กรุงเทพฯ 16 ก.ค.- กว่า 2 เดือนที่ข่าวการจากไปของ "น้องชมพู่" ยังเป็นปริศนา สังคมตั้งข้อสงสัยว่าหากยังจับใครไม่ได้ แนวทางของคดีจะเป็นอย่างไร อัยการบอกว่า หากหลักฐานไม่เชื่อมโยงถึงใคร ต้องส่งสำนวนไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำความเห็นสั่งปิดคดี ติดตามจากรายงาน
66 วันการจากไปของ "น้องชมพู่" หนูน้อยวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตเป็นปริศนา บนเขาหินเหล็กไป จ.มุกดาหาร แม้ตำรวจจะระดมมือสืบชั้นดีจากทั่วประเทศ ไปค้นหาพยาน หลักฐาน แต่จนถึงวันนี้ยังไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องสงสัยได้แม้แต่รายเดียว สำนักข่าวไทยสอบถามขั้นตอนทางกฎหมายกับรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ถึงทิศทางของคดีนี้ โดยอัยการบอกว่า คดีมี 2 แนวทาง
แนวทางแรก คือ เจอหลักฐานจนสามารถนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาได้ ก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่หากยังมืด 8 ด้านแบบนี้ ท้ายที่สุดพนักงานสอบสวนจะทำสำนวนชันสูตรพลิกศพส่งมายังอัยการ ระบุเหตุการตายไม่เกิดจากการกระทำผิดทางอาญา เช่น ขาดน้ำ ขาดอากาศ ไม่มีร่องรอยบาดแผล อัยการจะตรวจสำนวน จากนั้นจะส่งสำนวนให้ผู้ว่าฯ มุกดาหาร พิจารณาเห็นชอบยุติคดี จนกว่าจะมีพยานหลักฐานใหม่ โดยคดีนี้มีอายุความ 20 ปี
ด้านมุมมองจากเลขาธิการสมาคมพนักงานสอบสวน ผู้คร่ำหวอดในวงการสืบสวนมาทั้งชีวิต มองว่า หากคดีนี้จบลงแบบไม่มีผู้ต้องหา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ชุดสืบสวนต้องตอบสังคมให้ได้ทุกประเด็น ปกติกล้องวงจรปิดจะเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยคลี่คลายคดี แต่คดีนี้ไม่มีวงจรปิด ทำให้ต้องควานหาพยานหลักฐานอย่างอื่นแทน ที่ผ่านมามีหลายคดีที่สังคมชี้นำ จนทำให้ประชาชนคาดหวังว่าจะจับคนร้ายได้
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน และตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า หากน้องชมพู่เสียชีวิตเอง เด็ก 3 ขวบ ขึ้นไปอยู่บนเขาได้อย่างไร และทำไมเสื้อผ้าของน้องถึงถอดไว้คนละจุดกับที่พบศพ
กว่า 2 เดือนที่น้องชมพู่เสียชีวิต ภาพที่เราปฏิเสธไม่ได้ คือ ภาพพระ ร่างทรง ผู้มีชาญวิเศษ เข้าไปในหมู่บ้านมากมาย ล้วนแสดงอิทธิฤทธ์ไปต่างๆ นานา แต่ทำไมชาวบ้านที่นั่นกลับไม่ต่อต้าน มุมมองจากนักวิชาการมองว่า เมื่อที่พึ่งทางวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบให้ไม่ด้ กระบวนการทางชุมชนจึงเริ่มทำงานหาคำตอบแทน โดยเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ปลูกฝังอยู่กับพี่น้องชาวอีสานมานานแล้ว
ที่ผ่านมามีหลายคดีที่ตำรวจไม่สามารถตามหาความจริงให้สังคมได้ โดยคดีทั่วไปที่ไม่มีผู้ต้องหา ตำรวจจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน สรุปสำนวนชันสูตรพลิกศพให้อัยการปิดคดี หลังจากนี้คงต้องจับตาว่าสุดท้ายคดีน้องชมพู่จะจบลงอย่างไร.-สำนักข่าวไทย
Thitaporn Petchairat คดีนี้ควรจบได้แล้ว..ตร.ต้องจับพ่อแม่เพราะดูแลลูกไม่ดีและปล่อยเด็กทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนใครทำอะไรก็ไม่เกินกรรม.เพียง3ขวบ.น่าจะมีกฏหมายลองรับเด็กขนาดสุนัขยังมีกฏหมายลองรับเลยน่าแปลกพ่อแม่รีบเผาศพลูกทั้งเสื้อผ้าแถมขอรับเงินบริจาคอีก..
17 ก.ค. 2563 เวลา 04.19 น.
kansaran DSI ไทยเก่งหาที่มาที่ไปขิงแมลงวันได้
17 ก.ค. 2563 เวลา 01.38 น.
จิ๋ว:รัตนา นะจ๊ะ5989 ครอบครัวไม่ยอมพูดความจิง..แต่พยายามใส่ร้ายให้ลุงพล..เพื่อต้องการให้ใครพ้นผิดสักอย่าง??
17 ก.ค. 2563 เวลา 01.17 น.
kkk สรุปจับไม่ได้พ่อมันนั้นละ
17 ก.ค. 2563 เวลา 00.01 น.
Nemo 101 คิดว่าน้องตายฟรี หลักฐานโดนทำลาย ทแนะทนายเยอะเกินไป สื่อขายข่าวเมามัน ตำหนวดไม่เก่ง ตายฟรี จบข่าว.
16 ก.ค. 2563 เวลา 23.44 น.
ดูทั้งหมด