ครบ 1 เดือนแล้ว! สำหรับเหตุการณ์ปาเลือดข่มขู่ ครูอ้อมยังผวาคดีไม่คืบคนร้ายยังลอยนวล ด้านตำรวจคาดไม่เกินต้นเดือน ต.ค.รู้ผลตรวจพิสูจน์
จากกรณีที่ครูอ้อม น.ส.อ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ อายุ32ปี ครูประจำชั้นอนุบาลของ รร.วัดวงเดือนในพื้นที่ ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท ถูกมือดีปาด้วยก้อนเลือดสัตว์สดๆใส่ประตูห้องเรียน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการท้วงติงและตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวันของนักเรียนที่พบว่าไม่มีคุณภาพ และไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป โดยมีภาพของนักเรียนกินผัดบะหมี่วิญญาณหมูเป็นหลักฐานสำคัญ ต่อมาได้มีคำสั่งย้ายครูอ้อมไปช่วยงานที่ สพป.ชัยนาท จนมีกระแสกดดันทำให้ต้องกลับลำย้ายนายสุเทพ สิงห์สม ผอ.โรงเรียนไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาทแทน และทางโรงเรียนเองไม่ต่อสัญญากับป้าแต๋วแม่ครัว และเกิดแรงกระเพื่อมให้ ครูในโรงเรียนขอลาออก1คนและขอย้ายไปสอนที่อื่นอีก3คน
ส่วนทางคดีตำรวจ สภ.ห้วยงูได้หลักฐานสำคัญคือ ถุงเลือกสัตว์ที่ถูกพบในถังขยะที่ตั้งอยู่ใกล้อาคารเรียนที่เกิดเหตุ จึงเก็บรวบรวมส่งตรวจพิสูจน์ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจภาค1 จ.ปทุมธานี และได้เรียกตัวผุ้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในดคีไปทำการสอบสวน รวมทั้ง “ป้าแต๋ว” ที่ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ปาเลือดไม่กี่ชั่วโมงได้โพสต์ภาพถุงเลือดที่ลักษณะคล้ายกับที่พบในถังขยะด้วย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ โรงเรียนวัดวงเดือนอีกครั้ง โดยครูอ้อมกับเพื่อนๆครูยังคงทำการสอนตามปกติ ซึ่งเมื่อถามครูอ้อมว่า ครบ1เดือนของเหตุการณ์ถูกปาเลือดข่มขู่ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ครูอ้อมบอกว่าทุกวันนี้ยังคงอยู่ในความหวาดกลัว เวลานอนที่บ้านพักครูก็ต้องสำรวจกลอนประตูหน้าต่างอยู่หลายรอบด้วยความกังวล หลายครั้งต้องผวากลางดึกเพราะกังวลว่าคนร้ายที่ยังลอยนวลอยู่จะย้อนกลับมาทำร้ายเธอได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดีให้ด้วย โดยครูอ้อมยืนยันว่า แม้จะต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัวแต่ก็ยังไม่คิดที่จะขอย้ายตัวเองไปที่อื่นเพราะยังเป็นห่วงเด็กๆ
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ร.ต.อ.สมพงษ์ บุปผาวรรณา พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยงู เจ้าของคดีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ล่าสุดได้สอบถามไปที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรภาค1 แล้วได้รับคำตอบว่า ผลการตรวจพิสูจน์ใกล้จะออกแล้ว น่าจะเร็วๆนี้ คาดว่าไม่น่าจะเกินต้นเดือน ต.ค. ส่วนการตั้งข้อหาหรือการออกหมายจับนั้น ร.ต.อ.สมพงษ์บอกว่ายังไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหา หรืออกหมายจับใครได้ ต้องรอหลักฐานจากการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์จากพิสูจน์หลักฐานมาประกอบ จึงจะสามารถระบุตัวคนร้ายได้ จึงจะดำเนินการออกหมาย แจ้งข้อกล่าวหา และจับกุมตัวได้
หน่วยงานที่มีหน้าที่ มันไม่ทำหน้าที่ของตนเอง อ้างงานยุ่ง คดีอื่นสำคัญกว่าบ้างจนเรื่องยืดยาวและเงียบหาย ถ้าพวกมุงไม่สนใจในงานของตนก็ไสหัวกันออกไปซะคนดีๆตั้งใจทำงานมีอีกเยอะ
ไม่ใช่มัวแต่จ้องจะแดกจนประชาชนหาที่พึ่งไม่ได้
23 ก.ย 2562 เวลา 10.32 น.
ใจเขาใจเรา เขัาใจนะ ย้ายกลับไปอยู่กลับแม่กลับลูกเถอะครูอ้อมสบายใจกว่ากลับบ้านเฮาเถอะไม่ต้องมานั่งระแวงใจเฮา
23 ก.ย 2562 เวลา 07.28 น.
Pakin ( Love ) เมืองไทยก้อแบบนี้แหละ คนดีอยู่ยาก เพราะหันไปทางไหนก้อมีคอร์รัปชั่นทุกพื้นที่ ทั้งราชการ ทั้งเอกชน ทั้งชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ
23 ก.ย 2562 เวลา 07.26 น.
CH คุงตำหยวก ยังม่ายล่ายตัวอิกหลือ นางแท้งๆ555
23 ก.ย 2562 เวลา 07.14 น.
ทัด2019 การสอบต้องใช้เวลานานขนาดไหน แสดงให้เห็นความตั้งใจแก้ปัญหาของผู้บริหาร อย่างนี้ท่านรมต.จะไม่ส่งสัญญาณให้เลยหรือครับ...
23 ก.ย 2562 เวลา 07.14 น.
ดูทั้งหมด