แคนดี้ รากแก่น เฮลั่น จบคดีครอบครองคดีแอลกอฮอลล์ ช่วงโควิด

แคนดี้ รากแก่น เฮลั่น จบคดีครอบครองคดีแอลกอฮอลล์ ช่วงโควิด

แคนดี้ รากแก่น-สืบเนื่องจากจากกรณีที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เข้าตรวจยึดแอลกอฮอล์ 10,000 ลิตร ที่บ้านเลขที่ 18/ 674 หมู่ 5 หมู่บ้านเปี่ยมสุข ซอยประชาสุขสรรค์ 10 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงกับ นักร้องสาว แคนดี้ วาทินี รากแก่น ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้

• หมอลำดัง แคนดี้ รากแก่น พบตร. คดีครอบครองแอลกอฮอล์ 10,000 ลิตร

คืบหน้าล่าสุดแคนดี้ รากแก่น ได้ออกมาโพสต์อัพเดตความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า
จบสิ้นละคร่าา คดีแอลกอฮอลล์..เดินหน้าทำดีต่อไปค่าา..พลังมาละจ้าา..ทีนี้ก็สบายใจละ..ถือเป็นบทเรียนเลย แต่ไม่เอาแล้วนะบทเรียนแบบนี้…หนูบริสุทธ์ละคร่าาา

"… หลังจากไปฟังคำพิพากษาจึงพบว่าตนเอง ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ครอบครองเอธิลแอลกอฮอล์ที่ไม่ได้เสียภาษี" ซึ่งโทษสูงสุดคือถูกปรับ ซึ่งแคนดี้ได้ให้การเป็นประโยชน์ และไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรง จึงถูกปรับและถือเป็นสิ้นสุดคดี"

โดยแคนดี้กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนเลย และเป็นการทำความผิดครั้งแรก ซึ่งในด้านกฏหมายไม่ได้ถูกลงโทษร้ายแรงอะไร เพราะคดีเหมือนเราไปซื้อของงดเว้นภาษีที่ญี่ปุ่นมา เค้าห้ามใช้ในญี่ปุ่น
แต่เพื่อนเรามาเปิดดู ศุลกากรเลยปรับข้อหาเปิดของในญี่ปุ่น ประมาณนั้น ซึ่งแอลกอลฮอล์นี้ถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง เจ้าของเค้าขอเอกสารครบถ้วน และจะนำไปบริจาคจริง มีหลักฐานครบ
แต่ของมันดันไปถูกเปิด ถูกเอาไปถ่ายเทผิดที่ อยู่ในเขตชุมชน แค่นั้นเอง และประจวบเหมาะเป็นช่วงที่คนกำลังต้องการเลยกลายเป็นประเด็นใหญ่โต สร้างความน่าตกใจให้ผู้คนและตัวแคนดี้เองมากๆ

ในตัวบทกฏหมาย ถูกลงโทษไม่เยอะ แต่ในสังคม แคนดี้ตกเป็นจำเลยสังคมไปตั้งแต่วันแรกแล้ว โดนด่าเลย ยันโคตรเหง้า ก็งงว่าทำไมไม่รอดูตอนจบก่อน
ทำไมตั้งหน้าตั้งด่ากันแบบเอาให้ตายขนาดนี้ บอกตรงๆ ว่าตั้งแต่เจอเรื่องมา ไม่เคยมีความสุขเลย ไม่ใช่เพราะกัวเรื่องกฏหมาย
เพราะเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ของเรา แต่เราทุกข์เพราะสังคมตัดสินเราไปแล้ว ดีที่มีครอบครัว มีคนที่รัก ที่เข้าใจและเชื่อใจเราค่ะ
วันนี้ทุกอย่างก็พิสูจน์แล้วค่ะ ว่าแคนดี้และพวกไม่ผิด ตอนนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก โห !! เพิ่งรู้ว่าเราเป็นทุกข์มาตลอด มาถึงตอนนี้ สบายใจมากๆ พร้อมลุยงานต่อเลยค่ะ หมดเคราะห์ละ
สุดท้ายแคนดี้ยังบอกอีกว่า ต่อไปจะใช้ชีวิตแบบระมัดระวังมากขึ้น เพราะขนาดเจตนาดียังพลาดได้ ถือเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่
ส่วนแอลกอลฮอล์ที่ตั้งใจจะบริจาค ที่ถูกตำรวจยึดเป็นของกลางไป ภายหลังทางบริษัทก็ได้จัดงบมาซื้อใหม่ เพื่อบริจาคตามความประสงค์ไปตั้งแต่หลังเกิดเรื่องแล้ว"