนมาแจ้งกับเราว่า เราเป็นคนที่สอบได้คะแนนเยอะที่สุด ฉะนั้นแล้ว ไม่อยากให้เดินทางกลับในวันนี้ อยากให้อยู่เพื่อรายงานตัวในวันถัดไป (ถ้าไม่มีคลื่นใต้น้ำ) ซึ่งตอนนี้ผมก็โอเครงั้นรอก็ได้ ทิ้งตั๋วก็ได้ ซึ่งกรรมการท่านนั้นก็แอบฝากยืนยันมาว่า ยังไงเราก็ต้องได้แน่นอนเพราะคะแนนเราทิ้งห่างกับคนอื่นมาเยอะเหมือนกัน (เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานในกระทรวงนี้มาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี) แต่กรรมการท่านนั้นก็บอกว่ายังไงก็ให้รอดูประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในคืนนี้
จนเวลาประมาณ 20.00-20.30 น. เว็บไซต์และแฟนเพจหน่วยงานดังกล่าว ก็ได้อัพไฟล์ประกาศผลสอบออกมาอย่างเป็นทางการ ปรากฎว่า ชื่อผมอยู่อันดับที่สองจ้าาาาาาาาาาา ตาแตกไปตาม ๆ กัน กรรมการท่านนั้นเองก็ยังยืนยันว่ายังไงคะแนนของเราก็สูงที่สุด เป็นแบบนี้ได้ไง กรรมการท่านอื่นก็เห็นตามกันว่าคะแนนของเราสูงที่สุด เราเองก็สตั๊นไปชั่วขณะเหมือนกัน เพราะตั๋วรถกูก็ต้องทิ้ง งานกูก็ต้องลา อิเหี้….. อิหยังวะ ตาแตกบักคักจ้าาาาาา
เมื่อรู้อย่างนั้นก็ตั้งสติแล้วค่อยจัดการตัวเองไปทีบะเรื่อง 1.โทรไปลางานเพิ่มพร้อมบอกเหตุผล 2. ร่างหนังสือขอดูคะแนนสอบไว้รอ ยังไงพรุ่งนี้ก็ลา ก็ขอเห็นคะแนนสอบตัวเองหน่อยเถอะ 3. โทรไปเล่าทุกอย่างให้พ่อให้แม่ฟัง แม่บอกว่าอย่าไปต่อรองเรื่องสร้างเรื่องต่อเลยเป็นห่วงว่าอนาคตจะหางานยาก ส่วนพ่อก็มาคนละแนวกับแม่ พ่อบอกยอมทำไมจัดโลด!!! ซึ่งทุก ๆ ครั้ง ผมเองก็เป็นคนง่าย ๆ จบก็คือจบ ไม่อยากต่อเรื่องให้มันยาว แต่เรื่องนี้ก็เสียหายไปหลายพัน ที่สำคัญคือเสียเวลาและความรู้สึด จึงเลือกที่จะไปขอดูคะแนนสอบ เพื่อความสบายใจของตัวเอง และความภาคภูมิใจว่าเราทำข้อสอบได้จริง ๆ
จนวันถัดมา (20 มิ.ย. 61) ผมได้ไปยื่นหนังสือเพื่อขอดูคะแนนสอบพร้อมกระดาษคำตอบของตัวเอง ยื่นตอนเวลา 09.20 น. แต่ หัวหน้าสำนักงานพึ่งเซ็นแทงออกมาใงว่าอนุญาตให้ดูคะแนนได้ตอน 16.00 น. ซึ่งผมก็รีบไปดู ซึ่งดูแล้วก็เป็นไปตามที่ผมคิดไว้ เพราะผมจำได้ทุกข้อว่าผมตอบอะไรไปบ้าง
ซึ่งข้อสอบปรนัย(ความรู้ทั่วไป) 40 ข้อ 40 คะแนน ผมทำได้ 31 ข้อ 31 คะแนน (คิดว่าเยอะกว่าเพื่อน ๆ ที่มาสอบด้วยกัน) ข้อสอบอัตนัย 2 ข้อข้อละ 30 คะแนน ผมได้ข้อที่ 2 30 คะแนน และข้อที่ 3 27 คะแนน (ข้อสอบมี 3 ข้อให้เลือกทำ 2 ข้อ) ซึ่งเท่ากับว่าสอบข้อเขียนผมได้คะแนนทั้งหมด 88/100 คะแนน
ส่วนคะแนนสอบสัมภาษณ์ผมก็ได้ 81 คะแนน รวมแล้วผมได้คะแนนทั้งหมด 169/200 คะแนน (สำหรับผม ผมถือว่าเป็นคะแนนที่เยอะมากกกกกกกกก) แล้วมั่นใจด้วยว่าเยอะกว่าของคนอื่น ๆ
แต่จุดพีคก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับ จุดพีคมันอยู่ตรงที่ว่าผมไปสืบรู้มาจากคนภายในว่ากรรมการสอบ(ที่ดูแลเรื่องการประกาศผลสอบ)ได้เสนอลำดับชื่อไปแล้วครั้งหนึ่ง (ซึ่งเป็นชื่อผมเองที่ขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่ง) แต่ปรากฏว่าหัวหน้าใหญ่ของหน่วยงานนั้นบอกว่า ให้ผมไปอยุ่ลำดับที่สองแล้วให้ใครจากลำดับไหนก็ไม่รู้ขึ้นมาอยุ่อันดับที่หนึ่งแทนผม เอ่าแล่ววววววววววบาดทีหนิ ยาวกว่าเดิมแท้ ๆ เรื่องนี้
คิดว่านั่นพีคแล้วใช่มั้ยครับ ผมจะบอกว่ามีพีคกว่านั้นครับ เพราะในตอนที่ผมเข้าไปดูคะแนนสอบนั้นผมก็ได้เข้าไปพูดคุยกับหน้าใหญ่ของหน่วยงานนั้นซึ่งผมสรุปใจความได้ว่า
PMJ – “พี่อยากให้เราเคารพในการตัดสินใจของคณะกรรมการนะคะ ”
Me – ครับ ผมเคารพอยู่แล้วครับ (ยิ้ม)
PMJ – พี่เห็นแล้วค่ะ เห็นคะแนนของเราแล้ว คะแนนของเราสูงมากพี่เชื่อว่าเราสอบได้พี่เชื่อว่าเราทำงานเก่ง แต่ครั้งนี้อาจจะยังไม่ใช่เวลาของเราก็ได้ค่ะ
Me – ยิ้ม
เจอประโยคที่บอกว่า “ครั้งนี้อาจจะยังไม่ใช่เวลาของเราก็ได้ค่ะ” ถ้าเป็นคุณ คุณจะจี้ดมั้ยครับ ผมนี่หน้าชาเลยครับบบบบบบ
เจอแต่ละคำพูดของเขาผมอยากจะสวนกลับในทันทีทันใดเลยว่า “เวลาไหนคือเวลาของผมหรอครับ…ไม่ใช่เวลาที่ผมสอบได้คะแนนเยอะใช่มั้ย”
และที่ให้เคารพการตัดสินใจของกรรมการ นี่ กรรมการท่านไหนครับ? เพราะที่ทราบมากรรมการที่ตรวจคำตอบของผมเขายังคัดค้านการประกาศผลในครั้งนี้ด้วยซ้ำไป เพราะคนที่ได้คะแนนเยอะที่สุดกลับไม่ใช่คนที่ได้รับคัดเลือก กลับกลายเป็นว่าคนที่ได้รับคัดเลือกคือคนที่ “ถึงเวลาแล้ว” งั้นหรือ?
ผมอยากเห็นความสุจริตใจในการสอบครั้งนี้ครับ อยากให้มีการเปิดผลคะแนนของผู้สอบติดบัญชีในครั้งนี้ทุกคน แล้วเปรียบเทียบกันให้เห็นไปเลยว่า คนที่ได้คะแนนเยอะ ไม่ได้ถูกเลือกเหมือนคนที่ “ถึงเวลา”
ก่อนเดินออกจากห้องท่านก็ยังบอกอีกว่า ครั้งต่อไปอาจจะเป็นเวลาของเรา(ผม) ก็ได้ “มีอะไรก็มาคุยกันได้ค่ะ ทีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้ค่ะ พี่จะดูแลให้ค่ะ” ผมก็ได้แต่บอกว่า “ขอบคุณครับหัวหน้า”
สรุปคือ คนไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่ แล้วจะเปิดสอบให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อระเบียบการจ้างเหมาบุคคลก็สามารถจ้างได้โดยวิธีการเจาะจงได้อยู่แล้ว เปิดสอบทำไมครับ สอบเพื่อที่จะได้ให้โอกาสแล้วให้ติดบัญชีไว้โก้ ๆ อย่างนั้นใช่รึป่าวครับ สัญญาจ้างก็สัญญาจ้างหนึ่งปี บัญชีก็มีอายุแค่ 1 ปี หมดหนึ่งปีก็จบข่าว…….พอละขี้เกียจพิมพ์เจ็บนิ้ว………..สวัสดี……….
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานดังกล่าวได้ทำหนังสือราชการเพื่อแจ้งรายละเอียด และประกาศผลผู้ผ่านการสอบ โดยชื่อของนายชนะพล แสงชา อยู่ในลำดับที่ 2 พร้อมแจ้งว่าชื่อของนายชนะพล จะขึ้นบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกไว้เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของการสอบเข้าในหน่วยงานราชการ ที่จะเรียกผู้ผ่านการสอบเข้าในลำดับถัดไปมาแทนที่ ในกรณีที่เกิดกรณีพิเศษหรือเหตุขัดข้อง
beer มันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ยิ่งหน่วยงานท้องถิ่นเขาแค่เปิดสอบเพื่อให้เป็นไปตามกฏระเบียบ ความจริง เขามีคนไว้หมดแล้ว เข้าใจเพราะเคยโดนกับตัวเองมา และก็เคยเห็นรุ่นน้องโดนมาเหมือนกันนิแหละ ประเทศไทย
23 มิ.ย. 2561 เวลา 07.13 น.
ระบบเด็กเส้นเด็กนาย. มีทุกที่. มันขายกระดาษก็ได้ค่ากระดาษ. แค่หลอกขายกระดาษให้ดราไปซื้อมาสอบเท่านั้น
23 มิ.ย. 2561 เวลา 06.52 น.
ถ้าเป็นจริงตามนั้นแสดงว่าหน่วยงานนี้
หัวหน้าแม่เหี้ยครับ
23 มิ.ย. 2561 เวลา 07.13 น.
pitsamai มันหาเงินขายใบสมัคร
23 มิ.ย. 2561 เวลา 07.12 น.
Nu'Lek S.Suneerat ณ.ที่แห่งนี้ ปทท. ทำใจ และสู้ต่อไปนะ
23 มิ.ย. 2561 เวลา 07.04 น.
ดูทั้งหมด