ไอที ธุรกิจ

ผุดไอเดีย "Thaiflix” สู้ "Netflix" ดันไทย ผู้นำดิจิทัลในภูมิภาค 

ฐานเศรษฐกิจ
อัพเดต 03 มิ.ย. 2563 เวลา 05.22 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2563 เวลา 05.12 น. • Thansettakij

“ทำไมประเทศไทยถึงไม่มีแพลตฟอร์มของคนไทย ทั้งโซเชี่ยลมีเดียและบริการทางออนไลน์ต่างๆเราต้องไปใช้แพลตฟอร์มของต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เม็ดเงินจากอุตสาหกรรมโฆษณา หรือ การค้าขายทางออนไลน์ก็ไหลไปต่างประเทศหมด” 

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  กล่าวถึงแนวความคิดของเขาที่จะสร้าง “แพลตฟอร์มไทย” ขึ้นมาแข่งขันกับแพลตฟอร์มต่างประเทศที่คนไทยนิยมใช้อยู่ ในระหว่างการประชุมทางไกล RoLD Virtual Forum : Living with COVID-19 ตอน “How to Empower Digital Citizenship in COVID-19 Era” ที่จัดโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เปิดเผยแนวคิดใหม่เป็นครั้งแรกในการประชุมครั้งนี้ คือ แนวคิดจะสร้างช่องทางขายคอนเทนต์ของไทยไปสู่ต่างประเทศ โดยยกตัวอย่างว่า เมื่อมี Netflix ได้ ก็สามารถทำให้มีช่องทางในลักษณะเปรียบเทียบเป็น Thaiflix ได้เช่นกัน เพราะที่ผ่านมาแพลตฟอร์มขายคอนเทนต์จากต่างประเทศ ซื้อคอนเทนต์ของเราไปในราคาที่จ่ายเงินครั้งเดียว แต่สามารถนำไปฉายในประเทศอื่นๆ

"เช่นประเทศจีนจนทำกำไรได้มหาศาล แต่ผู้ผลิตคอนเทนต์ของไทยไม่ได้เงินเพิ่มเลย จึงเห็นว่า หากประเทศไทยสามารถรวบรวมคอนเทนต์ดีๆไว้ด้วยกันได้ ก็สามารถสร้างช่องทางนำออกไปขายในต่างประเทศได้เช่นเดียวกับคอนเทนต์ของเกาหลีใต้ โดยเอกชนในธุรกิจนี้ต้องรวมตัวกันเป็นทีมไทยแลนด์ และรัฐบาลเป็นผู้ให้การสนับสนุน" 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผ่าปัญหาดิจิทัล "เรียนออนไลน์" เพิ่งเริ่ม "วางศิลาฤกษ์" ในประเทศ

อัพเดท "เรียนออนไลน์-เปิดเทอม" ก่อนถึงวันจริง 1ก.ค.

VGI โกย 4,000 ล. ดิจิทัล แลบ โต 117%

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายพุทธิพงษ์ เชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพทางเทคโนโลยีของไทย สามารถทำให้มีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองได้ แต่จะเกิดขึ้นได้ต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนทั้งระบบ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า แพลตฟอร์มของไทยที่ทำโดยภาครัฐไม่ได้รับความนิยม เช่น แพลตฟอร์มการค้าปลีกออนไลน์ 3 รายใหญ่ที่คนไทยใช้อยู่เป็นของต่างประเทศทั้งหมด ทั้งที่มีทั้งแพลตฟอร์มของกระทรวงพาณิชย์ ไปรษณีย์ไทย และกระทรวงมหาดไทย นั่นก็เป็นเพราะแพลตฟอร์มที่รัฐทำขึ้นมาเองยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ดังนั้นจึงมีความคิดว่า ภาครัฐควรมีบทบาทเพียงการเป็นเจ้าภาพสนับสนุนงบประมาณและรวบรวมเอกชนที่มีความสามารถเข้ามาช่วยสร้างแพลตฟอร์มทำวิจัย ทำตลาด สร้างแคมเปญ นำของไปขายต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มเดียวกันของประเทศไทย และเมื่อขายในประเทศไทยได้แล้ว เชื่อว่าในไม่เกิน 1 ปี จะทำให้แพลตฟอร์มของไทยขยายไปได้ในระดับภูมิภาค 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 10
  • 🎹 Oum 😎
    ทำแบบจีน จะพยายามคุมแพลทฟอร์มเพื่อควบคุมเนื้อหาของสื่อที่ประชาชนเข้าไปดู จากนั้นก็จะบล็อคแพลทฟอร์มของต่างประเทศ สุดท้ายก็ไม่ได้เกิด เสียเงินเปล่า เหมือน ThaiChat ที่พยายามจะเอามาแทน Line สุดท้ายแม้แต่คนในรัฐบาลเองก็ยังไม่ใช้ เพราะกลัวโดนล้วง
    04 มิ.ย. 2563 เวลา 00.35 น.
  • Sarawut Niramon
    กลัวมันจะซำ้รอยไทยแลนด์4.0อะดิ
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 22.49 น.
  • Tosapol
    เจ๊งขึ้นมาแล้วจะต้องมาอุ้มเหมือนสายการบินแห่งชาติด้วยมั้ย??
    04 มิ.ย. 2563 เวลา 02.20 น.
  • Khongbeng
    อย่าตั้งชื่อโง่ๆ แบบ thaiflix คิดให้มันดีๆกว่านี้หน่อย
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 19.46 น.
  • 📱Keng(Ken)
    Monoก็ของไทย รัฐบาลจะทำอะไรก็ศึกษาหน่อยว่ามีหรือยัง จะทำอะไรก็พูดไปเรื่อย เห็นๆอยู่ว่าทำแล้วก็ต้องไปอุ้ม เพราะจะเอาเงินรัฐภาษีไปใช้อ่ะดิ จริงๆแล้วก็ให้เมียเปิดเองเลยก็ได้จะทำอะไร ไม่ต้องเอาภาษีประชาชนไปใช้ รวยก็โชคดีไปไม่ว่ากัน ไม่ใช่พอเจ๊งเอาภาษีประชาชนไปอุ้มเหมือนการบินไทย แต่ดูทรงน่าจะแบบที่2มากว่า เหอะๆ ไม่ได้ดูถูกนะ แต่เหอะๆ
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 15.22 น.
ดูทั้งหมด