หนึ่งในปัญหาที่ทาง “ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)” เป็นห่วงนั่นก็คือ ‘หนี้ครัวเรือน’ ที่ขยับเข้าใกล้ระดับ 80% ของ GDP แล้ว
นั่นไม่เพียงจะทำให้การหวังกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน‘การบริโภค: C’ ทำได้ยากยิ่ง ในขณะที่มีความเสี่ยงที่จะตามมาในเรื่องของ ‘หนี้เสีย’ ที่อาจจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่ได้ในที่สุด
ที่ผ่านมาจึงเห็นสารพัดมาตรการจากทาง‘แบงก์ชาติ’ ออกมาดูแลเรื่องสินเชื่อภาคครัวเรือนเป็นระยะๆ ล่าสุดก็คือแนวคิดการคุม “ภาระหนี้ต่อรายได้สูงสุด(Debt Service Ratio :DSR)” ไม่ให้เกิน70%
ซึ่งล่าสุด‘แบงก์ชาติ’ ก็แถลงแล้วว่า…ยังไม่มีแผนที่จะบังคับใช้ในปีนี้ แต่นั่นก็คงไม่ใช่การ ‘ปล่อยผี’ ให้คุณก่อหนี้กันจนเกินตัวแต่ประการใด ทีมงาน‘Wealthythai’ มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากฝากกันเช่นเคย
“บริหารหนี้”…อย่าให้เป็น ‘ปัญหา’
เรื่อง‘การออม’ และ ‘การลงทุน’ จะกลายเป็นเรื่องที่พูดไปก็สูญเปล่าทันที ถ้าคนยังไม่มี‘เงินเก็บ’ นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งถ้าเข้าไปดูตัวเลขบัญชีการลงทุนในสินทรัพย์การเงินไม่ว่าจะหุ้น หรือกองทุนรวม จะมีสัดส่วนไม่เกิน5% ของประชากรทั้งประเทศ เพราะอาจจะมา ‘สะดุด’ เอากับเรื่องง่ายๆ คือ ‘ไม่มีเงินเก็บ’ หรือ‘มีหนี้’ ลำพังรายได้มาใช้จ่าย 2 เรื่องนี้ก็ไม่เหลือเก็บแล้ว จะเอาเงินที่ไหนไปออมหรือลงทุน
คนไม่มีหนี้…ถือเป็นลาภอันประเสริฐแต่คนที่‘มีหนี้’ ก็คงต้อง ‘ใช้หนี้’ จะหลุดจากวงจรหนี้ ก็ต้องตั้งใจและมีวินัยมาตั้งแต่เริ่มต้นในเรื่องของ ‘การใช้จ่าย’ ที่เคยพูดถึงกันไปแล้วในครั้งก่อนๆ ว่า ถ้าให้ดี…อย่าก่อหนี้ให้เกิน 30-40% ของรายได้ แบบนี้…คุณก็ยังน่าจะมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการหนี้ได้อย่างสบาย และน่าจะมีเงินเหลือเก็บไปคิดต่อยอดเรื่อง ‘การออม’ หรือ ‘การลงทุน’ ต่อไปได้
“แต่ถ้าก่อหนี้เกินตัวเงินเดือนออกใช้หนี้หมดหรือใช้หนี้ไม่พอต้องไปหมุนเงินจากบัตรอื่นหรือเงินกู้อื่นๆทั้งในระบบและนอกระบบมาใช้หนี้แบบนี้‘อันตราย’ แล้ว ฉะนั้น ควรแก้ไขที่ต้นเหตุ คือ ‘ตัวเอง’ อย่าใช้จ่ายเกินตัว ถ้าจะก่อหนี้ ก็ควรเป็น ‘หนี้ที่ดี’ หรือ ก่อหนี้ไม่เกินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง โดยไม่กระทบการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันปกติ”
เมื่อดูภาพรวมแล้วเสมือนคนในประเทศคุมการใช้จ่ายตัวเองไม่ค่อยอยู่หนึ่งในแนวคิดจากทาง‘แบงก์ชาติ’ ก็คือเรื่อง‘DSR’ นั้น ก็เป็นไปเพื่อดูแลเรื่อง ‘หนี้ภาคครัวเรือน’ เป็นสำคัญ โดยโฟกัสไปที่เป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวด้านรายได้ ได้แก่
1.‘กลุ่มเริ่มทำงาน(First Jobber)’
2. ‘กลุ่มเกษียณอายุ’
3. ‘กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน30,000 บาท/เดือน’
“ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงและเปราะบาง หากมี ‘หนี้เกินตัว’ อาจเป็นปัญหาได้ ทางแบงก์ชาติมีแนวคิดที่จะกำหนดให้ ‘DSR’ ไม่ควรเกิน70% (รวมทุกธนาคาร) หรือไม่เกิน21,000 บาท และผู้กู้ควรมีเงินเหลือใช้จ่ายประมาณ 30% ของเงินเดือน หรือ 9,000 บาท ซึ่งปัจจุบัน DSR ยังเกิน70% อยู่ รวมถึงยังมีความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า เนื่องจากสถาบันการเงินไม่ได้ตรวจสอบกับธนาคารอื่นก่อน ซึ่งอาจทำให้ยอกรวมของหนี้บุคคลมากกว่าระดับความสามารรถในการชำระหนี้ของบุคคลนั่นเอง”
แต่ล่าสุดแนวคิดนี้ของ ‘แบงก์ชาติ’ จะยังไม่นำมาบังคับใช้ในปีนี้ แต่มีการดำเนินการร่วมกับสถาบันการเงินใน 2 เรื่อง ได้แก่
1. ‘การกำหนดมาตรฐานกลางในการคำนวณDSR’ ทั้งในส่วน ‘ภาระหนี้’ และ ‘รายได้ของผู้กู้’ ซึ่งปัจจุบันสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน โดยล่าสุดได้มีข้อตกลงมาตรฐานกลาง DSR ร่วมกันแล้ว คาดว่าจะเริ่มรายงานข้อมูล DSR ตามมาตรฐานกลางให้แบงก์ชาติได้ภายในไตรมาส 4/19 นี้
2. ‘การผลักดันให้สถาบันการเงินนำหลักการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ(Responsiblelending)’ ไปใช้ โดยลูกหนี้ต้องมีเงินเพียงพอสำหรับดำรงชีพหลังชำระหนี้แล้ว (Affordability)
“โดยแบงก์ชาติจะติดตามปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิด ส่วนหนึ่งผ่านข้อมูล ‘DSR’ ตามมาตรฐานกลางที่ธนาคารพาณิชย์รายงาน ซึ่งหากพบว่าสถานการณ์มีความเปราะบางมากขึ้น แบงก์ชาติอาจพิจารณาออกเกณฑ์การกำกับดูแลที่เหมาะสม โดยพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเงิน กรอบการบังคับใช้และจังหวะเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านต่อไปนั่นเอง”
แม้มาตรการจะเลื่อนออกไป แต่นั่นแทน‘ความดีใจ’ แต่คุณควร‘ตระหนัก’ ได้แล้วว่า…’หนี้เกินตัว’ จะเป็นปัญหา ไม่ใช่เฉพาะ‘ตัวคุณเอง’ แต่อาจจะลุกลามไปถึงภาพของ‘เศรษฐกิจ’ โดยรวมได้เช่นกัน ดังนั้น ถ้าคุณรักตัวเองและรักประเทศชาติ ก็ไม่ควรก่อหนี้ให้เกินตัวนั่นเอง
รัฐส่งเสริมให้เป็นหนี้ไม่ใช่เหรอครับ เหมือนกับห้ามกินเหล้าแต่อนุญาตให้ผลิตเหล้า ห้ามสูบบุหรี่แต่อนุญาตให้มีโรงงานผลิตบุหรี่ ห้ามเล่นหวยแต่อนุญาตให้มีล๊อตเตอร์รี รัฐปากห้ามแต่ทำตาขยิบให้ทำ สรุปเสแสร้งไม่จริงใจไม่สุจริตใจ
01 ก.ย 2562 เวลา 22.22 น.
เป้ ต้องรู้จัก อด ก่อนครับ อดทน อดใจ อดกลั้น ต่อสิ่งยั่วยุให้ได้ก่อนครับ แล้วที่เหลือจะตามมาเอง
03 ก.ย 2562 เวลา 03.20 น.
การไม่เป็นหนี้คือลาภอันประเสริฐ.
01 ก.ย 2562 เวลา 22.12 น.
ภาระ!!!แต่ละคนไม่เหมือนกัน
ไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรอกครับ
11 ก.ย 2562 เวลา 14.12 น.
Kiti123 ถ้ามีหนี้แต่ยังพอหารายได้เสริมได้ ก็ยังพอทน ถ้าหนี้เยอะแต่ค้าขายไม่ได้และรายได้เสริมไม่พอ มันจะยังคับให้ต้องก่อหนี้เพิ่มไปเรื่อยๆ ในที่สุดจะถึง จุดจบ
อยากให้ รบ.ดูเรื่องของดอกเบี้ย ไม่แน่ใจว่าประเทศอื่นๆเขาควบคุมส่วนต่างกันยังไง ไม่รู้ว่าแบบใหนพอดี หรือที่เป็นอยู่พอดีแล้วหรือไม่ ถ้าส่วนต่าวเยอะ แบงค์หรือสถาบันการเงินจะกลายเป็นเสือนอนกินรึเปล่า ถ้าลูกหนี้ตายแบงค์ก็ตายด้วยนะ
03 ก.ย 2562 เวลา 04.25 น.
ดูทั้งหมด