วันที่ 22 ก.พ. 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วานนี้(21 ก.พ. 2563) คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ จะร่วมกันพัฒนายาต้านไวรัสและสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี เพื่อการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
เว็บไซต์มหาวิทยาลัยฯ ระบุว่าคณะนักวิจัยจะพัฒนายาหรือแอนติบอดีที่ยับยั้งการจำลองตัวเองของไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน 4 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีจะอ้างอิงข้อมูลความรู้จากความสำเร็จในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) และไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C)
เดวิด ดี. โฮ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์แอรอน ไดมอนด์ (ADARC) และศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งเป็นผู้นำความร่วมมือครั้งนี้ เผยว่าทั้ง 4 วิธีจะนำไปสู่การพัฒนายาหรือแอนติบอดีที่มีประสิทธิภาพต้านไวรัสโคโรนาที่พบในปัจจุบันและอนาคต
“เรากำลังเร่งทำงานอย่างหนักตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับคิดล่วงหน้าถึงสิ่งที่เราอาจเผชิญในอนาคตด้วย”
เดวิด ดี. โฮ เสริมว่าทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ คาดหวังจะนำตัวยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส (protease inhibitor), ตัวยับยั้งพอลิเมอเอส (polymerase inhibitor) และโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) อย่างละหนึ่งเข้าสู่การทดลองทางคลินิกภายในเวลาหนึ่งปี
ทั้งนี้ คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม และดำเนินการพัฒนายาและแอนติบอดี โดยอาศัยเงินทุน มูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 66.25 ล้านบาท) จากมูลนิธิแจ็คหม่า (Jack Ma Foundation) ในจีน
“เราขอขอบคุณมูลนิธิแจ็คหม่าอย่างสุดซึ้ง ที่ร่วมเป็นหุ้นส่วนและสนับสนุนการทำงานของนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยฯ ซึ่งพยายามยับยั้งโรคระบาดที่กลายเป็นภัยคุกคามทั่วโลกอย่างรวดเร็ว” เดวิด ดี. โฮ กล่าวทิ้งท้าย
แมวเอกเทศ ดีใจที่มีคนมีกำลังทรัพย์เห็นความสำคัญ และช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอยู่ทั่วโลก
โลกน่าอยู่เพราะรู้จักการแบ่งปันครับ
22 ก.พ. 2563 เวลา 11.26 น.
moorty9999 แจ๊คหม่า บริจาคให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจีนไปหลายร้อยล้านละ น่าชื่นชมจริงๆ
22 ก.พ. 2563 เวลา 11.36 น.
May รัตน์ นักธุระกิจส่วนไหญ่ใจดี เขารู้จักพัฒนาตัวเองจนประสบความสำเร็จด้วยตัวเขาเอง เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ ไม่เหมือนบางคน เป็นนักมนุษย์เงินเดือนไม่ชอบความเสี่ยง ต้องทำงานในองค์กร เงินเยอาะๆก็อยากได้ มีวิธีเดียว คือการโกง คอรัป รับผลประโยชน์ด้วยรับเงินใต้โต๊ะ และค่าคอม แล้วคนไหน น่านับถือและไว้ใจมากกว่ากัน เลือกผิด ชีวิตเปลี่ยน
22 ก.พ. 2563 เวลา 12.18 น.
Lavanaporn คนในสหรัฐถามทรัมเป็ตหรือยังละ ว่าจะศื้อยาไวรัสนี้จากจีนเท่าไร ผลกำไรได้ใคร กี่เปอร์เซ็นต์ ออ ฝากบอกทรัมเป็ตด้วยว่าอย่า ส .ใส่ มากนักในประเทศแถบเอเชียนะ ไม่ใช่สักแต่ คิดเอาเอง มันน่าสมเพชมากกว่าน่าเอ็นดู
22 ก.พ. 2563 เวลา 12.09 น.
id..trakarnp สาระ...........
22 ก.พ. 2563 เวลา 13.37 น.
ดูทั้งหมด