ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ชีวิตพ่อค้าเร่! ขายสารพัดของพื้นบ้าน ตะลิงปลิงยันหินขัดขี้ไคล ได้วันละพันดีใจแล้ว

เส้นทางเศรษฐี
อัพเดต 22 พ.ย. 2566 เวลา 03.46 น. • เผยแพร่ 22 พ.ย. 2566 เวลา 03.45 น.

ถ้าผมไม่ไปต่างจังหวัด ผมชอบไปที่ชอบๆ ที่ชอบของผมคือศูนย์การค้าอิมพีเรียล สำโรง

เหตุที่ผมชอบศูนย์การค้าแห่งนี้ก็เพราะอยู่ใกล้บ้าน นั่งรถจากบ้านใช้เวลาประมาณ 10 นาที (ถ้ารถไม่ติด) ก็สามารถไปนั่งจิบกาแฟได้แล้ว ทั้งสะดวกสบาย เพราะในศูนย์การค้ามีทุกอย่างให้ผมใช้บริการ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มีคนใช้ศูนย์การค้าเป็นที่ประกอบอาชีพมากเป็นร้อยเป็นพัน มีมากเหลือเกิน มีทั้งคนขายของกิน ของใช้ เสื้อผ้า หมอนวดแผนไทย รับพิมพ์นามบัตร และอื่นๆ แม้การประกอบอาชีพเช่าพระเครื่องก็มี

ไม่น่าเชื่อว่า การเช่าพระเครื่องมีเงินสะพัดวันละเป็นล้าน ถึงเวลาช่วงจังหวะดีๆ ผมจะนำมาเขียน สำหรับวันนี้ขอเขียนถึงพ่อค้าขายของเล็กๆ ได้วันละพันบาทก็ดีใจแล้ว

พ่อค้าขายของที่ว่านี้เรียกชื่อให้ตรงกับสินค้าที่ขายค่อนข้างยากว่าเป็นพ่อค้าขายอะไร เพราะสินค้ามีดังต่อไปนี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ประเภทกินได้ก็มี มะขามป้อม มะขามเปียก พุทราไทยลูกเล็กๆ มะดัน ตะลิงปลิง กระท้อน มะม่วง สมอ มะม่วงหาวมะนาวโห่ บอระเพ็ด มะตูมแห้ง ข่า มะเฟือง องุ่นดอง มะกอกน้ำ รางจืด และที่ผมไม่รู้จักชื่ออีกหลายอย่าง

นอกจากนี้ก็มีของขายสำหรับใช้เพราะกินไม่ได้ เช่น ดินสอพอง ฝอยบวบสำหรับขัดตัว หนังสติ๊กสำหรับยิงนกยิงหนูหรือยิงอะไรก็ได้ และหินขัดตัวหรือขี้ไคล แล้วยังมีจำพวกยาดมแก้หวัด ยาทาแก้เมื่อยที่อยู่ในตลับ

ที่ใส่อยู่ในถุงพลาสติกอาจเป็นแป้งพม่าก็ได้ เพราะเห็นคนงานพม่ามาซื้อหลายคน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำหรับมะม่วง คนขายจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถุงพลาสติกพร้อมพริกเกลือไว้ขายเป็นถุงๆ

ส่วนกระท้อนนั้นมีทั้งที่ขายเป็นลูกสดๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไร และที่เป็นกระท้อนทรงเครื่องก็มี

แผงขายที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ในตัวศูนย์การค้า แต่ตั้งอยู่ด้านหน้าใต้บันไดสะพานลอยข้ามถนน จึงมีลูกค้าทั้งคนเดินบนทางเท้าและที่มาเที่ยวศูนย์การค้า

เท่าที่ผมยืนสังเกต ขายได้พอสมควร จะมีคนมาซื้อเป็นระยะๆ ติดต่อกัน คนขายแทบไม่ต้องนั่งรอหรือนั่งหลับเหมือนขายสินค้าบางชนิด

มะม่วงที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ จิ้มพริกเกลือน่าจะขายดีที่สุด

ผู้เข้ามาซื้อเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงชอบของเปรี้ยวโดยไม่จำเป็นต้องแพ้ท้อง

หญิงบางคนซื้อตะลิงปลิงกินกับพริกเกลือก็มี และบางคนซื้อมะขามป้อม

สำหรับมะขามป้อม สมัยที่ผมยังเป็นเด็กอยู่ต่างจังหวัด ผมก็เคยกิน กินแล้วชุ่มคอดีเหลือเกิน

น้ำมะขามป้อมช่วยเรื่องถ่ายท้องดีนักแล ในท้องตลาดมีขายเป็นขวดๆ แต่สำหรับที่แผงแห่งนี้ขายเป็นลูก

ใกล้ๆ ตรงนั้นมีรถแท็กซี่จอดอยู่เป็นแถวหลายคันเพื่อรอรับผู้โดยสารที่ออกจากศูนย์การค้า

มีคนขับคนหนึ่งเข้ามาซื้อตะลิงปลิงกับพริกเกลือ เขาบอกว่า เดิมเวลาง่วงกินกาแฟเอาไม่อยู่ แต่พอหันมากินตะลิงปลิงได้ผล หายง่วงทันที

“พอหายง่วงทำให้ขยันทำงาน ดีกว่าเคี้ยวกระท่อม”

ที่ว่านี้ คนขับแท็กซี่ไม่ได้พูด ผมพูดเอง เพราะมีความรู้สึกได้ว่าความเปรี้ยวของผลไม้ทุกชนิดแก้ง่วงได้

คนขายบอกว่า บางคนมาซื้อบอระเพ็ดไปต้มให้ไก่ชนกินก็มี กินแล้วไก่ไม่เป็นหวัด

ผมอยากคุยกับคนขายนานๆ ผมจึงได้อุดหนุนด้วยการซื้อกระท้อนทรงเครื่องมาลูกหนึ่งราคา 15 บาท แล้วซื้อมะม่วงหาวมะนาวโห่มาถุงหนึ่ง 20 บาท

กระท้อนทรงเครื่องนั้น ผมเคยกินมาก่อนจึงไม่มีปัญหา แต่มะม่วงหาวมะนาวโห่ ซึ่งเป็นลูกเล็กๆ สีแดงปนเหลืองและขาวนั้นผมไม่เคยกินมาก่อนและไม่เคยรู้มาว่าเป็นผลไม้ที่กินแล้วมีรสอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง

คนขายได้แนะนำให้ซื้อไปกิน ผมจึงซื้อ

“ให้กินเช้า 7 ลูก เย็น 7 ลูก วันละ 14 ลูก” คนขายว่า ก่อนพูดต่อ

“รสชาติจะเปรี้ยวจัด ถึงต้องกินกับพริกเกลือ หรือจะใช้เครื่องปั่นให้เป็นน้ำแล้วหลับหูหลับตาดื่ม ก็ได้เช่นกัน”

คนขายยังบอกสรรพคุณของมะม่วงหาวมะนาวโห่ต่อว่า ช่วยบำรุงร่างกาย ชะลอความแก่อย่างได้ผล

“ก่อนนี้ คนนิยมกินกันในวงแคบๆ ทว่าในปัจจุบันนิยมกว้างขวางยิ่งขึ้นเรื่อยๆ” คนขายบอก

ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ซื้อไปกิน เพราะการกินผลไม้ ไม่ว่าชนิดใดมีประโยชน์ทั้งนั้น มากหรือน้อยเท่านั้น

คนขายซึ่งผมมารู้ตอนหลังก่อนกลับออกมาว่าชื่อ สมชาย วงษ์เมือง อายุ 46 ปี มีเมีย 1 คน ลูก 2 คน

สมชายเป็นคนสุรินทร์โดยกำเนิด หลังจากเรียนจบ ป.6 ก็ตระเวนทำมาหากินหลายอย่างมาก ทำทุกอย่างที่ได้เงินและไม่ผิดกฎหมาย เคยไปทำงานอยู่บาร์เบียร์ที่ภูเก็ตหลายปี

เคยทำงานเป็นลูกมือช่างก่อสร้าง เป็นช่างทอง เป็นผู้ช่วยพ่อครัวร้านอาหาร เป็นลูกจ้างขายของร้านชำ และขับรถรับจ้างส่งของ

ตอนเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ก็รับจ้างทำทุกอย่างที่ได้เงิน ขณะเดียวกันก็พยายามหาช่องทางทำมาหากิน

สุดท้ายก็มาเป็นพ่อค้าขายของตามที่เห็นนี้แหละ ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการขายของแบบนี้ควรเรียกรวมๆ ว่าอย่างไร จะว่าขายของไทยโบราณก็ไม่น่าจะใช่ ผมจึงถือโอกาสตั้งชื่อให้ว่า ขายของพื้นบ้าน

ก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่ แต่ผมเห็นด้วย จึงนำมาตั้งเป็นชื่อข้อเขียนของผมในฉบับนี้

เมื่อผมถามว่า เขาไปหาซื้อของมาขายจากที่ไหน เขาหยุดคิดนิดหนึ่งตอบว่า หาซื้อตามตลาดหลายแห่ง เพราะแต่ละแห่งมีเป็นบางอย่างให้ซื้อได้เท่านั้น มีของที่ต้องการไม่ครบ ว่างั้นเถอะ

เมื่อซื้อมาแล้ว บางอย่างก็ต้องมาทำเอง เช่น ขมิ้นผงซึ่งคนที่ซื้อนิยมซื้อไปทำอาหารและทาตัว อ้อ! ยังมีขมิ้นชันอีกอย่าง อย่างหลังนี้คนจะซื้อไปกิน

สมชาย บอกว่า คงจะประกอบอาชีพนี้ต่อไปเพราะอยู่ได้สบายไม่เดือดร้อน ถ้าจะเดือดร้อนก็ตรงที่ถูกเทศกิจไล่ไม่ให้ขาย เพราะตรงที่เขาตั้งแผงขายอยู่นั้นอยู่ในที่สาธารณะ

หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2561

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • บัวบูชา
    ขยันขายของวันละ1000บาทเก่งแลดีมากๆน่าเอาตัวอย่าง
    31 ส.ค. 2561 เวลา 19.30 น.
ดูทั้งหมด