จ่อสอบ 2 ศุลกากร ‘เจ้าของ’ บัตรผ่าน
แฟนคลับคลั่ง “อีจงซอก” พ่นพิษระนาว ตำรวจออกหมายเรียก 2 สาวติ่งศิลปินเกาหลีเข้าให้ปากคำข้อหาบุกรุกพื้นที่หวงห้ามสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว เผยโทษหนักจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรมศุลกากรสั่งสอบ 2 เจ้าหน้าที่ชาย-หญิงสำนักตรวจสินค้าฯที่เป็นเจ้าของบัตรและเป็นคนพาเข้าไปด้านใน หากพบผิดจริงมีโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ ด้านเจ้าหน้าที่ ทอท.โดนด้วย ถูกเด้งพ้นหน้าที่ประจำจุดตรวจ ฐานหละหลวมไม่ตรวจบัตรให้ตรงกับใบหน้า
กลายเป็นเรื่องบานปลายที่ทำให้ตัวเองและเพื่อนร่วมแก๊งตายหมู่ยกก๊วน กรณีหญิงสาวแฟนคลับศิลปินเกาหลี โพสต์อวดในอินสตาแกรมส่วนตัวอ้างว่า ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร เข้าไปรอจับมือกับ “อีจงซอก” นักแสดงหนุ่มชาวเกาหลี ที่เดินทางมาโชว์ตัวในเมืองไทยในงาน 2018 Lee Jong Suk Fan Meeting in Bangkok ‘CRANK UP’ โดยเข้าไปรอรับถึงสายพานรับกระเป๋าเดินทางผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ส่งผลให้โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบไทยๆ ที่มีการทำงานแบบหละหลวม ปล่อยให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเล็ดลอดเข้าไปยังพื้นที่หวงห้ามของสนามบินได้โดยง่าย อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้โดยสารชาวต่างชาติ หลังเรื่องแดง ผู้บริหารบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว
ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 1 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ก.ย. พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ผู้บังคับ บัญชาสั่งการลงมาให้ทำคดีด้วยความละเอียดรอบคอบ โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับหญิงสาว 2 คน อายุ 38 ปี และอายุ 25 ปี ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ควบคุม ทสภ.ในเวลากลางคืน และเจ้าหน้าที่รัฐผู้ชายของสำนักงานตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีก 1 คน ซึ่งปรากฏตามภาพในกล้องวงจรปิด ในข้อหาสนับสนุนช่วยเหลือในการกระทำความผิดดังกล่าว
พ.ต.อ.วิโรจน์กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสินค้าฯ ผู้ชายจะเป็นผู้พาหญิงสาว 2 คนเข้าไปด้านในแล้ว ในระบบยังได้บันทึกชื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสินค้าฯผู้หญิงอีก 1 คน ที่เป็นเจ้าของบัตรในการสแกนเข้าพื้นที่ด้านในอีกด้วย ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสินค้าฯ ทั้ง 2 ราย เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำในรายละเอียดเพิ่มเติมในวันที่ 19 ก.ย. หลังจากนั้นจะออกหมายเรียกผู้หญิงทั้ง 2 คน ให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง แต่ถ้าหากทั้ง 2 คนนี้สำนึกผิดและต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีเจตนาจะบุกรุกในพื้นที่หวงห้าม สามารถติดต่อเข้าพบพนักงานสอบสวนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอหมายเรียกก็ได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นพื้นที่เฉพาะ ทำให้มีโทษสูงคือจำคุก 5 ปี
ด้านกรมศุลกากรได้ออกเอกสารข่าวฉบับที่ 53/2561 ชี้แจงกรณีมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าเขตหวงห้ามท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อพบศิลปินเกาหลี เอกสารระบุว่า กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมาว่ามีแฟนคลับศิลปินเกาหลี ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรช่วยพาเข้าไปในเขตหวงห้ามท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อไปพบศิลปินเกาหลี ณ จุดตรวจคนเข้าเมืองและจุดรับกระเป๋าสายพานหมายเลข 17 นั้น กรมศุลกากรขอชี้แจงว่ากรณีดังกล่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกับสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และได้ประสานขอข้อมูลจากผู้บริหารของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์
ปรากฏหลักฐานเป็นวิดีโอและภาพถ่ายพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้ใช้บัตรรักษาความปลอดภัย (บัตรเบอร์ 6) ของข้าราชการในสังกัดสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าไปในพื้นที่ที่ต้องได้รับอนุญาตการเข้าออกภายในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะนี้กรมศุลกากรได้สั่งการให้สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีพนักงานศุลกากรรายใดรู้เห็นหรือมีส่วนร่วมในการแอบอ้างนำบุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่ที่ต้องได้รับอนุญาตเข้าออกภายในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหรือไม่อย่างไร และรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบภายใน 5 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับมอบหมาย
วันเดียวกัน นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ บริษัทท่าอากาศยาน ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ทอท.ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ 2 หญิงสาวกับอีก 2 เจ้าหน้าที่ศุลกากร ที่ใช้บัตรรักษาความปลอดภัย (บัตรเบอร์ 6) ของข้าราชการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าไปในพื้นที่ที่ต้องได้รับอนุญาต การเข้า-ออก ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งถือมีความผิดกรณีอนุญาตให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัตร นำบัตรไปใช้ในการเข้า-ออกพื้นที่หวงห้ามของสนามบิน มีโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีนี้เป็นความผิดร้ายแรง เจ้าหน้าที่ศุลกากรทั้ง 2 คน ที่เกี่ยวข้องมีโทษสูงสุด คือไล่ออกจากราชการ กรมศุลกากรอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะรายงานให้ทราบภายใน 5 วัน ส่วนมาตรฐานความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยืนยันว่ามีมาตรฐานสากล และไม่จำเป็นต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแต่อย่างใด
“กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ไม่ใช่เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อปีที่แล้วเคยเกิดเรื่องกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มาแล้วครั้งหนึ่ง กรณีบุคคลอื่นใช้บัตรเบอร์ 6 ของ ตม.เข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ก็มีการลงโทษไปแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องของระบบแต่เป็นเรื่องของบุคคลที่นำไปใช้ไม่ถูกต้องมากกว่า” นายประสงค์กล่าว
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร 2 คน มีนัดจะมาให้ข้อเท็จจริงที่ สภ.ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ในช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ย. โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรคนแรกที่นำหญิงสาวทั้ง 2 คนเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามนั้น จากการพิจารณาเบื้องต้นอาจจะโดนข้อหาหลีกเลี่ยงการตรวจค้น ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 60/17 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเจ้าหน้าที่ศุลกากรคนที่ 2 ที่บัตรถูกนำไปใช้ในการผ่านเข้าไปพื้นที่หวงห้ามนั้น ต้องรอให้ตำรวจสอบปากคำก่อนว่าจงใจให้นำบัตรมาใช้หรือไม่ได้มีส่วนรู้เห็น โดยบัตรอาจจะถูกหยิบไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบว่ามีเจตนาให้บัตรไปใช้ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาเดียวกับเจ้าหน้าที่คนแรก
นายกิตติพงศ์กล่าวต่อว่า ทอท.ยังได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ ทอท.อีก 1 คน ทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยจุดผ่านเข้า-ออกพื้นที่หวงห้าม บริเวณที่หญิงสาวทั้ง 2 คนผ่านเข้าไปด้วย เพราะตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ ทอท.คนดังกล่าวทำงานหละหลวม ปล่อยให้หญิงสาวทั้งสองผ่านเข้าไปยังเขตหวงห้ามได้โดยไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของบัตร ทั้งที่รู้ว่าภาพใบหน้าบุคคลในบัตรที่นำมาแตะผ่านเข้าไปยังเขตหวงห้าม จะไม่ตรงกับใบหน้าของผู้หญิงทั้ง 2 คนที่ผ่านเข้าไป คาดว่าจะใช้เวลาสอบข้อเท็จจริงประมาณ 10 วัน หากพบว่าประมาทเลินเล่อ ทอท.จะต้องลงโทษขั้นเด็ดขาดต่อไป เบื้องต้นได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกไปจากพื้นที่เกิดเหตุแล้ว โดยให้ไปประจำอยู่ในพื้นที่ส่วนภายนอกแทนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบด้านมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบิน
“ยอมรับว่าที่ผ่านมา ทอท. เข้มงวดน้อยไปในการตรวจสอบความถูกต้องของบัตรของหน่วยราชการที่เข้าพื้นที่หวงห้าม เพราะมีราชการหลายหน่วยงานมากที่ทำงานภายในสนามบิน บางครั้งอาจเห็นว่าเป็นหน่วยราชการด้วยกัน จึงไม่ค่อยเช็กว่าคนที่ผ่านเข้าพื้นที่ใบหน้าตรงกับบัตรที่แตะเข้าไหม หลังจากนี้ ทอท.จะแจ้งขอความร่วมมือไปยังหน่วยราชการที่ทำงานในสนามบินว่าต่อไปจะตรวจเข้มงวดมากขึ้น ต้องดูหน้าให้ตรงกับบัตร อาจจะใช้เวลาแต่ต้องขอความร่วมมือ รวมทั้งในปี 62 นี้ ทอท.เตรียมนำระบบการตรวจสอบความปลอดภัยระบบใหม่มาใช้ ณ จุดเข้า-ออกของสตาฟฟ์ภายในสนามบิน เป็นระบบใหม่ที่ทันสมัยมาก เมื่อนำบัตรมาแตะตรงทางเข้าจะปรากฏใบหน้าของเจ้าของบัตรขึ้นมาในจอคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าที่ประจำจุดจะเห็นใบหน้าและสามารถเปรียบเทียบกับใบหน้าคนที่ใช้บัตรทันที หากใบหน้าไม่ตรงกันจะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่หวงห้าม คาดว่าจะเริ่มนำมาใช้ได้ปลายปีนี้” นายกิตติพงศ์กล่าว
นายกิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ที่หญิงสาวทั้ง 2 คนหลุดเข้าไปเพื่อรอพบกับศิลปินเกาหลี เป็นพื้นที่บริเวณจุดรับกระเป๋าผู้โดยสารขาเข้าเท่านั้น ถือเป็นพื้นที่ชั้นนอกสุดที่ติดกับพื้นที่ร้านค้าภายในสนามบิน หากจะเข้าไปพื้นที่ชั้นในจะต้องผ่านจุด ตรวจคนเข้าเมือง และสแกนตรวจวัตถุระเบิดก่อน ถึงจะผ่านไปยังทางออกขึ้นเครื่องบินได้ ในจุดนี้หากบุคคลใดไม่มีบัตรโดยสารมาแสดงกับ ตม. หรือมีการพกอาวุธจะไม่สามารถผ่านเข้าไปยังทางออกขึ้นเครื่องบินได้
“ส่วนกรณีการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรของผู้หญิงทั้ง 2 คนนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าทั้ง 2 คน ไม่ได้ปลอมตัวด้วยการเปลี่ยนชุดเป็นเครื่องแบบของกรมศุลกากรแต่อย่างใด หญิงสาวคนแรกคือคนที่นำภาพตัวเองมาโพสต์ลงในโซเชียลนั้น เดิมใส่เสื้อและกางเกงขาสั้น แต่ได้เปลี่ยนเป็นกางเกงขายาวและเดินตามเจ้าหน้าที่ที่นำพาเข้าไป หลังจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรคนดังกล่าวพาหญิงสาวคนแรกเข้าไปแล้ว ได้นำบัตรใบเดิมกลับมาเวียนใช้รับผู้หญิงคนที่ 2 เข้าตามไป” นายกิตติพงศ์กล่าว
Phynx สมควรโดนเด้งอะ นี่คือแฟนคลับยังดีนะ ถ้าเป็นแอนตี้ล่ะ พาไปถึงเนื้อถึงตัวเค้าแบบนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นรับผิดชอบกันไหวเหรอ
19 ก.ย 2561 เวลา 08.01 น.
jeerada ติ่งเกาหลีก้อปัญญอ่อนนะ ไงล่ะโดนกันระนาว
19 ก.ย 2561 เวลา 06.01 น.
Pleng ติ่งควายๆคนเดียวทำติ่งดีๆเสียหายหมด
ปกติคนก็มองติ่งแย่อยู่แล้ว
ยังจะสร้างเรื่องเพิ่มอีกนะอีโง่แล้วอวดฉลาด
19 ก.ย 2561 เวลา 04.58 น.
อ้วน 87 อีควาย คลั่งนักร้อง แถมเสือกมาโพสในไอจี งานนี้พังทั้งฝูง
19 ก.ย 2561 เวลา 04.16 น.
Tirapol 495 ผู้ทำผิดทั้งหมดทุกคนต้องรับโทษสูงสุดตามกฏหมายกำหนด... ข้าราชการต้องถูกปลดออก..ถ้าไม่อย่างนั้นจะมีการทำผิดอย่างนี้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า... นี่ถ้าเป็นพวกก่อวินาศกรรมเข้าไปป่านนี้สุวรรณภูมิแหลกไปแล้ว... ต้องดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดจะออมชอมไม่ได้...พวกข้าราชการที่ชอบใช้อภิสิทธ์ต้องถูกกำจัดให้หมดไป...นี่คือคำสั่งของประชาชนเจ้าของเงินภาษี.
19 ก.ย 2561 เวลา 03.51 น.
ดูทั้งหมด