สธ.ห่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก เพิ่มตรวจเข้มคนมาจาก "สิงคโปร์-ฮ่องกง-เวียดนาม-ญี่ปุ่น" ผวา 35 คนจากเรือเวสเตอร์ดามเข้าไทยเพิ่ม พบหญิงมะกันขึ้นเทียบท่าเขมรโผล่ป่วยที่มาเลเซียขณะเตรียมกลับประเทศ แฉปฏิเสธผู้โดยสารขึ้นเครื่องบิน ขณะที่จีนยอดตายพุ่ง 1,665 คน ติดเชื้อทะยาน 7 หมื่น
อ่านข่าว ยอดผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 รวม 68,500 ราย ดับ 1,665 ราย
อ่านข่าว สถาบันวัคซีนฯ ระดมสมองวิจัยยับยั้งไวรัสโควิด-19
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่าขณะนี้ประเทศไทยยังคงมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 34 ราย รักษาหายดีเพิ่ม 1 ราย เป็นคนไทย รวมเป็น 15 ราย ทำให้เหลือผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาล 19 ราย
โดยผู้ป่วยอาการรุนแรง 2 รายที่สถาบันบำราศนราดูร ทีมแพทย์ให้การรักษาเต็มที่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก รพ.ศิริราช รพ.จุฬาลงกรณ์ และสถาบันเวชบำบัดวิกฤติแห่งประเทศไทย มาช่วยดูแลผู้ป่วย 2 รายนี้ สำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ มีอาการดี รวมถึงรายล่าสุดคือบุคลากรทางการแพทย์จาก รพ.เอกชน ที่ติดเชื้อ ก็มีอาการน้อยตั้งแต่แรก ถือว่าอาการโดยรวมดี และย้ำว่าไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นบุคลาการทางการแพทย์เท่านั้น
"ประเทศไทยมีการทำงานอย่างหนักมา 45 วันแล้ว เพื่อชะลอการระบาดในประเทศไทย ประชาชนทั่วไปคงเห็นแล้วว่าเราทำงานประสบความสำเร็จสูงมาก ทั้งที่ประเทศไทยถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดเพราะเป็นจุดศูนย์กลางของคนจีนและภูมิภาคเอเชียด้วยกัน ซึ่งหลายประเทศมีการระบาดเพิ่มขึ้นชัดเจน แต่ประเทศไทยตรึงการระบาดในระดับต่ำอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน
สำหรับภาพรวมเราเริ่มเห็นการแพร่ระบาดในชุมชนของหลายประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม และญี่ปุ่น ทำให้ประเทศไทยกลับมามีความเสี่ยงจากผู้เดินทางต่างประเทศมากขึ้น หลังจากลดลงไปช่วงหนึ่งจากที่คนจีนเข้าประเทศน้อยลง จึงมีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด ขณะที่ไทยก็มีการแพร่ระบาดในวงจำกัด ตอนนี้จึงยังต้องเฝ้าระวังในประเทศร่วมกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศอย่างเข้มข้นต่อไป" นพ.ธนรักษ์ กล่าว
นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เริ่มมีกาารเฝ้าระวังผู้เดินทางจากสิงคโปร์และฮ่องกงมา 3-4 วันแล้ว ซึ่งมีการคัดกรองผู้เดินทางเข้ามาแต่ก็ยังไม่พบว่ามีรายใดเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค อย่างไรก็ตามนอกจากด่านอากาศสนามบินต่างๆ แล้ว ก็เข้มข้นผู้เดินทางด่านเรือ ตั้งแต่มีข่าวเรือไดมอนด์ปริ๊นเซส ซึ่งขณะนี้พบการติดเชื้อในกลุ่มผู้เดินทางไป 200 กว่าคนแล้ว
ดังนั้นเรือทุกลำที่เข้าสู่ท่าเรือของไทย ทางด่านควบคุมโรคได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าเรือที่จะเข้ามามีไปพื้นที่ระบาดในช่วง 14 วันก่อนเรือมาถึงไทยหรือไม่ และเมื่อมาถึงก็ตรวจคัดกรองเข้มข้น ทั้งขาเข้าและก่อนกลับขึ้นเรือไป เพราะหากมีอาการไข้จะได้สอบสวนควบคุมโรครวดเร็วทันการณ์ ซึ่งเราทำด้วยความระมัดระวังตามมาตรฐานและเต็มที่เพื่อให้ไทยยังคงอยู่ในสภาวะที่มีจำนวนผู้ป่วยระดับต่ำต่อไป
นพ.ธนรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตอกย้ำ 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1.โรงพยาบาลเป็นสถานที่ผู้ป่วยมารวมตัวกัน หากสถานการณ์คลี่ไปทางมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากขึ้นและมาโรงพยาบาลมากขึ้นก็ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยอื่นๆ ที่ไปโรงพยาบาลอาจมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย 2.การดำเนินการป้องกันทั้งตัวบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่อื่นๆ และผู้ป่วยอื่นๆ เพื่อไม่ให้แพร่ระบาดในส่วนนี้ต้องมีแผนการควบคุมโรคติดต่อในโรงพยาบาล
ซึ่ง สธ.ให้ความสำคัญสูงสุดตั้งแต่เริ่มมีข่าวแพร่ระบาดจากคนไปคน ได้ทำแนวทางปฏิบัติงาน และให้โรงพยาบาลรัฐและเอกชนมาฟังคำชี้แจงแนวทางปฏิบัติ ซึ่งจะมีการอัปเดตต่อเนื่องเสมอๆ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ต้องทำตามหลักมาตรฐานการป้องกันตัว เช่น ต้องล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ไว้ตลอดเวลาตรวจผู้ป่วยไข้ ไอเจ็บคอ อาการระบบทางเดินหายใจทุกราย ห้ามจับหน้ากากอนามัยขณะใช้งาน ตรวจเสร็จล้างมือ ถอดหน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง หลังทิ้งหน้ากากอนามัยต้องล้างมืออีกครั้ง หรืออาจพิจารณาใส่ถุงมือขณะทำงานตามความจำเป็น
ซึ่งมั่นใจว่าหากบุคลากรปฏิบัติตามแนวทางจะป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรได้ ซึ่งบุคลากรแต่ละระดับก็จะมีแนวทางป้องกันตัวแตกต่างกันไปตามความเสี่ยง อย่างกรณีบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยหนัก 2 รายก็ต้องแต่งชุดป้องกันเต็มที่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องเร่งรัดให้โรงพยาบาลคลินิกโรคทางเดินหายใจ ซึ่งวันที่ 17 กุมภาพันธ์ จะมีการประชุมชี้แจงย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง
นพ.ธนรักษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สามารถอยู่ในสภาวะแวดล้อมได้ยาวนาน ควรแตกตื่นหรือกังวลไหม คำตอบคือไม่ เพราะไม่ว่าเชื้อจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมนานขนาดไหนก็ปฏิบัติตัวเหมือนเดิมเพราะเชื้อที่อยู่ตามพื้นผิวต่างๆ แล้วมือไปจับสัมผัส เชื้อไม่สามารถเข้าได้ทางมือ แต่จะเข้าได้ผ่านการจับใบหน้า ขยี้ตาจมูกปาก วิธีการคือล้างมือบ่อยๆ เวลาไปสัมผัสกับสิ่งอื่น รวมถึงทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ มากขึ้น
เมื่อถามถึงผู้โดยสารและลูกเรือเรือเวสเตอร์ดามมีเข้ามาในประเทศไทยอีกหรือไม่ นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กล่าวว่า เรือเวสเตอร์ดามปล่อยผู้โดยสารลงจากเรือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้โดยสารที่มาในประเทศไทยยังมาแค่ทางด่านสนามบิน ด่านบกและเรือยังไม่มี ซึ่งวันที่ 14 กุมภาพันธ์ มีเข้ามา 9 คน เป็นคนต่างประเทศ 8 คน ต่อเครื่องบินกลับทางยุโรป อเมริกาไปแล้ว และคนไทย 1 คนก็พบว่าไม่มีไข้ แต่จะติดตามจนครบ 14 วัน
ส่วนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ มีเข้ามาทั้งหมด 35 ราย เป็นคนต่างชาติ 34 ราย ส่วนใหญ่ไปที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งไม่ได้ลงจากเครื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นสัญชาติอเมริกัน อังกฤษ และเยอรมัน ส่วนอีกรายเป็นคนไทยมีการตรวจหาเชื้อให้ผลเป็นลบ อย่างไรก็ตามจะต้องติดตามจนครบ 14 วันเช่นกัน ทั้งนี้ได้ประสานข้อมูลผู้โดยสารเรือสำราญลำนี้ทั้งลำส่งให้แก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อร่วมมือในการเฝ้าระวัง
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยทั่วโลกเข้าใกล้ 70,000 คนแล้ว ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเข้าใกล้หลัก 2,000 คนแล้วเช่นกัน โดยจีนมีจำนวนผู้ป่วย 68,000 คน ขณะที่ทั่วโลกเริ่มพบว่ามีการแพร่ระบาดในชุมชนแล้ว เช่น ประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น
โดยสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะมีผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากที่ลดไปช่วงหนึ่งเพราะคนจีนเดินทางเข้าประเทศไทยน้อยลง อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลถือเป็นสถานที่ผู้ป่วยมารวมตัวกัน บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงใครก็ตามที่ไปโรงพยาบาลอาจจะมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย ทางโรงพยาบาลจึงต้องมีระบบป้องกันและรับมืออย่างดี
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวเดอะจาการ์ตาโพสต์ ได้รายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยืนยันแล้วเพิ่มขึ้น 1 ราย เป็นหญิงชาวอเมริกัน วัย 83 ปี ที่เพิ่งขึ้นจากเรือสำราญเวสเตอร์ดาม เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา และเดินทางต่อมายังมาเลเซียเพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศ นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่าผู้โดยสารจำนวนหนึ่งถูกปฏิเสธขึ้นเครื่องบินออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย หลังพบว่ามาจากเรือเวสเตอร์ดามที่เทียบท่าในประเทศกัมพูชาอีกด้วย
ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) เปิดเผยว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลเพิ่มขึ้น 2,009 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 142 ราย ในวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดกระจายตัวอยู่ในภูมิภาคระดับมณฑล 31 แห่ง ซึ่งผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตจำนวน 142 รายนั้น อยู่ในมณฑลหูเป่ย 139 ราย มณฑลซื่อชวน 2 ราย และมณฑลหูหนาน 1 ราย
คณะกรรมการระบุว่า มีรายงานผู้ป่วยต้องสงสัยเพิ่มขึ้น 1,918 ราย ผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักเพิ่มขึ้น 219 ราย และผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเพิ่มขึ้น 1,323 ราย
ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวที่ได้รับการยืนยันผลบนจีนแผ่นดินใหญ่รวมอยู่ที่ 68,500 รายเมื่อนับถึงสถิติล่าสุด ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 1,665 ราย จำนวนผู้ที่ยังติดเชื้อในปัจจุบันอยู่ที่ 57,416 ราย โดยเป็นผู้ที่มีอาการรุนแรง 11,272 ราย ขณะที่ผู้ป่วยต้องสงสัยในปัจจุบันอยู่ที่ 8,228 ราย
และยอดสะสมของผู้ติดเชื้อที่รักษาจนหายและออกจากโรงพยาบาลแล้วรวมอยู่ที่ 9,419 ราย ขณะที่จำนวนบุคคลที่มีประวัติติดต่อใกล้ชิดผู้ติดเชื้อและถูกเฝ้าติดตามความเสี่ยงสะสมอยู่ที่ 529,418 ราย และมีผู้มีประวัติติดต่อ 158,764 ราย ที่ยังอยู่ระหว่างสังเกตอาการ
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าจากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับเรือ เวสเตอร์ดาม ทยอยเดินทางเข้าไทยโดยผ่านมาทางสนามบินนั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารทุกเที่ยวบินที่บินมาจากประเทศกัมพูชา โดยให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และทุกสายการบินในไทยตรวจคัดกรองผู้โดยสารด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนที่จะเดินทางขึ้นเครื่องบิน เพื่อโดยสารเที่ยวบินขาออกจากประเทศไทย
และตรวจคัดกรองผู้โดยสารด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนที่ผู้โดยสารจะเดินทางขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางขาเข้ามายังประเทศไทย พร้อมกำชับให้สนามบินของบริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. สนามบินเอกชน และสนามบินภายใต้สังกัดกรมท่าอากาศยานจัดระบบเป็นการเฉพาะกรณีที่มีผู้โดยสารจากเรือดังกล่าวเดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่เมืองไทย รวมถึงการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนจะเดินทางขึ้นเครื่องบิน เพื่อโดยสารเที่ยวบินขาออกจากประเทศไทยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้นำคลิปเพลงสุดซึ้งชื่อ "จากหัวใจ" ที่มีการเผยแพร่ทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ "Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย" โดยมีการโพสต์เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้ได้รับเสียงตอบรับ ความรักและผูกพันของทั้งสองชาติไทย-จีน รวมถึงเป็นกำลังใจให้ต่อสู้เอาชนะโรคระบาดนี้ไปให้ได้
สำหรับเพลงดังกล่าวแต่งโดย บอย โกสิยพงษ์ โดยมีนักร้องคือ บี้ ธรรศภาคย์ เป็นผู้ขับร้องบทเพลง ส่งมอบกำลังใจให้ประเทศจีนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 พร้อมติดแฮชแท็กว่า ร่วมรับฟังเพลงที่ซาบซึ้งใจกันนะคะ
Samsam ให้มันเข้ามาทำไมเชื้อโรคทั้งนั้น
17 ก.พ. 2563 เวลา 03.59 น.
kanya ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านคะ
17 ก.พ. 2563 เวลา 02.17 น.
พีระ เขามาไม่ต้องทำอะไร พาไปกักกันโรค 24 วัน แล้วค่อยปล่อยตัว
17 ก.พ. 2563 เวลา 01.35 น.
Ti โฟน ไงล่ะ สมเด็จวุ้นเส้น จากฮีโร่เป็นหน้าโง่เลย
ควรปิดด่านไทยกัมพูชาไปก่อนเพื่อความปลอดภัย
17 ก.พ. 2563 เวลา 01.18 น.
Paitoon รัฐบาลไม่รับแต่แรกแต่เขมรโชว์รับแต่ให้ขึ้นเครื่องไปประเทศอื่นๆส่วนไทยก็ไม่ได้รับประสานว่าใครมาทางไหน พวกด่าปัญญาอ่อนก็ด่าตลอด กรรม
17 ก.พ. 2563 เวลา 01.16 น.
ดูทั้งหมด