ทรัมป์ เล็งพิจารณาแก้ "แผนภาษีศุลกากร" ครั้งสำคัญ ยังคงเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศต่างๆ แต่มุ่งเฉพาะสินค้า-บริการบางประเภท
วันที่ 6 มกราคม 2568 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ กำลังพิจารณาแผนที่จะยังคงเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศต่างๆ ทุกประเทศ แต่จะเน้นเฉพาะสินค้าและบริการบางประเภทเท่านั้น ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์
โดยแนวทางใหม่ในการเก็บภาษีศุลกากรนั้นอาจจะไม่ทรงพลังเท่ากับแนวคิดก่อนหน้านี้ของทรัมป์ แต่ก็ยังคงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อการค้าโลก
รายงานดังกล่าวออกมาท่ามกลางความกังวลว่าการที่ประธานาธิบดีคนใหม่ยืนกรานที่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรสากล 10% หรือ 20% และมุ่งเป้าไปที่จีนและเม็กซิโกโดยเฉพาะนั้นจะส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของทรัมป์ ภาษีนำเข้าสินค้าหลากหลายประเภทไม่ได้ช่วยปรับราคาขึ้นมากนัก และในความเป็นจริง ภาษีเหล่านี้ยังคงมีผลบังคับใช้เมื่อโจ ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์กังวลว่าสถานการณ์ในปัจจุบันแตกต่างไป และภาษีศุลกากรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นอาจส่งผลกระทบมากขึ้น
รายงานระบุอีกว่ายังไม่ชัดเจนว่าภาคส่วนใดบ้างที่จะได้รับผลกระทบจากแผนดังกล่าว แม้ว่าการหารือในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่โลหะอุตสาหกรรมต่างๆ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และพลังงานก็ตาม
อนึ่งสหรัฐมีการขาดดุลการค้า 74,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงการระบาดของโควิด-19