กลายเป็นคดีสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จับกุม น.ส.นิษฐา วงวาล หรือ ปุ๊ก อายุ 30 ปี จากบ้านพักย่านดอนเมือง ความจริงที่น่ากลัวจึงถูกเปิดเผยขึ้น
จุดเริ่มต้นของเรื่อง
- เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากการที่ผู้เสียหายรายหนึ่ง เข้าแจ้งความว่าได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์วัดอุณหภูมิจาก "แม่ปุ๊ก" และโอนเงินไปให้ แต่ไม่มีการส่งสินค้าให้
- พนักงานสอบสวนกองปราบปรามฯ จึงได้ออกหมายเรียกไปยังเจ้าของบัญชีธนาคารได้ผู้เสียหายโอนเงินไป แต่ปรากฎว่า เจ้าของบัญชีเป็นของน.ส.เอม ซึ่งให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ทราบว่า "แม่ปุ๊ก" นำบัญชีของตนเองไปใช้
- เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบขยายผล พบว่าบัญชีดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอบริจาคผ่านโซเซียล ให้กับ "น้องอมยิ้ม และ น้องอิ่มบุญ" ซึ่งมีอาการป่วยหนัก "แม่ปุ๊ก" ได้โพสต์ใน ลักษณะว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว บอกเล่าถึงอาการป่วยของลูกทั้ง 2 คน จึงขอรับความช่วยเหลือขอรับบริจาค และยังมีการโพสต์ขายสินค้า ทำให้ผู้ที่ทราบเรื่องเกิดความเห็นใจจึงได้สั่งซื้อสินค้าแต่กลับไม่ได้สินค้า ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก
- ตำรวจจึงได้มีการทำงานร่วมกับทีมแพทย์ โดยใช้ระยะเวลานานเกือบ 2 เดือน สืบสวนจนทำให้ทราบว่า "แม่ปุ๊ก" ซึ่งอ้างว่าเป็นแม่ของ"น้องอมยิ้ม และ น้องอิ่มบุญ" เด็กทั้ง 2 คนป่วยเป็นโรคที่หายากไม่เคยเกิดในประเทศไทย แต่แพทย์พบว่าน้องไม่ได้ป่วยเป็นโรคหายาก แต่เป็นอาการของผู้ที่ได้รับสารพิษ โดยการกินเข้าไป
-ในขณะที่ครอบครัวของ "แม่ปุ๊ก" ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "น้องอมยิ้ม" ที่เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ใช่ลูกแท้ๆของ"แม่ปุ๊ก" ส่วน"น้องอิ่มบุญ" เป็นลูกแท้ๆ แต่ไม่ทราบว่าพ่อเป็นใคร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอว่าจะตรงกับ"แม่ปุ๊ก" หรือไม่
เมื่อ"น้องอมยิ้ม" ไม่ใช่ลูกแท้ๆของ "แม่ปุ๊ก" แล้ว "น้องอมยิ้ม" เป็นลูกใคร
- ย้อนกลับไปที่ เจ้าของบัญชีธนาคาร "นางสาวเอม" ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "น้องอมยิ้ม" เป็นลูกของตน ซึ่งยกให้"แม่ปุ๊ก" เนื่องจากนางสาวเอม มีปัญหาไม่พร้อมในการเลี้ยงดู จึงประกาศหาผู้อุปการะในโซเชียลมีเดีย และ "แม่ปุ๊ก" ติดต่อมา โดยอ้างว่าเรียนจบเภสัช นางสาวเอม ไว้ใจว่า "แม่ปุ๊ก" จะเลี้ยง"น้องอมยิ้ม"ได้จึงยกให้ไป แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมใด ๆ และ "แม่ปุ๊ก" เคยให้เปิดบัญชีธนาคารให้เพื่อใช้ในการฝากเงินให้กับ "น้องอมยิ้ม" แต่นางสาวเอม ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเปิดรับบริจาคและการหลอกขายสินค้า
อาการป่วยของ "น้องอมยิ้ม - น้องอิ่มบุญ"
- เนื่องจากแพทย์พบสารต้องสงสัยที่เป็นของเหลวในร่างกายเด็ก ตำรวจจึงได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานระบุหรือแยกชนิดอยู่ ซึ่งแพทย์ยังต้องข้อสังเกตว่า "น้องอมยิ้มและน้องอิ่มบุญ" มีอาการเจ็บป่วยลักษณะเดียวกัน คือ หน้าตา ปากคอ บวม อาเจียน อาการแย่ลงเรื่อย ๆ เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบ เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นฟองบ้าง เป็นเลือดบ้าง ความดันสูง และแพทย์ ส่องกล้องพบว่าทางเดินอาหารของหนูยิ้มอักเสบอย่างรุนแรง มีแผลตั้งแต่หลอดลมยาวไปจนถึงกระเพาะอาหาร ทำให้ทางเดินอาหารส่วนต้นบอบช้ำมาก ซึ่ง"แม่ปุ๊ก" โพสต์ในเฟซบุ๊ก อ้างว่าป่วยเป็น "โรคเรนินโนม่าห์" ซึ่งเป็นโรคประหลาด มีเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้น และ ทั้ง 2 ป่วยอาการเดียวกันเนื่องจากเป็นพันธุกรรม แต่ภายหลังประเด็นนี้ก็ชัดเจนว่าไม่ใช่ เนื่องจากเด็กทั้ง 2 คน ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน
ผู้ใจบุญเริ่มตั้งข้อสังเกต
- หลังจากที่ "น้องอมยิ้ม" เสียชีวิตลง ในช่วงต้นปี 63 "แม่ปุ๊ก" เริ่มโพสต์เรื่องการล้มป่วยของ "น้องอิ่มบุญ" ลูกชายคนเล็ก มีการทำสินค้ามาขาย รวมทั้งสินค้าอื่น และยังเปิดรับเงินบริจาคด้วย แต่การสั่งซื้อสินค้าจาก "แม่ปุ๊ก" ก็มีปัญหาเช่นเดิมอีก คือโอนเงินแล้วไม่ได้ของ
- ขณะเดียวกันเริ่มมีคนตั้งข้อสังเกตเรื่อง"น้องอิ่มบุญ" อาทิ มีคนเสนอให้พาน้องไปรักษากับแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ "แม่ปุ๊ก"กลับไม่รับข้อเสนอ ทำให้ผู้ที่ติดตามและให้การช่วยเหลือ"แม่ปุ๊ก" ตั้งข้อสงสัยว่า "แม่ปุ๊ก"วางยาลูกทั้งสองคนเพื่อขอเงินบริจาค หรือไม่ จนกระทั่งมีคนไปถาม"แม่ปุ๊ก" แต่กลับถูก"แม่ปุ๊ก" ไปแจ้งความว่ามีบุคคล 2 คน โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีเธอว่าวางยาลูกเพื่อรับเงินบริจาค
ในอีกมุมคุณหมอที่ทำการรักษา"น้องอิ่มบุญ" เริ่มพบสิ่งผิดสังเกต
- แพทย์ได้ตรวจร่างกาย"น้องอิ่มบุญ" อย่างละเอียด พบสารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส คล้ายสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของน้ำยาล้างห้องน้ำหรือน้ำยาซักฟอก เข้าสู่ร่างกายโดยการกลืนเข้าไป ทำให้มีแผลในปาก ลำไส้ และกระเพาะอาหาร จึงกลับไปตรวจสอบกรณีของ"น้องอมยิ้ม" อีกครั้ง พบว่ามีอาการเหมือนกัน จึงตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ และสืบสวนเพิ่มเติมจนพบว่ามีลักษณะของการแสวงหาประโยชน์จากเด็กชัดเจน
"แม่ปุ๊ก" ถูกจับกุม ใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย
- รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
2. พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
3. ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
4. ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น
5. ฉ้อโกงประชาชน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องสืบสวนต่อไปว่า เรื่องราวสลดเช่นนี้ "แม่ปุ๊ก" เป็นผู้ลงมือกระทำเพียงคนเดียวหรือไม่ อีกทั้งไม่ยืนยันว่า "แม่ปุ๊ก" มีอาการป่วยทางจิดด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ ตำรวจยังพบข้อมูลว่า "แม่ปุ๊ก" เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 4 ครั้ง เคยมีประวัติเกี่ยวกับคดีการฉ้อโกงทรัพย์อีกด้วย และ จากการสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า "แม่ปุ๊ก" ไม่ยอมรับเรื่องวางยาลูก แต่ยอมรับสารภาพข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตอนนี้แม่ปุ๊กถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำ ศาลคัดค้านการประกันตัว ส่วน"น้องอิ่มบุญ" ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมฯแล้ว และอาการเริ่มดีขึ้น สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
Surapun อย่าใช้คำว่า แม่ กับ ผญ.สารเลวประเภทนี้ ไอ้สารเลวนี้ไม่มีความเป็นเเม่ เป็นสัตว์มากกว่า
25 พ.ค. 2563 เวลา 16.49 น.
ธิดารัตน์ สมพันธ์ แก็งขโมยเด็ก
25 พ.ค. 2563 เวลา 16.38 น.
ดูทั้งหมด