ไอที ธุรกิจ

นักเขียนเกมกับการ Work From Home มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง (Lazefatboy)

GameFever TH
อัพเดต 03 เม.ย. 2563 เวลา 09.46 น. • เผยแพร่ 03 เม.ย. 2563 เวลา 16.46 น. • GameFever.co

สวัสดีครับขอแนะนำตัวหน่อยละกัน ผมบาส (Lazefatboy) นักเขียนประจำของทาง GameFever TH เป็นเวลากว่า 3 อาทิตย์แล้วสำหรับผมเองที่จะต้องทำงาน Work From Home คอยนั่งเขียนงานหรือตรวจงานทั้งวันโดยไม่ได้ออกไปไหน จึงทำให้ช่วงนี้ตัวผู้เขียนเองค่อนข้างมีเวลาเยอะมากสำหรับการได้นั่งเล่นเกมที่ไม่ได้จับมานานหรือนั่งเล่นเกมที่กำลังดองอยู่ และได้พบเจอประสบการณ์มากมายที่เราไม่ได้สัมผัสมานานตั้งแต่ทำงานมา 3-4 ปี ซึ่งในวันนี้ผมเองจะเล่าแบ่งปันประสบการณ์ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ

Work From Home ทำให้มีเวลาบางอย่างเยอะขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่เรียนมาผมเองมักจะมีเพื่อนภายในเกมที่คอยคุยเล่นกันอยู่ประมาน 10 คน ซึ่งจะเข้ามาคุยกันที่ Team Speak กันอยู่ทุกๆ วันเนื่องจากแต่ละคนบ้านค่อนข้างไกลกัน โดยพวกเราก็ชอบที่จะหาเกมมาเล่นด้วยกันเป็นประจำซึ่งมันก็เป็นแบบนี้มาจะ 10 ปีแล้วตั้งแต่เรียน แต่ผมเองหลังจากทำงานได้ 3-4 ปี ถึงแม้ว่าผมก็ยังเข้าไปคุยกับเพื่อนๆ อยู่ทุกวัน แต่นิสัยของตัวเองในตอนนี้ค่อนข้างเปลี่ยนไปกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก เพราะเวลาทำงานผมเองเป็นคนไม่ค่อยชอบกลับบ้านเร็ว หรือบางทีกลับมาก็ชอบที่จะดูซีรีส์หรือนั่งทำโปรเจกต์งานส่วนตัวของตัวเองไป ทำให้ช่วงนี้ก็อาจจะไม่ค่อยได้เล่นเกมกับเพื่อนเยอะเหมือนสมัยก่อนเลย แต่พอสถานการณ์ COVID-19 เริ่มขึ้นมา นอกจากผมแล้วเพื่อนๆ ผมเองก็โดน Work From Home เช่นกัน ทำให้พวกเรามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นเหมือนสมัยที่เรียนมหาลัยกันอยู่เลยทีเดียว ทำให้ผมเองนั้นได้เล่นเกมกับเพื่อนมากขึ้นหากิจกรรมทำด้วยกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะอยู่หน้าคอมก็เถอะนะ ซึ่งเกมที่เรากลับมาเล่นก็คือเกมนี้ครับ

10 เกม Steam ที่มีผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดตลอดกาล

พอกลับไปเล่นอะไรต่างๆ มันเปลี่ยนไปเยอะเลยแหะ ทั้งไอเท็มป่า, ตัวละครใหม่ หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้การปรับจูนการเล่นค่อนข้างนานพอสมควร แรกๆ ปรับตัวแทบไม่ถูกเลย มีจุดยึดนุ่นนี่ยุ่งยากไปหมด ทำให้พอเข้าใจเลยว่าทำไมเกม Dota 2 แพตช์นี้ถึงมีคนไม่ชอบกันเยอะและเลิกเล่นทำให้เกม CS:GO ขึ้นมามีผู้เล่นเรียลไทม์แซงครั้งแรกตั้งแต่เปิดตัวมา เพราะตัวเกมมันค่อนข้างเปลี่ยนแปลงจนเยอะเกินไป แต่พอเล่นไปซักพักก็ชินเพราะเกมการเล่นพื้นฐานมันก็ยังเหมือนเดิมอยู่ แต่อย่างที่รู้ว่า Dota 2 เป็นเกมที่ค่อนข้างใช้เวลาเยอะมาก การเล่นมันกับเพื่อนก็ทำได้แค่ในเวลาหลังเลิกงานเท่านั้น แต่ตัวผมนั้น การทำงานบางทีมันก็จะมีช่วงพักผ่อนเล็กน้อยในระหว่างการรอรูปปกสวยๆ ที่ส่งให้ทางกราฟิกทำให้ หรือรออัปเดตการแก้งานจากฟรีแลนซ์ต่างๆ มันก็ทำให้ผมเองก็หาเกมที่มันจบง่ายๆ มาเล่น และสุดท้ายมันก็ไปจบกับเกมนี้ครับ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

RoV เป็นเกมที่จะบอกว่าส่วนตัวเล่นไม่เป็นก็ว่าได้ เพราะเมื่อก่อนที่เกมออกใหม่ๆ ผมเองก็เล่นได้แค่ แรงค์ โกลด์ เท่านั้นเข้าขั้นกากเลยทีเดียว แต่พอมีเพื่อนมาชวนเล่นเนื่องจากว่างๆ และเราเองก็อยากหาเกมที่มันเล่นจบไวด้วย ก็เลยจับเกมนี้ขึ้นมาเล่นอีกครั้ง และคราวนี้เล่นเป็นบ้าเป็นหลังเลยครับ มีเวลาพักหน่อยเป็นไม่ได้ต้องหยิบมาเล่นตลอด จนสุดท้ายไต่มาถึง "แรงค์ไดมอน 1" ไม่สามารถขึ้น "แรงค์ คอมมานเดอร์" ได้เนื่องจากขี้เกียจในตอนสุดท้าย 555555 แต่ก็ถือว่าส่วนตัวพอใจนะ พอหลังจากผ่อนๆ RoV ก็มีอีกเกมที่น่าสนใจที่ผมนั้นอยากแนะนำเลยครับ เป็นเกมที่สามารถเล่นระหว่างการทำงานบนหน้าจอคอมไปด้วยได้แบบไม่เสียงานเลยทีเดียวนั่นคือเกม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

The Seven Deadly Sins: Grand Cross เป็นเกมมือถือจากทางผู้พัฒนาสัญชาติเกาหลีอย่าง Netmarble ที่อ้างอิงจากเนื้อหาอนิเมะญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Nanatsu no Taizai หรือการ์ตูน 7 บาปที่ทุกคนรู้จักกัน ซึ่งส่วนตัวเองก็เคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้มาบ้าง ซึ่งพอได้เข้าไปเล่นก็รู้เลยว่าตัวเกมนั้นถูกสร้างออกมาดีมากๆ และมีมาตรฐานที่สูงลิบลิ่วถ้าให้เปรียบเทียบกับเกมมือถือด้วยกัน เช่นการนำเสนอเรื่องราวเนื้อหาตามการ์ตูนเป๊ะๆ ผสมกับการเล่นที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้เล่นที่สายฟรีเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวเกมมีเพชรแจกตลอดเวลา และกลไกลของการพัฒนาตัวละครก็มาจากการฟาร์มเป็นหลัก ส่วนตัวละครกากๆ เราก็สามารถปั้นให้มันกลายเป็นตัวเทพได้นั่นเอง ซึ่งเกมนี้เหมาะมาก ทำงานไปก็เล่นไป เอาจริงๆ ช่วงนี้ตัวผมเองค่อนข้างเล่นเกมมือถือเยอะเหมือนกันครับ แต่เกม Console เองก็เล่นอยู่บ้างนะ ช่วงนี้ก็หนีไปเล่น Red Dead Redemption 2 ที่ยังดองไว้บ้าง และก็ลองไปเล่นเกม Resident Evil Resistance ที่เปิด Open Beta มา และก็ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เกมยังไม่มีสมดุลย์ที่ดีนัก การเล่นเป็น Survival ไม่ได้สนุกเท่ากับฝ่าย Mastermind เลย ซึ่งใครอยากฟังรีวิวเต็มๆ ดูที่นี่ LINK ถึงอย่างนั้นตอนนี้ส่วนตัวเองก็กำลังรอเล่นเกม Resident Evil 3 Remake อยู่ ซึ่งกว่าบทความนี้ปล่อยตัวผมเองก็น่าจะกำลังเล่นอยู่แล้วแหละ โดยผมนั้นจะเขียนรีวิวมาให้ท่านได้ชมกันไม่นานเกินรอ

Resident Evil 3 Remake release date: Launch time news for PS4 and …

สรุปได้ว่าการ Work From Home และต้องกักตัวนั้น มันก็ทำให้เราค่อนข้างมีเวลาอยู่กับตัวเอง และเพื่อนๆ มากขึ้น (เพราะก็ต้องทำงานที่บ้านเช่นกัน) แต่เอาจริงๆ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเลยอะ เพราะช่วงนี้หน้าร้อนอยู่บ้านก็ค่อนข้างเปลืองไฟจากการเปิดแอร์มากๆ 55555 รวมถึงการทำงานกับเพื่อนที่ทำงานหลายๆ คนมันกลับสนุกสนานมากกว่า เพราะถึงแม้ว่ามันอาจจะตัดในเรื่องของการเล่นเกมกับเพื่อน(ในเกม) น้อยลง แต่ยังไงผมเองก็คุยกับพวกเขาอยู่ตลอดเวลาอยู่ละ ไม่ติดเลย

ดูข่าวต้นฉบับ