กีฬา

"หงส์แดง" บุกเชือด "ซัลซ์บวร์ก" 2-0 จบแชมป์กลุ่ม ลิ่วน็อคเอาต์ชปล.

Manager Online
เผยแพร่ 10 ธ.ค. 2562 เวลา 20.53 น. • MGR Online

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2019/20 คืนวันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2562 เป็นการลงสนามฟาดแข้งนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม เกมที่น่าสนใจในกลุ่ม อี "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยกพลไปเยือน เอฟซี ซัลซ์บวร์ก ทีมจากออสเตรีย

ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เข้ารอบต่อไปเป็นที่แน่นอนแล้ว ขณะที่ เอฟซี ซัลซ์บวร์ก ยังมีลุ้นเข้ารอบ โดยมีข้อแม้ต้องเก็บชัยเหนือผู้มาเยือนให้ได้เท่านั้น และต้องลุ้นให้ นาโปลี แพ้ให้กับ เกงค์ จากเบลเยียม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เกมนี้ "หงส์แดง" ของกุนซือเยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพชุดใหญ่ลงสนามเต็มสูบ นำทัพโด โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต ฟิร์มิโน โดยมี นาบี เกอิตา, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมเกมแดนกลาง

ขณะที่ ซัลซ์บวร์ก ของกุนซือเจสซี มาร์สช์ นำทัพมาโดย ฮวาง ฮี-ชาน ศูนย์หน้าตัวเก่งทีมชาติเกาหลีใต้, เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิงฟอร์มฮ็อต, ทาคุมิ มินามิโนะ มิดฟิลด์ญี่ปุ่น และมีซลัตโค ยานูโซวิช คุมเกมแดนกลาง

เริ่มเกม ซัลซ์บวร์ก ดาหน้าบุกใส่ลิเวอร์พูลอย่างเต็มที่เพื่อหวังทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีพอ ขณะที่ผู้มาเยือนอาศัยทีเด็ดจากลูกสวนกลับมีลุ้นหลายครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ครึ่งหลัง น.57 ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ซาดิโอ มาเน่ กระชากบอลไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ นาบี เกอิตา ซัดโล่งๆเข้าไป

ถัดมาเพียงนาทีเดียว น.58 หงส์แดง หนีห่างอย่างรวดเร็ว 2-0 จากจังหวะสวนกลับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดยาวจากแดนตัวเองแนวรับซัลซ์บวร์ก สกัดผิดพลาดมาเข้าทาง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ โฉบบอลก่อนยิงมุมแคบเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ ซัลซ์บวร์ก 2-0 คว้าแชมป์กลุ่ม อี ไปครอง ด้วยการมี 13 คะแนน จากผลงาน ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ส่วนผลอีกหนึ่งคู่ นาโปลี ชนะ เกงค์ 4-0 ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ขณะที่ ซัลซ์บวร์ก จบอันดับ 3 ร่วงไปเล่นยูโรปาลีก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ซัลซ์บวร์ก : คิแคน สแตนโควิช (GK), ราสมุส คริสเตนเซ่น, เจโรม ออนกูเอเน่, แม็กซิมิเลียน โวเอเบอร์, อันเดรส อัลเมอร์, ซลัตโค ยานูโซวิช, เอน็อค เอ็มเวปู, ทาคุมิ มินามิโนะ, โดมินิค โซบอสซไล, ฮวาง ฮี-ชาน, เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์

ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (GK), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, เดยัน เลิฟเรน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, นาบี เกอิตา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, ซาดิโอ มาเน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต ฟิร์มิโน่

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • เป็นไงฮ่าราก(ฮาแลนด์) ปากดีนัก..จบเกมส์แล้วนิไม่ออกมาพูดต่อล่ะ..ไอ้ฮ่าราก
    10 ธ.ค. 2562 เวลา 21.31 น.
  • POP 🧷
    ซาร่าใช้จังหวะเปลื่องมาก
    10 ธ.ค. 2562 เวลา 23.18 น.
ดูทั้งหมด