SMEs-การเกษตร

สาวสวยบ้านนา มือใหม่หัดทำเกษตร ปลูกพืชผัก-เลี้ยงสัตว์ 4 เดือน เริ่มมีรายได้

เทคโนโลยีชาวบ้าน
อัพเดต 07 ม.ค. 2565 เวลา 09.59 น. • เผยแพร่ 10 ม.ค. 2565 เวลา 02.00 น.

สำหรับอาชีพเกษตรถือเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศและคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในช่วงอายุประมาณสัก 28-35 ปี เป็นอย่างมาก ถือเป็นปรากฏการณ์ที่แตกต่างไปจากอดีต ที่อาชีพเกษตรจะเป็นอาชีพสุดท้ายที่คนจะนึกถึง ขนาดที่ว่าลูกบ้านไหนที่มีพ่อแม่ปูทางงานด้านการเกษตรไว้ให้ก็ไม่เต็มใจอยากจะสานต่อสักเท่าไหร่ กระเสือกกระสนที่จะไปทำงานในเมืองหลวง

เหตุผลส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะได้จดจำภาพที่พ่อแม่ทำแล้วลำบาก ทำแล้วมีแต่หนี้ แต่เมื่อมาถึงยุคปัจจุบันยุคที่ข้าวยากหมากแพง กลับกลายเป็นว่าอาชีพเกษตรกลายเป็นอาชีพที่เนื้อหอม ด้วยการดำรงชีวิตยุคปัจจุบันที่มีความเคร่งเครียดขึ้น แก่งแย่งเพื่อให้ตัวเองได้อยู่รอด หรือหลายคนอยากหลุดพ้นจากงานประจำ อยากมีชีวิตอิสระ เพราะฉะนั้นอาชีพเกษตรกรจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ ทั้งในแง่ของการลดค่าใช้จ่ายประจำวันปลูกผักกินเอง รวมถึงในแง่ที่จะได้หนีจากความวุ่นวายในเมืองหลวง ไปใช้ชีวิตอิสระแบบที่อยากเป็น แต่ก็ยังคงตอบโจทย์ชีวิตที่มั่นคงได้อีกด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คุณปรียาภรณ์ กงเพชร หรือ คุณบุ๋ม อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 12 ตำบลเชียงยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม สาวบ้านนาหน้าใส ผันตัวเป็นเกษตรกรเริ่มต้นทำเกษตรผสมผสานบนพื้นที่ 3 ไร่ บนความรู้ที่เกือบจะเป็นศูนย์ ใช้เพียงความตั้งใจค่อยๆ เรียนรู้ทดลองผิดลองถูก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลากว่า 4 เดือน ที่เธอคนนี้ได้ทุ่มทั้งแรงกายแรงใจกับงานทำสวน จนได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจสามารถเก็บพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้เล็กๆ น้อยๆ ภายในสวนขายได้แล้ว ถึงแม้ว่าในช่วงเริ่มต้นรายได้อาจจะยังไม่มาก แต่ในอนาคตตั้งเป้าหมายไว้จะต้องสร้างรายได้จากสวนผสมให้ได้วันละพันบาท

คุณบุ๋ม เล่าถึงจุดเริ่มต้นการมาเป็นเกษตรกรสาวบ้านนาว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำเกษตรตนเองได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อเก็บเงินสักก้อนแล้วกลับมาลงทุนหาอะไรทำอยู่ที่บ้าน โดยตั้งเป้าหมายของอาชีพที่จะลงทุนไว้ว่าจะต้องเป็นงานที่สามารถทำอยู่ที่บ้านได้ และมีเวลาเหลือดูแลพ่อแม่ได้ทุกเวลา แล้วก็ได้มาประจวบเหมาะกับที่บ้านมีที่ดินว่างเปล่าที่ไม่ได้ทำประโยชน์ไว้ จึงมีความคิดว่าอยากจะสร้างที่ดินตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการทำเกษตรที่แตกต่างจากรุ่นพ่อแม่ที่ปลูกแต่พืชเชิงเดี่ยว ปลูกมันสำปะหลัง ทำไร่อ้อย นานกว่าจะมีรายได้ ด้วยการทำเกษตรผสมผสานเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว และยังสามารถเก็บขายสร้างรายได้เป็นรายวันได้อีกด้วย จึงตัดสินใจลงมือทำอย่างไม่ลังเล อาศัยหาความรู้จากเกษตรกรมืออาชีพในช่องยูทูป ดูไปทำไปจนได้ออกมาเป็นสวนผสมผสานในรูปแบบของตนเอง ยึดหลักความสะดวก ใช้สอยประโยชน์ได้จริงๆ ไม่เน้นทฤษฎีมากเกินไป ทำตามในรูปแบบที่ตนเองพอใจ

**เกษตรผสมผสาน 3 ไร่ จัดสรรพื้นที่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปลูกผัก-เลี้ยงสัตว์ ตามใจตัวเอง**

เจ้าของบอกว่า ในพื้นที่ 3 ไร่ ได้มีการจัดสรรไว้สำหรับปลูกพืชผักผลไม้หลากหลาย ส่วนที่ 1 แบ่งเป็นพื้นที่ขุดสระน้ำไว้ 2 บ่อ ไว้กักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการเพาะปลูก และในขณะเดียวกันก็จะปล่อยปลาลงไปเลี้ยงควบคู่กันไป โดยจะแยกระหว่างปลากินพืชและปลากินสัตว์ เช่น ปลาดุก ปลานิล ปลาตะเพียน และปลาบึก บ่อละ 3,000 ตัว รวมถึงมีการปล่อยหอยเชอรี่ลงไปเลี้ยงถือเป็นผลพลอยได้ เก็บกินได้ เก็บขายได้กิโลกรัมละ 20 บาท

  • พื้นที่สำหรับทำนาปลูกข้าวไว้จำนวน 1 งาน และในช่วงหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วมีโครงการทดลองปล่อยน้ำลงในนาข้าวแล้วปล่อยปลาเลี้ยงพืชลงไปเลี้ยง เพื่อสังเกตความแตกต่างระหว่างการเลี้ยงในสระกับการเลี้ยงในนาข้าว ปล่อยให้ปลาได้กินตอซังข้าว แบบไหนปลาจะเจริญเติบโตได้ดีกว่ากัน ถ้าหากผลออกมาว่าปล่อยเลี้ยงในนาข้าวได้ผลดีกว่า ภายในปีหน้าก็จะลดพื้นที่การปลูกข้าวลงแล้วขยายการเลี้ยงปลาเพิ่มมากขึ้น
  • พื้นที่สำหรับปลูกพืชผักสวนครัวหลากหลายชนิดสลับหมุนเวียนกัน เช่น มะเขือเปราะ พริก มะนาว ผักบุ้ง คะน้า ผักกาด กวางตุ้ง ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ รวมถึงผักสลัด โดยพืชผักทุกอย่างปลูกแบบปลอดสารพิษทั้งหมด
  • พื้นที่ 1 ไร่ ไว้สำหรับทำโคก หนอง นา โมเดล ปลูกไม้ผล เช่น กล้วยหอม 20 กอ กล้วยน้ำว้าปลูกไว้บริเวณรอบขอบสระ ข่า 20 กอ มะพร้าวน้ำหอม 20 ต้น มะขามเทศ 10 ต้น ฝรั่งกิมจู 5 ต้น มะม่วง 3 ต้น น้อยหน่า 10 ต้น มะละกอฮอลแลนด์ มะละกอดำเนิน ข้าวโพดหวาน เป็นต้น
  • พื้นที่สำหรับปลูกไม้ยืนต้น เช่น ยางนา เพื่อไว้ใช้ประโยชน์ทางด้านนิเวศ ให้ร่มเงา กำบังลม ให้ความชุ่มชื้น ควบคุมอุณหภูมิในอากาศ ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ฯลฯ
  • สระสำหรับเพาะเลี้ยงแหนแดง ไว้ต่อยอดอาหารลดต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ต่อไป “ขยายไว้ก่อน พอมีเยอะก็เลี้ยงสัตว์ต่อเลย”

ซึ่งในตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือน ที่ได้เริ่มลงมือทำเกษตรก็เริ่มเกิดรายได้ขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มาก แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ในตอนนี้จะเริ่มมีรายได้มาจากพืชอายุสั้นอย่างมะเขือเปราะ พริก และพืชผักสวนครัวเก็บขายสร้างรายได้เป็นรายวันได้ประมาณ 200-300 บาท โดยในอนาคตวางแผนไว้ว่าจะต้องสามารถสร้างรายได้จากสวนผสมผสานให้ได้วันละพันบาทขึ้นไป

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เทคนิคการปลูกผักสไตล์คนรุ่นใหม่

คุณบุ๋ม บอกว่า สำหรับเทคนิคการเตรียมดินสำหรับปลูกพืชผักสวนครัวทั่วไป เริ่มต้นจากการเตรียมดิน ที่สวนจะใช้จอบขุดดินเพื่อยกร่องทำแปลงปลูกผัก แล้วตากดินทิ้งไว้สัก 1-2 วัน จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์คลุกเคล้าไปกับดินที่เตรียมไว้ เพื่อเป็นการเพิ่มสารอาหารให้ดินและยังช่วยการอุ้มและระบายน้ำของรากพืชได้ดี แล้วนำฟางมาคลุมดินคือสำคัญมาก ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับหน้าดิน

การปลูก ใช้ต้นกล้าที่แข็งแรงแล้วลงปลูก จากนั้นรดน้ำ ใช้เวลาปลูกเพียง 30-45 วัน ได้เก็บขาย

การดูแลใส่ปุ๋ย หลังจากลงหลุมปลูกได้ 2 สัปดาห์ ให้ใส่ปุ๋ยคอก และจะมีการใส่จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงลงไปเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ทำให้พืชแข็งแรงแล้วโตเร็ว และมีการฉีดพ่นด้วยสูตรน้ำหมักผักสดที่เป็นสูตรเฉพาะของที่สวนให้กับพืชผักทุก 15 วัน เพื่อบำรุงให้ผลผลิตออกมาเขียวสวย

สูตรน้ำหมักผักสด มีวิธีทำดังนี้

ส่วนผสม

  • จุลินทรีย์ EM
  • กากน้ำตาล
  • เศษผัก เศษผลไม้ ที่เหลือจากการเหลือกินเหลือทิ้ง

วิธีทำ

เตรียมน้ำเปล่าใส่ถังไว้ปริมาณ 20 ลิตร จากนั้นใส่เศษผักผลไม้ที่เตรียมไว้ลงไป แล้วเทจุลินทรีย์ EM และกากน้ำตาลลงไป ในสัดส่วน จุลินทรีย์ EM 2 ฝา กากน้ำตาลประมาณ 1.25 ลิตร และเศษผักเหลือทิ้งอีกประมาณ 2 กิโลกรัม ปิดฝาทิ้งไว้

วันต่อมานำไม้มาคนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วปิดฝาทิ้งไว้ โดยทำแบบนี้ติดกันในช่วงระยะเวลา 3 วันแรก แล้วนำถังหมักมาวางไว้ในที่ร่ม แล้วให้หมักทิ้งไว้อีกประมาณ 3 เดือน สามารถนำมาใช้ได้

วิธีการใช้ นำมาผสมใส่บัวรดน้ำในสัดส่วนปุ๋ยหมัก 2 ฝาต่อ 1 บัวรดน้ำ รดทุก 15 วัน ถ้าเป็นผักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวเร็วประมาณ 30 วัน รดเพียง 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นผักที่มีระยะเวลาการปลูกประมาณเดือนครึ่งก็จะให้น้ำหมัก 2 ครั้ง คือ 15 วัน รด 1 ครั้ง สูตรนี้จะช่วยให้ผักใบเขียวสด และยังช่วยบำรุงดินได้ดีด้วย

การตลาด หาได้ง่ายๆ จากคนในชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียง ด้วยการนำเสนอและทำให้ทุกคนเห็นว่าผักทุกชนิดที่ออกมาจากสวนเราปลอดภัย และขายในราคาเหมือนพี่เหมือนน้อง ขายบ้างแถมบ้าง ส่วนเพื่อนบ้านชุมชนใกล้เคียงนั้นเกิดจากการสร้างตัวตนในเฟซบุ๊กให้น่าเชื่อถือ ใครเห็นแล้วสนใจอยากกินผักกินปลาที่สวนของเราจะมาขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก จนเกิดเป็นเพื่อนและลูกค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง

มือใหม่หัดปลูก จิตใจต้องแน่วแน่

“ของพี่ตอนช่วงที่กลับมาอยู่บ้านปลูกผักปลูกผลไม้ ในช่วงแรกต้นไม้ของพี่จะโตมาพร้อมกับคำพูดสารพัด ปลูกทำไม กว่าจะเห็นเงิน ปลูกอย่างอื่นดีกว่า กี่ปีจะใช้งานได้ เปลืองพื้นที่ และอีกมากมายที่เขาจะดูถูกได้ แต่ถ้าเราอดทนผ่านคำดูถูกนี้ไปได้ เราจะพบกับความสุขทางใจ กับการที่ไม่ต้องไปทำงานตามคำสั่งใคร ได้ทำงานที่ตัวเองรักและอยากทำได้ มีเวลาดูแลพ่อแม่ และยิ่งมีความสุขไปกว่านั้นคือเมื่อได้เดินเยี่ยมชมต้นไม้ที่ปลูกขึ้นมาเองกับมือ เห็นการเติบโต มันกลายเป็นความสุขที่ออกมาจากใจ ลืมคำดูถูก คำพูดคนไปเลย” คุณบุ๋ม กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับท่านที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 098-408-0788

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • Nice
    ต่อไปหนุ่มโสดจะทิ้งเมือง.. ล่ะ
    11 ม.ค. 2565 เวลา 00.35 น.
  • อนุทิน ( pop)
    ว่าแต่มีแฟนหรือยังครับ ผมมีที่ทางอยู่แต่ไม่มีใครช่วยทำและผมก็ยังไม่เคยทำด้วย😁😄😄
    07 ม.ค. 2565 เวลา 22.58 น.
  • SS2
    น่ารัก เปค แบบนี้เลย
    07 ม.ค. 2565 เวลา 22.32 น.
ดูทั้งหมด