ท่องเที่ยว

เปิดเส้นทางเที่ยว ยโสธร 2 วัน 1 คืน มีที่ไหนน่าไปบ้าง?

อีจัน
อัพเดต 13 ก.ย 2567 เวลา 16.26 น. • เผยแพร่ 13 ก.ย 2567 เวลา 04.48 น. • อีจัน

เคยไปเที่ยวยโสธรกันหรือยังงงง ใครยังไม่เคยไปยกมือขึ้นค่ะ อยากบอกว่า อีจัน ยังไม่เคยได้ไปเยือนเลยค่ะ แต่รอบนี้ ดีใจสุดๆ ครั้งหนึ่ง จัน ได้มา #ยโสธร

ทริปนี้ เราจะพาไปสัมผัสเสน่ห์ของความเก่าแก่ในย่านเมืองเก่า ชมรูปปั้นคางคกยักษ์ เก็บกระเป๋าพร้อมก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ ซึ่งเราเลือกเดินทางโดยรถยนต์ ขับจากกรุงเทพฯ ใช้เวลา 8 ชั่วโมง ก็มุ่งสู่จังหวัดยโสธรแล้วค่ะ ขับไปตามถนนหมายเลข 2 และถนนหมายเลข 202 ค่อยๆ ขับไปกันชิลๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ออกเดินทางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง มาถึงยโสธรก็บ่ายๆ ค่ะ เริ่มเที่ยวที่แรกกันที่ หมู่บ้านทำหมอนขิด @บ้านศรีฐาน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมายโสธร ที่นี่หลังฤดูทำนา ชาวบ้านทุกครัวเรือนจะทอผ้าและทำหมอนขิดค่ะ ซึ่งหมอนขิดถือเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยล่ะ

การทำหมอนขิด เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมายาวนาน ส่วนที่เรียกหมอนขิดนั้น ก็มาจากการที่หมอนทำมาจากผ้าขิด ผ้าทอพื้นเมืองของภาคอีสานนั่นเองค่ะ ผ้าขิดมีลวดลายหลากหลายและสีสันสวยงาม ถูกนำมาประยุกต์ทำเป็นหมอนขิด ถ่ายทอดภูมิปัญญากันจากรุ่นสู่รุ่น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ที่นี่เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมการทำหมอนขิดได้ ตั้งแต่การเย็บผ้า ทำปลอกหมอน การขึ้นโครง ยัดนุ่น จนเสร็จกลายเป็นหมอนขิด

อ้อ!!! นอกจากหมอนสามเหลี่ยมแล้ว ยังมีอีกหลายรูปแบบ ทั้งที่นอนระนาด ที่นอนพับ หมอนกระดูก หมอนรองคอ หมอนอิง เป็นต้น หรือจะซื้อติดไม้ติดมือไปใช้เอง เป็นของฝากของที่ระลึกก็ได้นะคะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากนั้น เรามาเช็คอินกันที่ แลนด์มาร์คยโสธร นั่นคือ เมืองพญาแถน แดนบั้งไฟ ชมพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทวน เป็นสถานที่ที่เล่าถึงความเชื่อและความอุดมสมบูรณ์ของภาคอีสาน

พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก บอกเลยสุดยิ่งใหญ่มากกก ตึกของพิพิธภัณฑ์เป็นรูปคางคก สูงกว่า 19 เมตร สำหรับชาวอีสานนั้น คางคก เป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และยังเป็นตำนานความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟที่มีมาตั้งแต่ในอดีตแล้ว นี่จึงเป็นที่มาของแลนด์มาร์คนี้นั่นเองค่ะ

มาดูในส่วนของตำนานพญาคันคาก กันค่ะเล่ากันว่า พญาคางคกนั้นเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยชาติเป็นโอรสของกษัตริย์ และสาเหตุที่ได้ชื่อว่า “พญาคันคาก” ก็เป็นเพราะเมื่อครั้งประสูติ มีรูปร่างผิวพรรณเหมือนคางคก หรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า คันคาก นั่นเอง

ถึงแม้พระองค์จะมีรูปร่างอัปลักษณ์ แต่พระอินทร์ก็คอยช่วยเหลือ จนพญาคันคากเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านชาวเมือง จนลืมที่จะเซ่นบูชาพระยาแถน พระยาแถนจึงโกรธ ไม่ยอมปล่อยน้ำฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ เลยทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างพญาคันคากและพญาแถนขึ้น

พญาคันคากได้นำทัพสัตว์ต่างๆ ขึ้นไปรบ จนได้รับชัยชนะ พญาแถนจึงปล่อยให้ฝนตกลงมาเช่นเดิม แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาเป็นประจำทุกปี เลยเป็นที่มาว่าเมื่อถึงเดือนหก ช่วงต้นเดือนฤดูฝน ชาวอีสานเลยทำบั้งไฟจุดขึ้นบนฟ้าถวายพญาแถน เพื่อฝนจะได้ตกตามฤดูกาลนั่นเองค่ะ

อาทิตย์ลาลับ เราเลยเลือกทานข้าวเย็นกันที่ ร้านครัวคุณย่า เป็นรานอาหารเก่าแก่บรรยากาศดีอยู่ในเมืองติดกับพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก ซึ่งมีเมนูอาหารถิ่นขึ้นชื่อ ได้แก่ ปลาส้มทอด สุกี้ชาบู ข้าวผัดเวียดนามห่อไข ผัดขนมเส้นทรงเครื่อง ส้มต าต้นอ่อนทานตะวัน ข้าวเปียกเส้น ย าปูนิ่มทรงเครื่อง ปากเป็ดทอด

อิ่มแล้ว ก็เข้าที่พักกันค่ะ ทริปพรุ่งนี้ รออยู่…

วันที่สองของทริป ช่วงเช้าเราแวะชมเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมือง เป็นย่านเมืองเก่าที่ปรากฏนามอยู่ในประวัติศาสตร์การก่อตั้งเมือง

ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวยังคงมีตึกแถวโบราณ ที่มีรูปทรงและลวดลายงดงาม ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีค่ะ ที่นี่เราจะได้ท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับศิลปะวัฒนธรรมพื้นเมือง และยังมีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนดูตระการตา

นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์บ้านสิงห์ท่า ยังรวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของย่านเมืองเก่าให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม ที่สำคัญในย่านนี้ ยังเป็นแหล่งทำปลาส้มและลอดช่องยโสธร ของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดยโสธร อีกด้วยค่ะ

จากนั้นช่วงกลางวัน เราเดินทางมุ่งหน้าสู่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร เยี่ยมชมกลุ่มโคขุนหนองแหน ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านปศุสัตว์แห่งใหม่ของยโสธรค่ะ

เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสกับวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนคนเลี้ยงโคขุนคุณภาพ ที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศ โชว์ความแสนรู้ของโคที่เลี้ยงเสมือนสัตว์เลี้ยงแสนรัก พร้อมทั้งให้ความรู้ในเรื่องของการรวมกลุ่มและการเลี้ยงโคขุนสร้างรายได้

ก่อนกลับ เราแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน เนื้อโคขุน By โคขุนหนองแหน

เป็นยังไงบ้างคะ 2 วัน 1 คืน กับทริปยโสธร อาจจะน้อยไปนิด จริงๆ ยังเที่ยวไม่หมดเลยนะคะ นี่ขนาดมาวันธรรมดานะเนี่ย เอาเป็นว่า ทริปนี้เราได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองเก่า ได้ชมศิลปะวัฒนธรรม ได้ถ่ายรูปชิคๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำ

เราอยากแนะนำให้ทุกคนมาเที่ยวยโสธรกันดูสักครั้งนะคะ รับรองว่าต้องตราตรึงในความทรงจำอย่างแน่นอนเลยค่ะ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • Нахуй🤣😂
    แอดนำเสนอประวัติเมืองแบบคร่าวๆได้ดีมาก กระชับได้ใจความ ขอชื่นชม แต่ใกล้ๆกันคือจังหวัดร้อยเอ็ดอย่าลืมไปชมเมืองแบบ 360 องศานะ ตึกหอโหวด สูง101 เมตร ชมทัศนียภาพสวยๆค่าเข้าชมคนไทยแค่ 50 บาทเองแอด
    14 ก.ย 2567 เวลา 04.07 น.
  • แป้งหน่อย อมรรัตน์
    ตึกเก่ามีแต่สวยๆน่าไปถ่ายรูปจัง
    14 ก.ย 2567 เวลา 03.20 น.
ดูทั้งหมด