หลังผลการอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกเข้าทาง แมนฯซิตี้ ทำให้มีผลกระทบหลายอย่างตามมาทั้ง “ส่วนตัว” และ “ส่วนรวม”
ส่วนตัวก็คือบรรดา “เฮียหวัง” ที่แอบลุ้นว่าจะได้รับอานิสงส์ไปแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยโควต้าอันดับ 5 ตอนนี้จึงร้อนระอุและตรึงเครียดยิ่งกว่าเดิม
เชลซี, เลสเตอร์,แมนฯยูไนเต็ด รวมถึง วูลฟ์ และ เชฟฯยูฯ คือ 5 ทีมที่มีเพียง 1 เท่านั้นครับที่จะได้ตั๋วราคาแพงใบนี้ไป
และ “ปีศาจแดง” ก็ขอเป็นทีมแรกครับที่จะปักธงยึดอันดับ 3 หากคืนนี้สามารถเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ผู้ที่มีสถิติเล่นนอกบ้านดีกว่าในบ้าน
หากลูกทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผ่าน “เควสย่อย” นี้ไปได้ ผมเชื่อว่า “เควสหลัก” ไปแชมเปี้ยนส์ลีกไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
กล่าวคือมันจะมีเกมที่ เลสเตอร์ เจอ เชฟฯยูฯ ซึ่งตัดแต้มกันเองและเป็น “จิ้งจอก” ทีมเดิมที่ก่อนมาปิดฤดูกาลกับ ยูไนเต็ด พวกเขาต้องไปเยือน สเปอร์ส
ดูโปรแกรมกับฟอร์มที่ออกทะเลหนักแพ้ บอร์นมัธ 4-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์จึงไม่มีเหตุผลใดๆรองรับเลยว่าลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะพลิกโฉมตัวเองใน 3 นัดสุดท้ายที่เหลืออยู่
ครับนั่นเป็นธุระของสโมสรที่ต้องไปห้ำหั่นกันเองแต่ปัญหา “ส่วนรวม” จากการที่ “เรือใบ” รอดแบนมันส่งผลกระทบตามมาหลายอย่าง
เหตุผลที่ศาลกีฬาโลกหรือ CAS ให้ไว้จากการตัดสินครั้งนี้คือหลักฐานที่ทางคณะกรรมการกฏการเงินของยูฟ่าหรือ CFCB ไม่มีน้ำหนักมากพอถึงขนาดใช้ “ยาแรง” แบนจากรายการแชมเปี้ยนส์ลีก
การลงโทษจึงเป็นข้อหาไม่ให้ความร่วมมือต่อการสอบสวนเพียงอย่างเดียวและถูกปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 10 ล้านยูโร
ประเด็นสำคัญที่ทำให้ยูฟ่าแพ้คือกฏของพวกเขาในมาตรา 37 ที่ระบุเอาไว้ว่าการฟ้องร้องต้องอยู่ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งในทีนี้คือ 2011-2016 ดังนั้นนับนิ้ว 2020 ก็เท่ากับ “ขาดอายุความ”
ตรงนี้เองที่ทำให้ช่วงหลัง แมนฯซิตี้ ออกมาแสดงความมั่นใจเกินหน้าเกินตา ที่แท้มีไม้เด็ดที่ว่านี้เอง
ประเด็นหลักฐานที่หลุดออกมาจะไม่ชอบด้วยกฏหมาย (ถูกแฮค) แทบไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเลยนะในความคิดผม เพราะสุดท้ายยูฟ่าก็แพ้ในกฏ “อายุความ” ของตัวเองอยู่ดีครับ
การที่ผลออกมาพลิกแบบนี้ทำให้ผมต้องมานั่งเขียนบทความใหม่หลังทำเสร็จไปตั้งแต่บ่าย 2 (เขียนอยู่ 2-3 ชั่วโมง) ด้วยหัวข้อหล่อๆ “ชัยชนะของยูฟ่า ชัยชนะของฟุตบอล” (ฮา)
ถ้ายูฟ่าอยากให้กฏ FFP มันศักดิ์สิทธิ์ไม่ถูกเอามาล้อเป็นตลกคาเฟ่ในอนาคตคงต้องไปแก้ไขกฏอุดช่องโหว่ตรงนี้ด่วนครับ หาไม่แล้วจะเกิดพวกหัวหมอฝ่าฝืนกฏแล้วปล่อยให้เกิน 5 ปี รออุทธรณ์ เสียค่าปรับ จบ
ยูฟ่า มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านผลครั้งนี้ครับแต่ยืนยันไม่เอาแล้วเพราะกฏในเอกสารมันชัดเจน สู้ยังไงก็แพ้อยู่ดีครับ
ตอนนี้โลก “ทวิตเตอร์” จึงเต็มไปด้วยแท็ก RIP FFP ไม่มีใครเชื่อน้ำยากฏที่ว่านี้อีกแล้วครับ
รายละเอียดแบบเต็มๆนั้นทาง CAS จะปล่อยสู่สาธารณะชนในอีกไม่กี่วันแต่หลักๆไม่น่าหนีจากนี้
คำถามตัวโตๆที่อยู่ในใจหลายคนตอนนี้คือแล้วกฏการเงินจะยังไงต่อดี?
เพราะเมื่อ “เรือใบ” รอดครั้งนี้เท่ากับเป็นบรรทัดฐานให้แต่ละสโมสรที่มีแนวทางการสร้างทีมแบบนี้พร้อมที่จะเดินรอยแน่นอนครับ
- คุณไม่จำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการของกฏการเงิน หรือ CFCB มีปัญหาก็รอให้มีบทลงโทษแล้วก็อุทธรณ์ต่อศาลโลก
- คุณจะใช้เงินเท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่ใจปรารถนา
- คุณสามารถดีลกับสปอนเซอร์ด้วยวงเงินเกินจริงเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ใจปรารถนา
- แค่เตรียมเงิน 10 ล้านยูโรไว้จ่ายค่าปรับ
แต่ในอีกมุมมองนึงเราก็ต้องไม่ลืมด้วยว่าหากมีผู้ถือกฏ ก็ย่อมมีผู้เลี่ยงกฏ (ด้วยช่องโหว่) กว่าจะลงตัวจนหาทางหลุดยากอาจต้องใช้เวลาอีก 1-2 เคสซึ่งที่ผ่านๆมานอกจาก แมนฯซิตี้ ก็คือ เปแอสเช
จึงเท่ากับว่า ยูฟ่า มีสนามให้ทดสอบไม่เยอะเท่าไหร่
พวกเราในฐานะแฟนบอลคงต้องตามข่าวกันต่อไปครับว่า “ยูฟ่า” จะมีการเดินหมากเตรียมพร้อม “ปราบ” เหล่าเศรษฐีอย่างไรหลังพ่ายแพ้ชนิดเป็นตัวตลกแบบนี้…
มันอยากทำอะไรปล่อยมันเลยถ้าเป็นทีมเล็กๆคงโดน เฮ้อจะเชื่อถืออะไรได้อีก
14 ก.ค. 2563 เวลา 03.31 น.
สวนลุงแท็ค เหมือนโควิดในไทยตอนนี้เลย
รัฐบาลกำลังจะตายเพราะ "ยกเว้น"
13 ก.ค. 2563 เวลา 17.40 น.
Hang เศษเงินแขก
13 ก.ค. 2563 เวลา 16.40 น.
Boy ทีมแห่ครั้งแรกคงผิดหวัง
มีแต่พวกไม่มีตังที่โวยวาย
ทีมล่างๆไม่เห็นจะโวย
มีโวยอยู่ทีมเดียว
13 ก.ค. 2563 เวลา 15.34 น.
Foong คือ เรื่องๆของเรื่อง หาเรื่องไถ่เงินเจ้าของแมนซิตี้.. ก็แค่นั้น เงินถึงเรื่องก็จบ อย่ามาดราม่า ของกล้วยๆ กฏหมายเอาไว้รังแกคนจน เท่านั้น คำนี้ใช้ได้ทั่วโลกไม่เว้นแม้กระทั่ง วงการกีฬา!!!
13 ก.ค. 2563 เวลา 15.34 น.
ดูทั้งหมด