โครงการประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ งวดที่ 7 ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างในงวดนี้ หลังราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาปรับตัวสูงขึ้น เกษตรกรขายได้ราคาดี
(19 พ.ค.66) นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/66 งวดที่ 7 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงของงวดที่ 7 กก.ละ 11.95 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคาประกันที่ กก.ละ 8.50 บาท จึงไม่ต้องชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรในงวดนี้ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณากำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการฯ เป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 งวด จนถึงระยะเวลาสิ้นสุดการรับสิทธิ์ชดเชยตามโครงการฯ วันที่ 20 ตุลาคม 2566 สำหรับเกษตรกรที่มีวันเพาะปลูกตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 – 31 พฤษภาคม 2566
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดต่างประเทศ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโลกปีนี้ จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบราซิล สหรัฐอเมริกา และอาร์เจนตินา โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ราคาเสนอซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของผู้ส่งออกรายใหญ่ได้ลดลง จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของบราซิล ซึ่งกดดันราคาทั่วโลก รวมถึงการยกเลิกการจัดส่งข้าวโพดไปยังประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ทำให้อุปสงค์ข้าวโพดสหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของผู้แทนสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ที่คาดการณ์ว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงพืชทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เช่น ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ อาจจะปรับตัวลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป