เซเลนสกีดิ้นรนหนัก ไบเดนหนุน รีพับลิกันจ้องตัดความช่วยเหลือ
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในวันที่ 21 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการรับมือกับรัสเซีย โดยเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ พร้อมกับเผชิญหน้ากับพรรครีพับลิกันที่ต้องการตัดความช่วยเหลือ
ไบเดนกล่าวกับเซเลนสกีว่า “เราจะอยู่กับคุณ และเราจะยืนหยัดอยู่กับคุณ” ขณะที่ทีมงานของทั้งสองฝ่ายได้หารือกันที่ทำเนียบขาว เพื่อให้คำตอบเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของเซเลนสกีที่ต้องการอาวุธจากสหรัฐเพิ่มเติม โดยผู้นำสหรัฐย้ำว่า ไม่มีทางเลือกอื่นในเรื่องการให้เงินสนับสนุนเงินทุนให้กับยูเครน และเขาเชื่อในวิจารณญาณที่ดีของสภาคองเกรส
ด้านเซเลนสกีให้คำมั่นกับไบเดนว่า พวกเราในยูเครนจะไม่ยอมแพ้ และประธานาธิบดีไบเดนให้การรับรองกับผมว่า อเมริกาจะอยู่เคียงข้างเรา ไม่ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม
ขณะที่ไบเดนระบุว่า รถถังเอ็ม 1 เอบรามส์คันแรกของสหรัฐจะไปถึงยูเครนในสัปดาห์หน้า เพื่อเสริมศักยภาพทางทหารของกองทัพยูเครนที่กำลังดำเนินมาตรการตอบโต้กลับกองกำลังรัสเซีย แต่สหรัฐปฏิเสธคำขอของยูเครนที่ต้องการขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS ที่มีระยะยิงไกลถึง 300 กิโลเมตร
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนการให้การต้อนรับต่อเซเลนสกีจะแตกต่างจากการเยือนกรุงวอชิงตันครั้งแรกในเดือนธันวาคม ซึ่งผู้นำยูเครนได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ แต่ในครั้งนี้ เขาใช้เวลาประชุมแบบลับๆ ในสภาคองเกรส เพื่อพยายามเอาชนะความเหนื่อยหน่ายจากสงครามที่เพิ่มสูงขึ้นในพรรครีพับลิกัน ซึ่งขู่ว่าจะขัดขวางคำขอสำหรับแพคเกจความช่วยเหลือใหม่สำหรับยูเครนมูลค่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเยือนสหรัฐครั้งล่าสุดของเซเลนสกีสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกร้าวลึกในสภาคองเกรส ซึ่งฝ่ายขวาจัดที่ครอบงำพรรครีพับลิกันเห็นว่าควรยุติการให้ความช่วยเหลือยูเครน หลังจากที่คองเกรสได้อนุมัติเงินช่วยเหลือให้ไปแล้ว 100,000 ล้านดอลลาร์นับจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงการช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่า 43,000 ล้านดอลลาร์ด้วย
พรรครีพับลิกันบางคนเห็นว่า เงินก้อนนี้สามารถนำไปใช้ในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนสหรัฐให้ดีขึ้นได้ และยังมีความกังวลต่อการตอบโต้กลับของยูเครนที่ไม่มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว รวมถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นในยูเครนที่อาจทำให้เงินที่มอบให้ต้องสูญเปล่า