ทั่วไป

"หมอธีระวัฒน์ "เผยรู้สึกละอายใจ เคยมองข้ามกัญชาในแพทย์แผนไทย ชี้หากปลดล็อกต้องครอบคลุมทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย

ไทยโพสต์
อัพเดต 23 ต.ค. 2561 เวลา 08.58 น. • เผยแพร่ 23 ต.ค. 2561 เวลา 08.58 น. • ไทยโพสต์

 23 ต.ค.61--ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลในการเสนอปลดล็อกกฎหมาย โดยใช้รูปแบบเปลี่ยนจากสารเสพติดประเภท 5 เป็นประเภท 2 เพื่อให้เป็นยานั้น คือ จะใช้ได้เฉพาะสารสกัด แต่ดอก ใบ ที่เป็นพืชยาจะใช้ไม่ได้ แต่หาก ทาง อย.สามารถระบุไปได้ว่า พืชยาให้เป็นยาได้ด้วยนั้นก็จะเป็นเรื่องดี ทั้งนี้ตนมองว่าการแพทย์แผนไทย หรือการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการบำบัดรักษาโรคเป็นสิ่งจำเป็น และต้องใช้ควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน เนื่องจากการที่ตนได้ทำงานด้านกัญชามา 8 เดือน เริ่มรู้สึกว่าที่ผ่านมาตนเองอาจใจกว้างไม่พอ และจะรู้สึกละอาย หากไม่รับฟังภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้พัฒนาสูตรการบำบัดรักษาโรคมานานจนกระทั่งปัจจุบัน

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังจากตระหนักแล้วว่า ตนเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน เรามักตีกรอบตัวเอง โดยเชื่อหลักฐานเชิงประจักษ์จากต่างประเทศ และหลักฐานดังกล่าว ส่วนมากจะเป็นการเรื่องการศึกษาเทียบเคียงความปลอดภัย และประสิทธิภาพทางคลินิก คือ จะบอกว่าได้ผลหรือไม่ได้ผล ซึ่งมีตัวแปรหลายอย่างในเรื่องของข้อมูล อาจมีการละเลย การใช้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้ผลที่ได้ออกมาไม่ตรงกับความเป็นจริงก็มี ดังนั้น การจะทำอะไรต้องดูให้ลึกซึ้ง 2 ประการ คือ 1.ต้องทราบกลไกการเกิดของโรคนั้นๆ ให้มากที่สุด ทั้งกลไกของยา ของสารประกอบอะไรก็ตามที่จะมาขัดขวางกระบวนการเกิดโรคนั้นได้หรือไม่ และ2.ต้องดูกลไกที่เราอาจยังไม่ทราบ  โดยการศึกษาจากภูมิปัญญาการแพทย์ท้องถิ่น ซึ่งมีการพัฒนาและประยุกต์ จนเริ่มมีมาตรฐานขึ้น  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“สิ่งจำเป็นที่หากจะปลดล็อกกฎหมายต้องครอบคลุมทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย ซึ่งวันที่ 24 ต.ค.นี้ ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผมได้รับเชิญให้ร่วมประชุมจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเพิ่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบาย แนวทาง และการดำเนินการตามร่าง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ… ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเพสติด (ฉบับที่…) พ.ศ.. ครั้งที่ 1/2562 โดยมีนพ.เสรี ตู้จินดา ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการชุดนี้ ซึ่งผมจะเสนอแนวทางการปลดล็อกกัญชา และล่าสุดจากภาคประชาชน ภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้จัดทำร่างกฎหมายฉบับประชาชน คือ ร่างพ.ร.บ.พืชยา กัญชา พืชกระท่อม พ.ศ. ….  ซึ่งได้ปรับปรุงล่าสุดวันที่ 21 ตุลาคม 2561 โดยจะจัดทำเป็นกฎหมายเฉพาะเพื่อให้สามารถนำไปรักษาทางการแพทย์ และการควบคุมการใช้อย่างเข้มงวด” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเสนอร่างพ.ร.บ.ใหม่ จะทำให้กฎหมายออกมาล่าช้าหรือไม่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า เราต้องตกผลึกให้ได้เสียก่อนว่าจะใช้อะไร รูปแบบไหน  อย่างหากเป็นการใช้กฎหมายเฉพาะ ก็ต้องมาหาวิธีลัดที่จะทำให้กฎหมายออกมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้าน นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ในฐานะประธานกรรมการกำหนดนโยบาย แนวทาง และการดำเนินการตามร่างพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฯ กล่าวว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการฯชุดนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2561 เพื่อทำหน้าที่ในการออกอนุบัญญัติเพื่อสอดคล้องกับพ.ร.บ.ฯฉบับใหญ่ที่อยู่ในขั้นตอนตามกฎหมายอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งเป็นแค่การออกอนุบัญญัติ หรือกฎหมายรอง ว่าในส่วนของกระทรวงฯ โดย อย.จะมีกฎหมาย หรือมีอะไรมารองรับ ยังไม่ใช่ว่าจะเป็นชุดที่จะได้ข้อสรุปเรื่องการพิจารณากัญชาทางการแพทย์แต่อย่างใด.

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 48
  • กัญชา กระท่อมมีประโยชน์และโทษเพราะฉะนั้นต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ ดีครับประชาชนจะได้มีทางเลือก ต่างประเทศเขายอมนรับแล้วครับ...
    23 ต.ค. 2561 เวลา 09.26 น.
  • Hammer
    ดีแล้วหมอที่คิดได้ มีคนอีกเพียบที่ยังคิดไม่ได้
    23 ต.ค. 2561 เวลา 10.49 น.
  • Let it be. 4289 6395
    ยังไม่สายคุณหมอ เอาความจริงออกมา ตีแผ่ ว่ามันมีข้อดีข้อเสียยังไง ผลกรรมมันจะได้หยุด ผลบุญมันจะได้เพิ่ม สู้ๆน้า ✌️😄
    23 ต.ค. 2561 เวลา 10.03 น.
  • P K
    เขาไม่ได้กลัวประโยชน์ในการรักษา เขากลัวคนจะเอาช่องโหว่จากตรงนี้ไปใช้ให้ผิดวัตถุประสงค์ ยกตัวอย่าง ยาขยันสมัยก่อน เปลี่ยนเป็นยาม้า และยาบ้าจนถึงทุกวันนี้
    23 ต.ค. 2561 เวลา 09.48 น.
  • สมเกียรติ
    รีบๆทำเถอะครับ ผลิตยาขายต่างประเทศ แถมได้ช่วยคนป่วยอีก เราช้า ก็จะโดนชาติอื่นเอาไปจดลิขสิทธิ์หมดแล้วครับ มีแต่พวกโลกสวย มองด้านเดียว กลัวไปหมดเลยทำให้ประเทศพัฒนาช้ามาก
    23 ต.ค. 2561 เวลา 10.46 น.
ดูทั้งหมด