ถอดบทเรียนน้ำท่วมปี 54 “เอสเอ็มอี ต้องตั้งสติ ทุกอย่างเริ่มใหม่ได้”

ถอดบทเรียนน้ำท่วมปี 54 “เอสเอ็มอี ต้องตั้งสติ ทุกอย่างเริ่มใหม่ได้”

อีกหนึ่งสถานการณ์ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดขณะนี้คือ วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ โดยเฉพาะภาคอีสาน จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบมากกว่าใคร บ้านเรือนจมน้ำเสียหาย ประชาชนต้องทิ้งบ้านอพยพหนีน้ำ เพื่อเอาชีวิตรอด

ในสถานการณ์เช่นนี้ เชื่อว่าส่วนหนึ่งของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย คงเป็นผู้ประกอบการ หรือเอสเอ็มอีตัวเล็กๆ ที่คาดเดาได้ว่าธุรกิจคงได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ เช่นเดียวกับ นักธุรกิจหนุ่ม คุณโก้-ปิติพงศ์ รอยเรืองพานิช อายุ 30 ปี ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อปี 2554 หลังทุ่มเงินราว 16 ล้านบาท สร้างโรงงาน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แบบ OEM หรือผู้รับจ้างผลิต บนพื้นที่ 3 ไร่ แถวศาลายา เพียง 3 วัน ต้องเจอกับเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ ทุกอย่างจมไปกับน้ำนาน 2 เดือน

“น้ำเริ่มท่วมปลายเดือนตุลาคมครับ ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ตั้งตัวไม่ทัน แต่ก็พยายามป้องกันทุกวิถีทาง ปิดรูหน้าต่าง กระจก ทุกบาน โบกปูนปิดประตูทางเข้าไว้ครึ่งหนึ่ง วางแนวกระสอบทราย ตั้งเครื่องสูบน้ำ ยกข้าวของวัตถุดิบขึ้นที่สูง แต่ไม่เป็นผล น้ำไหลมาเร็วกว่าที่คิด วันเดียวท่วมสูงถึงเอว ต้องเร่งอพยพคนงาน อาศัยรถเก็บขยะนั่งออกไป เพราะรถเล็กเข้าไม่ได้”

คุณโก้ เผยต่อว่า ช่วงเดือนมกราคม น้ำเริ่มลด แต่ยังไม่แห้งสนิท กลับเข้ามาดูข้าวของที่ยกขึ้นที่สูง ปรากฏว่าตกลงมาเสียหายหมด ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ สรุปมูลค่าความเสียหายเกือบล้านบาท

“ช่วงน้ำท่วม เราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รอเวลาให้น้ำลด ไม่หนักเท่าไหร่เพราะท่วมไปแล้ว ที่หนักคือช่วงหลังน้ำลด เพราะเสียโอกาสทางธุรกิจ ลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในโซนน้ำท่วมไม่เข้าใจว่าทำไมเราส่งของให้ไม่ได้ ก็เปลี่ยนเจ้า โรงงานก็เสียหาย จากที่สร้างใหม่ๆ โดนน้ำท่วมไปเก่าทันที เป็นคราบ ขึ้นรา ระบบท่อน้ำใต้ดินอุดตันไปด้วยเศษดิน เศษทราย ขยะ ที่พัดมากับน้ำ ต้องเร่งฟื้นฟูรีโนเวตโรงงานใหม่ และหาลูกค้าใหม่” คุณโก้ เล่าถึงความเสียหายของโรงงาน

และสำหรับเอสเอ็มอีที่อาจจะประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ คุณโก้ แนะนำว่า อยากให้ทุกคนตั้งสติก่อน ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ให้มองว่าน้ำท่วมเป็นเพียงอุปสรรคอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจที่ต้องผ่านไปให้ได้ ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้

“ส่วนตัวผมอยากให้มีหน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาสำรวจความเสียหาย และสนับสนุนเอสเอ็มอี หรือผู้ประกอบการเรื่องเงินทุนสำหรับฟื้นฟู เพราะหลังน้ำลดจะเกิดความเสียหายมาก เงินทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญ อาจจะเปิดเป็นโครงการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำก็ได้” คุณโก้ ทิ้งท้าย