"บิ๊ก ป.ป.ช." เข้ามอบตัว โดน 3 ข้อหา ยันแท็กซี่หาเรื่องก่อน

"บิ๊ก ป.ป.ช." เข้ามอบตัว โดน 3 ข้อหา แจงแท็กซี่ซิ่งปาดหน้าก่อน จากนั้นได้ขับแซงเพราะรีบไปทำธุระ คู่กรณีจึงขับจี้บีบแตรใส่หลายครั้งพร้อมเปิดไฟหน้ารถ ยันชักปืนขู่แค่ป้องกันถูกทำร้ายไม่คิดจะลั่นไก

ส่วนที่ถือปืนในลักษณะคล้ายข่มขู่โดยยกขึ้นมานั้น เพราะส่วนตัวเห็นท่าไม่ดี กลัวคนขับแท็กซี่ทำร้าย จึงต้องการแสดงให้เห็นว่าตนมีอาวุธป้องกันตัว โดยอ้างว่า ไม่คิดจะลั่นไกปืน ทำแค่ป้องกันให้ถูกหยุดไล่ตามเท่านั้น จนมี รปภ. อาคาร A ในศูนย์ราชการมาห้ามไว้ จากนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับรถหายไปทางอื่น ทั้งนี้อยากให้สังคมเห็นคลิปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่คลิปที่ตัวเองชักปืนที่ถูกปล่อยในโลกออนไลน์แล้วด่วนตัดสิน

จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปทางเฟซบุ๊กโดย “เฮียขับรถ” เรื่องการขับรถกระทบกระทั่งกันแล้วมีการชักปืน บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นจากรถที่มีกล้องได้ชะลอเพื่อจะเลี้ยวขวาเข้าศูนย์ราชการ แต่รถที่ก่อเหตุเป็นรถฮอนด้าแอคคอร์ด ทะเบียน 3กย2355กรุงเทพฯ ได้บีบแตรไล่ จากนั้นมีการบีบแตรและปาดหน้าซ้ำอีกครั้งตอนแซง จากนั้นรถที่มีกล้องก็ขับตามหลัง เพราะเป็นเส้นทางบังคับเพียงทางเดียว เมื่อจะก่อนถึงทางแยกรถคันหน้าได้เบรกอย่างกะทันหัน จากนั้นมีลุงลงจากรถเอาปืนจ่อมาทางรถที่มีกล้อง จากนั้นผู้หญิงในรถลงมาระบุว่า ขับรถตามมาทำไม พร้อมกับโบกมือให้ถอยไปซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในโลกออนไลน์ กระทั่งทราบชื่อต่อมาคือนายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (16 ต.ค.) ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ประสานการติดต่อก่อนเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รองผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ปากคำถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยนายพิเศษ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนกับคุณป้าเดินทางมาทำธุระที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ อาคาร B ใช้เส้นทางคลองประปา จากนั้นรถติดไฟแดงก่อนทางเข้า อาคาร A พอสัญญาณไฟเป็นสีเขียว รถแท็กซี่คันที่ตามหลังขับปาดมาด้านหน้าก่อนเลี้ยวเข้าศูนย์ราชการฯ แล้วหยุดรถกะทันหัน ทำให้ตนบีบแตรเตือน 1 ครั้ง ก่อนจะขับรถแซงออกไป เพราะรีบไปทำธุระที่อาคาร B แต่แท็กซี่คันดังกล่าวพยายามขับรถตามมาด้วยความเร็ว และบีบแตรใส่หลายครั้ง พร้อมกับเปิดไฟหน้ารถลักษณะไม่พอใจ พอจังหวะขึ้นลูกระนาด ตนกับญาติชะลอและหยุดรถเพื่อถามว่า แท็กซี่คันดังกล่าวขับรถตามมาทำไม

ส่วนที่ถือปืนในลักษณะคล้ายข่มขู่โดยยกขึ้นมานั้น เพราะส่วนตัวเห็นท่าไม่ดี กลัวคนขับแท็กซี่ทำร้าย จึงต้องการแสดงให้เห็นว่าตนมีอาวุธป้องกันตัว โดยอ้างว่า ไม่คิดจะลั่นไกปืน ทำแค่ป้องกันให้ถูกหยุดไล่ตามเท่านั้น จนมี รปภ. อาคาร A ในศูนย์ราชการมาห้ามไว้ จากนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับรถหายไปทางอื่น ทั้งนี้อยากให้สังคมเห็นคลิปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่คลิปที่ตัวเองชักปืนที่ถูกปล่อยในโลกออนไลน์แล้วด่วนตัดสิน

ด้าน พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า จากพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน เพราะมีการชักปืนและการพกปืนก็ถือเป็นการกระทำความผิดแล้ว โดยคาดว่าจะแจ้งข้อหา การมีและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนฝ่ายคู่กรณีทางตำรวจพบในบัญชีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ "อัญชลี" นั้น เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปทางข้อความเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา

อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับนายพิเศษในข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ตามป.อาญามาตรา 371 ,392 และพรบ.อาวุธปืนพ.ศ. 2490 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ