สะท้อนจากราคาแท็กซี่
ในบรรดาปัญหาปากท้องของประชาน อันหมายถึงรายได้รายจ่ายในชีวิตประจำวัน
“แท็กซี่” ดูจะคลาสสิค เป็นตำนานของความล้มเหลวในการแก้ไขที่ชัดเจนที่สุดเรื่องหนึ่ง
ในฟากของผู้ใช้บริการ ปัญหาคือ “ปฏิเสธลูกค้า ไม่รับ ไม่ส่ง” ด้วยข้ออ้างสารพัด อย่าง “ต้องไปเติมก๊าซ” หรือ “ได้เวลาส่งรถ”
ทั้งที่รู้กันว่าปัญหาจริงของความไม่อยากไปคือ “ราคาที่ต่ำเกินไป” ถ้าคิดตามมิเตอร์ หากเรียกจอดแล้วบอกว่าจะจ่ายแบบเหมาตามแต่จะเรียกราคาเอา เหมือนกับที่เรียกจากลูกค้าต่างชาติ จะหารถที่ให้บริการได้ง่ายกว่า
นั่นแปลว่า สำหรับคนขับแท็กซี่ ราคาตามมิเตอร์ไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือเปลี่ยนรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ดูแล
“แท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร” เป็นปัญหาแรกๆ ที่ต้องวางนโยบายมาแก้ไข
แต่ไม่เคยสำเร็จ
ปัญหาในมุม “คนขับแท็กซึ่” คือราคาตามมิเตอร์ถูกเกินไป มีรถแท็กซี่ซึ่งให้บริการมากเกินไป ค่าปรับผิดกฎจราจรแพงเกินไป และรถแท็กซี่ออนไลน์ที่ใช้รถส่วนบุคคลมาบริการแย่งลูกค้า
ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบในรัฐบาลแก้ไขปัญหาของฝ่ายตัว ซึ่งทุกรัฐบาล ทุกรัฐมนตรีต่างรับปากที่จะมาจัดการทั้งนั้น
แต่ในที่สุดแล้วไม่มีใครแก้ได้
แท็กซี่ไม่รับผู้โดยสารโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน
รายได้คนขับไม่พอที่จะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอยู่เหมือนเดิม
ล่าสุดรัฐมนตรีรัฐบาลประกาศนโยบายให้เพิ่มราคาบริการตามมิเตอร์ให้แท็กซี่ ฟังดูก็เป็นการแก้ที่ต้นทางของปัญหา
แต่ก็อีกนั่นแหละ เมื่อ “นิด้าโพล” ทำสำรวจ คนส่วนใหญ่ส่งเสียงไม่เห็นด้วยกันขรม
เห็นด้วยหรือไม่กับการขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์ ก.ม.ที่ 1-10 ก.ม. จาก 6 บาทเป็น 6.50 บาท/ก.ม. ร้อยละ 62.59 ไม่เห็นด้วย เพราะราคาเดิมสูงอยู่แล้ว ราคาก๊าซ/น้ำมันยังไม่สูงมาก ยังไม่สมควรขึ้นค่าโดยสาร และการบริการยังไม่สมกับราคาที่เพิ่มขึ้น
เห็นด้วยหรือไม่กับการขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์ในกรณีรถติด จากนาทีละ 2 บาทเป็น 3 บาท ร้อยละ 81.00 ไม่เห็นด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาในกรณีรถติด เนื่องจากเป็นสิ่งที่ต้องบริการประชาชนอยู่เเล้ว ไม่สมควรเก็บเพิ่ม
เห็นด้วยหรือไม่กับการขึ้นค่าเซอร์ชาร์จ จากการใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ในสนามบิน เพิ่มจาก 50 บาท เป็นรถขนาดเล็กไม่เกิน 70 บาท รถขนาดใหญ่ไม่เกิน 90 บาท (เฉพาะผู้ที่ตอบเคยใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ในสนามบิน) ร้อยละ 76.34 ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการเอาเปรียบผู้โดยสาร เนื่องจากไม่สามารถเรียกรถแท็กซี่ภายนอกเข้ามารับภายในสนามบินได้ ราคาเดิมเหมาะสมดีอยู่แล้ว และการบริการของแท็กซี่สนามบินยังไม่ดีเท่าที่ควร
เห็นด้วยหรือไม่กับการเก็บค่าสัมภาระจากการใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ในสนามบิน โดยขนาดเกิน 26 นิ้ว จะบริการฟรี 2 ชิ้นแรก ชิ้นที่ 3 เป็นต้นไป เก็บชิ้นละ 20 บาท (เฉพาะผู้ที่ตอบเคยใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ในสนามบิน) ร้อยละ 64.77 ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการบริการของแท๊กซี่และมีค่าเซอร์ชาร์จแล้ว ควรเหมารวมราคากันทีเดียวแต่แรก
ขณะที่คนขับแท็กซี่รู้สึกว่าตัวเองมีความเดือดร้อนจากค่าบริการที่ถูกเกินไป
แต่ประชาชนส่วนใหญ่ฟังแล้วไม่เกิดความเห็นใจ ไม่ยอมที่จะจ่ายให้มากกว่านั้น
เรื่องราวทั้งหมดนี้คงไม่ใช่แค่ต่างฝ่ายต่างเอาประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง
เพราะถึงที่สุดแล้วมนุษย์จะมีความเห็นอกเห็นใจกัน พร้อมจะเสียสละเพื่อช่วยแก้ไขเมื่อมีเหตุผลเพียงพอ
ทว่า เรื่อง “การบริการแท็กซี่” ดูจะหลุดออกจากความเห็นอกเห็นใจนั้น
เป็นไปได้หรือไม่ที่ความไม่พร้อมจะเสียค่าโดยสารเพิ่ม เกิดจาก “ความรู้สึกไม่ดีต่อคนขับรถแท็กซี่ ที่แม้จะรู้ว่าตัวเลือกน้อยแค่ไหน ก็ไม่อยากคิดจะช่วยเหลือ” เพราะมีภาพลบอยู่ในใจ
ความไม่ลงตัวจึงยังมีอยู่ต่อไป
ผมขี่มอเตอร์ไซด์ไปทำงานประหยัดกว่าเยอะ เติมน้ำมัน50บาท ขี่ได้ทั้งวัน ดีกว่านั่งtaxi
23 ส.ค. 2562 เวลา 04.35 น.
Rainbowsun ขึ้นราคาเเพงเเค่ใหนลูกค้าก็ไม่ขึ้น รายได้หด มันเป็นเหตุเเละผลอยู่เเล้ว
23 ส.ค. 2562 เวลา 03.17 น.
LHONG บริการก้อห่วย มารยาทก้อทราม เรียกเเม่งก้อไม่ไป เเต่จะขึ้นค่าบริการ มรึงเอาอะไรคิดว้าา
23 ส.ค. 2562 เวลา 02.51 น.
Oldsnake Oldheadsnak ขึ้นไปเลยครับ ขึ้นราคาครั้งเดียว 200%ไปเลย 555 เลิกขึ้นนานแล้ว เรื่องมาก รำคาญ ใครอยากขึ้นก็ขึ้นไป แต่ อย่ามาบ่นด่าดราม่าก็แล้วกัน ใช้ Grab สบายใจ รู้ราคาโดยประมาณ.. ส่วนใหญ่ไม่เกินที่เค้าคิดไว้ สุภาพ สะอาด ปลอดภัย ไม่เรื่องมาก
23 ส.ค. 2562 เวลา 02.48 น.
ความลับ ในใจ แล้วทำไมไม่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ คนทำงานรากหญ้า บ้างว่ะ.!!!😠😬
23 ส.ค. 2562 เวลา 02.41 น.
ดูทั้งหมด