รองโฆษก พปชร. ซัด “ปิยบุตร”เลิกหลับตาวิจารณ์คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย้ำเพื่อรักษาชีวิตคนไทย ยกอานิสงส์เพิ่มโอกาสลงทุน ยุโรปยังเปิดประตูรับ
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นว่าไม่มีความจำเป็นใดหลงเหลือในการคงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่สนใจสุขภาพอนามัยของประชาชน ไม่สนใจข้อมูลสถิติทางการแพทย์ เหมือนมีเจตนาปลุกระดมโดยลงทุนแค่อัดคลิปอยู่ในห้องแอร์
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนของ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ 119 คนและอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐทั่วประเทศได้รับฟังความคิดเห็นที่แท้จริงจากประชาชน ซึ่งไม่พบว่าได้รับความเดือดร้อนใดๆ จากการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ตรงกันข้ามกลับชื่นชมและพร้อมให้ความร่วมมือ เห็นว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน สามารถช่วยให้การประสานงานและการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนรู้สึกปลอดภัยเพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกัน กลัวว่าจะกลับมามีการระบาดระลอกใหม่แล้วยากที่จะควบคุม การลงทุนและความเสียสละที่ผ่านมาหลายเดือนจะสูญเปล่า ซึ่งนี่คือเสียงสะท้องที่แท้จริงของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่ความคิดเห็นจากคนที่ขลุกตัวกลัวติดเชื้ออาศัยอยู่แต่ในห้องแอร์ และยังสอดคล้องกับที่ “กรุงเทพโพลล์” เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่า ประชาชน ร้อยละ 76.7 ระบุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีส่วนต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
“พ.ร.ก. ฉุกเฉินไม่มีเป้าหมายทางการเมือง ผลของการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำให้ประเทศไทยควบคุมโรคได้ดี จนได้รับโอกาสต่างๆ เช่น สหภาพยุโรปให้ผลเมืองไทยได้รับอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ ต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเนื่องจากมีความปลอดภัย และเชื่อว่าโอกาสต่างๆจะตามมาอีกมาก ในการพิจารณาคง พ.ร.ก. ฉุนเฉินนั้น มีการพิจารณารอบด้านทุกมิติจากทีมแพทย์ ทีมสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องว่ายังมีความจำเป็นเพราะในเดือน ก.ค.จะมีการผ่อนคลายในระยะที่ 5 ของกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงในโซนสีแดง ล่อแหลมต่อการระบาดของโควิดมากที่สุด ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญในการป้องกันอย่างมาก จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปเพราะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่”น.ส.ทิพานัน กล่าว
“คณะก้าวหน้ากลับไม่เคยก้าวเท้าออกมาจากบ้านลงพื้นที่ เพิ่งจะมีการลงพื้นที่ครั้งแรก คือวันที่ 27 มิ.ย. ตามที่นายธนาธร ได้ให้สัมภาษณ์ใว้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าระหว่างช่วงเวลาวิกฤตที่ผ่านมาเกือบ 4 เดือน คณะก้าวหน้าไม่เคยได้รับฟังเสียงประชาชนจริงๆ เลย การกล่าวอ้างต่างๆ ว่าเป็นเสียงของประชาชน อาจจะมาจากเสียงของแกนนำ 3 คนที่คุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้นหรือไม่ ส่วนที่อ้างความเห็นของสื่อญี่ปุ่นประกอบการวิพากษ์วิจารณ์จากห้องแอร์ของนายปิยบุตรนั้นก็ดูตลก เหมือนจัดฉากทำเป็นขบวนการโดยให้ฝ่ายตัวเองให้ข่าวกับสื่อญี่ปุ่น แล้วเอาข่าวของสื่อญี่ปุ่นมากล่าวอ้างอีกที เพราะไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่สื่อญี่ปุ่นได้รับนั้นเป็นความเห็นฝ่ายเดียวจากความเห็นส่วนตัวของ ส.ส. พรรคก้าวไกลที่ให้สัมภาษณ์สื่อประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่ ไม่แน่ใจว่าการออกมาแสดงความคิดเห็นของนายปิยบุตรเป็นไปเพื่ออะไรกันแน่ เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพของประชาชน หรือเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง”รองโฆษก พปชร. กล่าว
ÀvŌkÁ คงไว้นานๆเลย ดีชอบ ไม่เดือดร้อน บ้านเมืองสงบ ทำมาหากินสะดวกด้วย รำคาญม๊อบงี่เง่า
03 ก.ค. 2563 เวลา 12.01 น.
Pittaya833 ภูมิใจมั้ยที่มีมันสอนหนังสือ
03 ก.ค. 2563 เวลา 00.54 น.
PongPhol จะไปให้ราคากับไอ้พวกเด๊กเลี้ยงแกะทำไมล่ะ เสียเวลา ปชช.ก็ไม่มีใครให้ความสนใจไอ้พวกขยะรกโลกพวกนี้อยู่แล้วอะ
02 ก.ค. 2563 เวลา 11.34 น.
Kamphol ต่อพรกฉุกเฉินพ่อแม่มันต้องตายแน่ ไอ้สัสบุตชังชาติ ขยะแผ่นดิน ไร้ค่า เตี้ย มช ยังมีค่ากว่ามึงสะอีก
02 ก.ค. 2563 เวลา 11.24 น.
Paiboon ความเห็นต่าง ก็เสนอได้ แต่คนอื่นจะคิดอย่างไร ก็เป็นสิทธิ แต่ละคน ย่อมได้มิไช่หรือ
02 ก.ค. 2563 เวลา 11.23 น.
ดูทั้งหมด