วันที่ 19 ส.ค. 62 ความคืบหน้าหลังจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ตำรวจจับกุมตัวนายณรงค์ศักดิ์ ศรีคต อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาซึ่งได้สารภาพว่า ได้ล่อลวงนางดวงกมล อ่องยิ้ม อายุ 52 ปี มาสังหารนำศพไปทิ้งในไร่อ้อยพื้นที่หมู่ 7 บ้านพุประดู่ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยสภาพศพพบท่อนล่างตั้งแต่บริเวณสะโพกลงมาจนถึงเท้าเน่าเปื่อยและเริ่มแห้ง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง เมื่อค้นหาต่อพบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะ กระดูกซี่โครงและเสื้อผ้าอยู่ในพื้นที่ไร่อ้อยดังกล่าวด้วย โดยลูกผู้เสียชีวิตมาดูศพและเสื้อผ้าที่ตรวจพบ ยืนยันเป็นของนางดวงกมลจริง
โดยเหตุฆาตกรรมดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 4 ส.ค. หลังนายณรงค์ศักดิ์ล่อลวงนางดวงกมลที่รู้จักและคบหากันมากว่า 2 ปี มาเที่ยวน้ำตกในอ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีและนอนพักค้างคืนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในไทรโยค ก่อนช่วงเช้ามืดจะออกจากรีสอร์ตและขับรถกลับเข้ามาในตัวเมือง จากนั้นนายณรงค์ศักดิ์อ้างมีปากเสียงอย่างรุนแรง ถูกนางดวงกมลด่าถึงบุพการี ในขณะกำลังขับรถอยู่บนถนนสายบ้านเก่า-วัดถ้ำพุหว้า ด้วยความโมโหจึงชกเข้าที่ลำคอ แต่นางดวงกมลยังไม่หยุดด่าและพยายามต่อสู้ นายณรงค์ศักดิ์จึงชกซ้ำและบีบคอนางดวงกมลจนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ จากนั้นจึงขับรถเก๋งซึ่งเป็นของนางดวงกมล นำศพไปทิ้งในไร่อ้อย ก่อนที่จะนำรถคันดังกล่าวไปขายให้คนรู้จักที่ จ.นครปฐม ในราคา 2 หมื่นบาท ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ของนางดวงกมลได้นำไปขาย และนำเงินไปใช้จนหมด
ล่าสุด นางสาวปอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ลูกสาวนางดวงกมล เปิดเผยว่า ตนเองไม่เคยเจอและแม่ไม่เคยพูดถึงผู้ต้องหาให้ฟัง เมื่อวันที่ 3 ส.ค. แม่ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี จนตนเองตามสืบแล้วพบว่าผิดปกติ โดยได้เบาะแสจากข้อมูลการโทรของแม่ ที่เชื่อต่อกับอีเมล พบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ต้องหาหลายครั้งต่อเนื่องกัน จนกระทั่งพบสถานที่ที่สัญญาณขาดหายไปครั้งสุดท้าย คือ บริเวณ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จึงทำให้ตนเลยเข้าแจ้งความกับ สภ.กำแพงแสน ไว้ด้วย ตนเองได้พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่แม่ติดต่อ จึงทราบว่าเคยมีคดีความมาก่อน
หลังจากนั้นตำรวจจาก สภ.กำแพงแสน ได้เชิญผู้ต้องหามาสอบสวนประมาณ 6 ชั่วโมง จึงยอมสารภาพว่าฆ่าแม่ของตนโดยไม่เจตนา แต่ตนเชื่อว่าเหตุจูงใจในการฆ่า มีการวางแผนมาก่อน เพราะผู้ต้องหาต้องการใช้เงินจากแม่เพื่อไปใช้ในการประกัน หรือจ่ายค่าเสียหายที่เป็นคดีอยู่ ไม่ได้บันดาลโทสะตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งหลังจากผู้ต้องไม่จำเป็นต้องมาขออโหสิกรรมหรือขอโทษครอบครัว เพราะทำผิดมาหลายครั้งแล้ว และถ้าเป็นไปได้ จะต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ให้ได้รับโทษประหาร เพราะรับไม่ได้ที่ก่อเหตุอย่างเลือดเย็น ทั้งที่แม่ชอบเขาด้วยความจริงใจ ให้เกียรติเขา แต่เขากลับตอบแทนแม่แบบนี้ ตัวเองยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ผู้ต้องหามีภรรยาและลูกแล้ว แต่ทำไมถึงมายุ่งกับแม่ และภรรยาของคนก่อเหตุยังพูดกับตำรวจว่า “ถ้าสามีทำผิด ให้เอาผิดเลย ให้ติดคุกนาน ๆ”
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยนายสมมาตร พุมเรียง อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า โดยปกตินายณรงค์ศักดิ์จะชอบปิดบ้านเงียบ ไม่เคยสุงสิงกับใคร มักจะอวดอ้างตัวเองผ่านโลกออนไลน์ว่าเป็นเสี่ย และเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ ซึ่งไม่เป็นความจริง และมักจะไปหลอกลวงคบหากับผู้หญิงโดยไม่บอกความจริง และยังมีพฤติกรรมยักยอกทรัพย์ ออกไปรับเหมางานก่อสร้าง รับเงินผู้ว่าจ้างมาแต่ไม่ยอมทำงานตามสัญญา โดยมีหมายเรียกมาที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง ปล่อยให้พ่อรับผิดชอบชดใช้เงินเป็นประจำ จนพ่อแม่ของเขารับไม่ได้ ย้ายกลับไปอยู่ที่ จ.พิษณุโลก
โดยเมื่อประมาณช่วงเช้าของวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนเห็นนางดวงกมลนั่งรถมากับนายณรงค์ศักดิ์ที่สถานีรถไฟท่ากิเลน แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเจอนางดวงกลมอีกเลย จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่านายณรงค์ศักดิ์ลงมือฆ่านางดวงกมลแล้ว
https://youtu.be/Ip3zQ2dYPss
ชาช่า คนที่เป็นภัยต่อสังคมน่าจะให้เห็นหน้า
19 ส.ค. 2562 เวลา 22.42 น.
Poo: ARC Chantaburi สืบเก่งกว่าตำรวจ เก่งมากๆครับ ลูกสาว
20 ส.ค. 2562 เวลา 01.25 น.
ติดคุกไม่กี่ก็ออกมาก่อเหตุซ้ำ
กฏหมายอ่อนๆกับเรื่องแบบนี้
20 ส.ค. 2562 เวลา 00.45 น.
อวดอ้างผ่านโลกออนไลน์ว่าเป็นเสี่ย ??? มีเยอะอ่ะ คนแบบนี้ เทพบุตรในโลกออนไลน์ ยาจกในชีวิตจริง
20 ส.ค. 2562 เวลา 01.47 น.
Jack อายุจนขนาดนี้ยังไม่ปลงแทนที่จะใช้เวลายุกะครอบครัวลูกๆหลานๆแต่ยังฝักไฝ่จนเป็นแบบนี้
20 ส.ค. 2562 เวลา 00.15 น.
ดูทั้งหมด