สุขภาพ

7 เหตุผลที่ควรรับประทานถั่วมากขึ้น

issue247.com
อัพเดต 21 ม.ค. 2562 เวลา 06.45 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2562 เวลา 00.00 น.

เรารับประทานธัญพืชเต็มเมล็ดเพื่อกากใยอาหาร โปรตีนเพื่อให้อิ่มท้อง และผักเพื่อขจัดโรคภัย แต่ทำไมเราจึงมองข้ามถั่วล่ะ? ถั่วอาจไม่ใช่ผักที่เซ็กซี่ที่สุดแต่ก็มีคุณประโยชน์และสารอาหารอเนกอนันต์มากมายกว่าที่คุณคิด นอกจากจะมีกากใยมากกว่าธัญพืช ซีเรียล และพาสต้าแล้วถั่วยังมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และอุดมไปด้วยสารอาหารรองที่สำคัญอื่นๆอย่างสังกะสีและธาตุเหล็กด้วย งานวิจัยชี้ว่าการรับประทานถั่วจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้องได้มากกว่าเนื้อสัตว์เสียอีก และนี่คือ 7 เหตุผลว่าทำไมคุณควรรับประทานถั่วมากขึ้น

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1. อาจช่วยทำให้อายุยืนยาวขึ้น

ถั่วคือผลไม้วิเศษ ยิ่งรับประทานมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งอายุยืนยาวมากเท่านั้น การศึกษาหนึ่งพบว่าการรับประทานถั่วเมล็ดแห้งเพียง 20 กรัมสามารถลดโอกาสในการเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 7-8 นอกจากนี้ถั่วเมล็ดแห้งยังช่วยบำรุงสมองเมื่อเราอายุมากขึ้นด้วย

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

2. ขจัดโรคภัย

ถั่วอาจป้องกันกาฬโรคหรือไข้หวัดใหญ่ไม่ได้แต่ก็สามารถป้องกันโรคร้ายแรงอย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็งบางชนิดได้

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

3. กำจัดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี

ข่าวดี! ถั่วเหล่านี้ (ทั้งถั่วชิกพี ถั่วเลนทิล และถั่วเมล็ดแห้ง) สามารถลดไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำหรือคอเลสเตอรอลชนิด “ไม่ดี” ได้ หากคุณกังวลเกี่ยวกับระดับคอเลสเตอรอลก็ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงแทน (เช่น แท่งชีสทอดและเนื้อแดง เป็นต้น) ควบคู่กับถั่วที่อุดมด้วยกากใยอาหารอย่างถั่วชิกพี ถั่วดำ ถั่วแดงหลวง ถั่วขาว ถั่วบราซิล และถั่วลิมา

 

4. ช่วยลดน้ำหนัก

ถ้ามีอาหารวิเศษที่ช่วยทำให้คุณอิ่มท้องนานขึ้นและลดน้ำหนักได้ด้วย เราทุกคนก็คงรีบแห่กันไปซื้อแล้วใช่ไหม? เชื่อไหมว่ามีอยู่จริงๆ การรับประทานถั่วเป็นประจำมีส่วนเกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนักและทำให้น้ำหนักตัวลดลง การศึกษาบางแห่งชี้ว่าถั่วคือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จ ง่ายๆเพียงเติมถั่วลงไปในขนมบลอนดี้ บราวนี่ เค้ก ไปจนถึงคุกกี้เนื่องจากถั่วเหล่านี้มีโปรตีนกับกากใยอาหารสูงมาก แถมยังช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาลเพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ด้วย

 

5. ป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแสงแดด

ครีมกันแดดไม่ใช่วิธีเดียวในการแก้ปัญหา จริงๆแล้วการรับประทานถั่วสามารถป้องกันผลกระทบที่เกิดจากรังสียูวีได้ด้วย งานวิจัยกล่าวว่าผู้ที่รับประทานถั่วเมล็ดแห้งในปริมาณมากจะปรากฏริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนังน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน ถั่วเมล็ดแห้งมีแร่สังกะสีสูงซึ่งช่วยในการรักษาแผลเป็นและป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแสงแดดรวมถึงริ้วรอยแห่งวัยอื่นๆด้วย ถั่วแดงหลวงครึ่งถ้วยจะมีแร่สังกะสีเกือบเท่ากับปริมาณที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน ดังนั้นควรรับประทานให้หมดหากคุณมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กลางแจ้ง นอกจากนี้ถั่วยังมีสารโพลีฟีนอลซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หากรับประทานถั่วควบคู่กับการทาครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังด้วย

 

6. ดีต่อสิ่งแวดล้อม

รายงานหนึ่งกล่าวว่าการรับประทานถั่วแทนเนื้อสัตว์จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้โดยสหรัฐอเมริกาตั้งเป้าหมายว่าต้องลดลงให้ได้ถึงร้อยละ 46-74 ภายในปี 2020 ขณะเดียวกันพืชส่วนใหญ่ต้องการปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อการเจริญเติบโต (ไม่ใช่ถั่ว) โดยพื้นฐานถั่วเมล็ดแห้งเหล่านี้จะทำให้ตัวเองกลายเป็นปุ๋ยโดยการกักเก็บไนโตรเจนไว้ในรากซึ่งนอกจากจะช่วยให้พวกมันเจริญเติบโตแข็งแรงแล้วยังส่งผลดีต่อผลิตผลอื่นๆที่หมุนเวียนอยู่ในดินด้วย

 

7. ไม่ได้ทำให้ท้องอืด

คนส่วนใหญ่เชื่อว่าการรับประทานถั่วจะทำให้มีอาการท้องอืด แต่งานวิจัยชี้ว่าก๊าซที่เกิดจากถั่วจริงๆแล้วเกิดจากการคิดมากไปเองทั้งสิ้นและปัญหาดังกล่าวจะลดลงเมื่อคุณเริ่มรับประทานถั่วบ่อยขึ้นนั่นเอง

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • ..One Life To Live..
    พรุ่งนี้จะเริ่มสั่งให้บังขายถั่วแถวๆปากซอยหน้าบ้าน เอามาส่งให้ที่บ้านตอนเย็นทุุกวัน..แกล้มเบียร์อร่อยดี
    06 ม.ค. 2562 เวลา 07.23 น.
  • ไพศาล
    บอกชื่อถั่วมา
    27 ก.ย 2561 เวลา 02.49 น.
  • ใครชอบก็กินพอประมาณ เชื่อไม่ได้หรอก
    27 ก.ย 2561 เวลา 01.45 น.
  • pilot guide
    เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงมาบอกแดกถั่วระวังท้องอืด คอยดูสิ
    27 ก.ย 2561 เวลา 01.24 น.
  • Tany
    Beans,the more you eat,the more you fart. Beans contain poorly absorbed sugar (oligosaccharides) that pass to large bowel.Tons of bacteria in large bowel jump in and help digest this sugars, resulted in gas production. By eating beans regularly,flatulent gradually goes away.
    26 ก.ย 2561 เวลา 16.51 น.
ดูทั้งหมด