ทั่วไป

มหาเศรษฐีสิงคโปร์โกย 3,500 ล้านดอลลาร์ จากการขาย "เครื่องช่วยหายใจ" ช่วงโควิด-19 ระบาด

ประชาชาติธุรกิจ
อัพเดต 03 เม.ย. 2563 เวลา 11.04 น. • เผยแพร่ 03 เม.ย. 2563 เวลา 11.04 น.
File Photo by Marco Mantovani/Getty Images

เศรษฐีสิงคโปร์ ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทผลิตเครื่องช่วยหายใจ โกยเงิน 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก 

เว็บไซต์บิสิเนสบล็อก รายงานว่า ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก แต่ในทางตรงกันข้าม 3 ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตเครื่องช่วยหายใจ กลับมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นรวม 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 230,790 ล้านบาท ในปีนี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เสิ่นเจิ้น มินเดรย์” บริษัทผู้พัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 หลังความต้องการเครื่องช่วยหายใจทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้โรงพยาบาลทั่วโลกเต็มไปด้วยผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการหายใจ

ข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index ระบุว่า “หลี่ ซีถิง” ประธานบริษัท “เสิ่นเจิ้น มินเดรย์” ชายชาวสิงคโปร์ที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในประเทศ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 115,430 ล้านบาท ในปีนี้ ทำให้จนถึงตอนนี้เขามีทรัพย์สินรวมทั้งหมด 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 412,250 ล้านบาท

ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นด้วยว่า “ซีถิง” ติดท็อป 5 มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเพิ่มมากที่สุดในโลก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะที่ “เจฟฟ์ เบโซส์” มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือประมาณ 112,132 ล้านบาท ส่วน “บิล เกตส์” ลดลง 15,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 504,594 ล้านบาท

วิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้เครื่องช่วยหายใจขาดแคลนอย่างหนัก จนบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์อย่าง ฟอร์ด มอเตอร์ และเจเนอรัล มอเตอร์ส ต้องเข้ามาช่วยเพิ่มการผลิต

ด้าน “มินเดรย์” เผยว่า ความต้องการเครื่องช่วยหายใจทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างน้อย 10 เท่า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ล่าสุด ทะลุ 52,000 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อแตะระดับ 1 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้ว

สมาคมเวชบำบัดวิกฤตประมาณการณ์ว่า ในสหรัฐฯ มีผู้ป่วยที่ต้องการเครื่องช่วยหายใจประมาณ 960,000 ราย แต่สหรัฐฯ มีเครื่องช่วยหายใจอยู่เพียง 200,000 เครื่อง ส่วนที่อิตาลี ศูนย์กลางการระบาดในยุโรป ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจอย่างหนัก ถึงขั้นที่หมอต้องเลือกว่าผู้ป่วยคนไหนจะได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ

เมื่อเดือนที่แล้ว เครื่องช่วยหายใจของมินเดรย์ไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในสหรัฐฯ แต่ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ได้ใช้อำนาจภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ปลดล็อกให้สามารถใช้เครื่องช่วยหายใจของมินเดรย์ได้ ซึ่งทำให้มินเดรย์สามารถกอบโกยรายได้จากสหรัฐฯ อย่างมหาศาล

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 10
  • Tanyaras
    ต่อให้มีเงินเยอะขนาดไหน ถ้าไม่ร่วมมือช่วยโลกนี้ให้หายจากโรคระบาด ก็ไม่มีที่ให้ใช้เงินอย่างมีความสุข.
    03 เม.ย. 2563 เวลา 12.07 น.
  • (เอก) พลวรรธน์
    มีคนหลายกลุ่ม รวยจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็มีคนหมดตัวเยอะจากเหตุการณ์นี้
    03 เม.ย. 2563 เวลา 12.02 น.
  • mm
    เรื่องปกติ นิครับ ไม่เเปลก เลย
    03 เม.ย. 2563 เวลา 12.23 น.
  • WADEE (Private)
    สุดยอด 👏🏻 ถ้าลดราคา ช่วยลูกค้าก็จะเป็นยอดคน
    03 เม.ย. 2563 เวลา 11.10 น.
  • ตายก็เอาไปไม่ได้หรอก มีแต่บาปบุญกรรมเวรเท่านั้นแหละที่จะติดตามเราไปไม่ห่าง เงินทองมีมากก็หนักมาก ห่วงมากก็ทุกข์มาก หากำไรกับของแบบนี้มันบ่ดีดอกอาว
    03 เม.ย. 2563 เวลา 12.47 น.
ดูทั้งหมด