2 ส.ส.ก้าวไกลร่วมวงค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะหวั่นทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเล วิถีชาวบ้าน เตรียมตั้งกระทู้สดถามรัฐบาลในสภาฯ ส่วน กมธ.เรียก ศอ.บต.ซัก
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เครือข่ายภาคประชาชนหลายกลุ่มในจังหวัดภาคใต้ ร่วมจัดกิจกรรมนิทรรศการและวงเสวนา “การเคลื่อนตัวของเกลียวคลื่นกลางกรุง กับลูกสาวแห่งทะเลจะนะ” เพื่อคัดค้านมติ ครม.และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ที่เตรียมผลักดัน อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมต้นแบบ โดยการเปลี่ยนผังเมืองสีเขียว (พื้นที่เกษตร) กว่า 16,753 ไร่ ให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ประกอบด้วยท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของชุมชน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวประมงพื้นบ้าน และพื้นที่ดังกล่าวเป็นหนึ่งในพื้นที่ๆมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำที่สุดในพื้นที่อ่าวไทยด้วย
โดยในวันที่ 11 ก.ค.นี้ ศอ.บต.จะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ ซึ่งภาคประชาชนมีความรู้สึกไม่ไว้ใจและประท้วงไม่ให้มีการดำเนินเวทีมาหลายครั้ง เนื่องจากเวทีที่ผ่านมาในลักษณะนี้มีการใช้กำลังของฝ่ายความมั่นคงมาสกัดกั้นและคุกคามผู้คัดค้านโครงการเสมอจนไม่มีเสียงคัดค้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ ศอ.บต.ได้เลื่อนการจัดเวทีออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกระทั่งมากำหนดให้เป็นวันที่ 11 ก.ค.เมื่อไม่นานมานี้
โดยในช่วงของการเสวนา นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จากสัดส่วนภาคใต้ ในฐานะสมาชิกคณะกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมวงเสวนาเพื่อรับฟังปัญหาและแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวด้วย
นายสมชาย ระบุว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของภาครัฐและ ศอ.บต.ในการรับฟังความคิดเห็นไม่ได้เป็นไปตามแม้กระทั่งยุทธศาสตร์ของ ศอ.บต.เอง ที่ระบุว่าการพัฒนาต้องเป็นไปตามความต้องการ ศักยภาพ วิถีชีวิตทและความต้องการของชุมชน และเป็นที่แน่ชัดว่า ศอ.บต.มีอำนาจล้นเกินในความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นเหตุมาจากหลังปี 2553 มามีการกระชับอำนาจเข้ามาให้ ศอ.บต.อีกรอบหนึ่งผ่าน พ.ร.บ.การบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีมาตรา 10 ที่ให้ ศอ.บต.มีอำนาจกำหนดพื้นที่โครงการพัฒนาเศรษฐกิจได้ เปิดช่องให้มีการร่วมมือกับทุนใหญ่ในการหาผลประโยชน์
“ประเด็นคือการพัฒนาของรัฐไทยไม่เคยสนใจสิ่งแวดล้อม ไม่เคยสนใจวิถีชีวิตทางทะเล ถ้าใครเคยขึ้นเครื่องบินตอนค่ำๆบินผ่านภาคใต้ จะเห็นได้ว่าแสงไฟเรือประมง พื้นที่ทำการประมงเริ่มถอยห่างจากชายฝั่งที่มีพื้นที่อุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ความอุดมสมบูรณ์หายไปจากพื้นที่ๆมีอุตสาหกรรมเสมอ และสิ่งที่น่ากังวลคือ อ.จะนะเป็นพื้นที่ๆมีความอุดมสมบูรณ์ในทรัพยากรทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ตอนล่างแห่งหนึ่ง แต่การที่ ศอ.บต.ไม่ให้ความสนใจพื้นที่ทางทะเลเลยและจะเอานิคมอุตสาหกรรมไปอยู่ที่ อ.จะนะ คือความกังวลที่น่ากังวลจริงๆ” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวต่อไป ว่าการรับฟังความเห็นของ ศอ.บต.ในวันที่ 11 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ทางพรรคก้าวไกลเอง เราก็จะมีกระบวนการที่จะดำเนินการอยู่ในสองด้าน ในด้านหนึ่ง พรุ่งนี้ตนจะพยายามตั้งกระทู้ด่วนสอบถามนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ตอบคำถามยืนยันว่าการรับฟังความคิดเห็นสามารถเลื่อนได้หรือไม่ ก็ขอให้รอดูในวันพรุ่งนี้ ว่าสภาฯจะยอมให้เราตั้งกระทู้ด่วนหรือไม่ หากไม่ยอมให้เราตั้ง นั่นก็คงจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่ารัฐไทยกำลังจะเดินหน้าโครงการนี้อย่างเต็มที่โดยไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น ในกิจกรรมวันนี้ นอกจากนายสมชายแล้วยังมีนายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนภาคใต้ และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ร่วมเวทีรับฟังปัญหาของชาวบ้านและภาคประชาชนด้วย
ด้าน นายปดิพัทธ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ เปิดเผยว่า ได้รับข้อร้องเรียนของชาวบ้านเพื่อเตรียมนำไปสู่การดำเนินการในชั้นกรรมาธิการต่อไป โดยเฉพาะในด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยจะมีการเชิญทั้งตัวแทนของชาวบ้านและ ศอ.บต.มาซักถามและชี้แจงร่วมกัน ซึ่งวันพรุ่งนี้ตนจะทำการขอมติจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการ แต่ก็น่าเสียดายว่าต่อให้มติในชั้นกรรมาธิการผ่านในวันพรุ่งนี้ การประชุมเชิญ ศอ.บต.มาตอบคำถามได้ก็คงจะเกิดได้เร็วที่สุดในวันที่ 15 กรกฎาคม ไม่ทันการรับฟังความคิดเห็นของ ศอ.บต.อยู่ดี
“เมื่อกี้ผมฟังน้องยะพูดผมน้ำตาแทบร่วง จริงๆ การต่อสู้เพื่อผืนดินบ้านเกิดของตัวเองมันไม่ควรจะผิด แต่การต่อสู้ในสถานการณ์ที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินแบบนี้ การที่ ศอ.บต.จะจัดเวทีภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแบบนี้ เสียงคัดค้านจะถูกดำเนินคดีหรือเปล่า เด็กคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเกิดของตัวเองจะต้องถูกดำเนินคดีมั้ย เรื่องนี้ผมสะเทือนใจมาก แน่นอนว่าแม้ (การเรียกขอข้อมูลในชั้นกรรมาธิการ) จะไม่ทันเวทีรับฟังความคิดเห็นของ ศอ.บต.แต่อย่างน้อยที่สุดเราจะพยายามใช้พื่นที่ตรงนี้ในการให้อำนาจประชาชนได้แสดงออกได้ และเราจะผลักดันเรื่องนี้ให้ดีที่สุด” นายปดิพัทธ์ กล่าว
การสร้างอะไรสักอย่าง ควรฟังเสียงเห็นด้วยหรือคัดค้านของพี่น้องในพื้นที่ บางที่เค้าไม่ต้องการ เพราะคนพื้นที่ต้องทนอยู่กับสภาพเช่นนั้นไปจนตาย
07 ก.ค. 2563 เวลา 20.13 น.
เงาะน้อย ชื่อพรรคก้าวไกล เหมาะจริงๆเพราะความคิดยังห่างไกลเลยความเจริญสงสัยจิให้รักษาไว้คือความแย่ของพื้นที่มั้งม่ต้องทำงานทำการใช้ชีวิตแบบเดิม55ตลกแท้ท่าน สส.อันทีจริงท่านน่าจิมาจัดเวทีแบบนี้ในพื้นทีนะข
07 ก.ค. 2563 เวลา 18.53 น.
noom52 คนพรรคนี้แปลก พอเค้าจะพัฒนาก็บอกว่ากระทบวิถีชีวิตเดิม แต่คนที่ใช้วิถีชีวิตเดิมก็หาว่าทารุณสัตว์ ตกลงนโยบายของพรรคคือโหนอย่างเดียวใช่ไหม
07 ก.ค. 2563 เวลา 18.21 น.
Mr. Suwan แทนที่จะไม่ต้องให้ลูกหลานออกบ้าน ช่วยกันพัฒนา ภาคใต้ กับไม่ต้อง มา กรุงฯ
นิคมฯ ก็มี ภาคการส่ง ออกก็ได้
ถ้าจะย่ำอยู่กับที่ มันก็จะเป็นแบบนี้
พรรคตัดแข้งตัดขา มึง คิดได้ไง
คนใต้ ช่วยกันคิดนะ
07 ก.ค. 2563 เวลา 17.51 น.
คนไทยใฝ่สันติ เศษนักการเมือง...เสียดายเงินเดือน เอาไปซื้อาหารหมามีประโยชน์กว่าเยอะว่ะ
จริงไหม?
07 ก.ค. 2563 เวลา 17.47 น.
ดูทั้งหมด