ใครๆก็บอกว่า เธอแรง เธอแรด “ลำยอง หนองหินห่าว”

ใครๆก็บอกว่าเธอแรงเธอแรด “ลำยองหนองหินห่าว”

สำหรับนักร้องสายลูกทุ่งหมอลำ นาทีนี้คงไม่มีใครแรงเกินกว่า “ลำยอง หนองหินห่าว” เจ้าของฉายา “หมอลำซิ่งโคโยตี้” ที่เพิ่งตอกย้ำความแรงของเธอด้วยเพลงล่าสุด “ผัวข่อยเด้อ” ออกมาเมื่อกลางเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา อีกหนึ่งเพลงที่ว่าด้วยเรื่องผัวๆ หลังจากที่เธอเคยทำให้เพลง “เอาผัวไปเทิร์น” ดังทั่วเมืองมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

ด้วยภาพลักษณ์บนเวทีที่แรงไปทุกจุด ทั้งเพลงแรง ร้องแรง เต้นแรง คอสตูมแรง และแซวแรง ทำให้บางคนมองว่า ชีวิตส่วนตัวของเธอก็คงจะแรงไม่แพ้ผลงาน ยิ่งบวกกับข่าวก่อนหน้านี้ที่มีนักธุรกิจชาวจีนทุ่มซื้อบ้านราคา 10 ล้านให้อีก ก็ยิ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าเรื่องจริงและตัวตนของเธอเป็นแบบไหน 

ซึ่งเรื่องนี้ คนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลำยอง ที่พร้อมตอบทุกคำถามอย่างเปิดใจและจริงใจ

 “โลโก้อย่างหนึ่งของลำยองคือความแรงเวลาโชว์บนเวที ท่าเต้นเราก็แรง แล้วก็จะมีคำพูดแรงๆ ชุดเราก็เน้นเซ็กซี่ แต่เราก็มีลิมิตนะ ถ้าเราโป๊ข้างล่าง ข้างบนต้องปิด ถ้าเราโชว์ข้างบน ข้างล่างต้องปิด ไม่อย่างนั้นจะตลาดเกินไป ไม่น่าสนใจ คนดูไม่มีอะไรให้ลุ้น”

“แต่ถามว่าคนมองว่าแรดหรือเปล่า ก็คิดว่าไม่ค่อยมีนะ เพราะว่าทุกวันนี้เราก็มีสื่อในมือตัวเองคือเฟซบุ๊ก คนก็จะเห็นเราในนั้นที่นอกเหนือไปจากรายการและบนเวที คนที่ติดตามก็จะรู้ว่าตัวจริงของลำยองเป็นยังไง เพราะถ้าเป็นวันปกติเวลาอยู่บ้านจะแต่งตัวเชยมาก บางทีก็ใส่เสื้อคอกระเช้ากับกางเกงเอวยางยืดที่แม่เอาผ้าถุงมาตัดให้ หรือเวลาไปธุระก็แต่งตัวเรียบร้อย มิดชิด แล้วก็มีภาพเราไปรับรางวัลลูกกตัญญู รางวัลศิลปินปลอดยาเสพติด ไปทำบุญ มีการรวมแฟนคลับไปทำกิจกรรมช่วยสังคมกัน ก็เลยคิดว่าคนคงไม่ได้มองว่าเราแรด หรือว่ามองแต่เราก็ไม่รู้เหมือนกัน "(หัวเราะ)

“ตอนที่มีข่าวเรื่องนักธุรกิจจีนซื้อบ้าน 10 ล้านให้ ลำยองไม่กลัวคนมองไม่ดี เพราะคิดว่าในสังคมเรา ทำอะไรเขาก็นินทาอยู่แล้ว เอาความอยู่รอดเราดีกว่า ถึงเราไม่ไปเอาเงินใคร แต่เราแต่งตัวเซ็กซี่ก็อาจจะโดนด่าในโลกโซเชียลได้อยู่ดี” 

“ตอนนั้นก็มีกระแสว่าเป็นเมียน้อยหรือเปล่า ไปขายตัวหรือเปล่า แต่เราก็แล้วแต่คนจะมอง เพราะที่เขามาซื้อบ้านให้ก็เพราะว่าเขาชอบเรา คุยกัน จะคบกันเป็นแฟนนี่ล่ะ แต่ยังไม่ทันได้คบกัน ยังไม่ทันได้ฟีเจอริ่งกันเลย เจอหน้ากันแค่ 3 ครั้งเอง ครั้งสุดท้ายคือตอนที่เขาบินมาทำบุญบ้าน แล้วหลังจากนั้นก็หายไปเลย”

“เขาซื้อบ้านให้เพราะว่าตอนเจอกันครั้งที่ 2 เขาเห็นว่าเรายังอยู่ทาวน์เฮาส์ ก็เลยอยากให้เราอยู่สบาย ทั้งที่จริงๆ เราจะซื้อเองก็ได้ แต่เราเป็นคนประหยัดและมองว่าเอาเงินไปซื้อที่ดิน ที่นาที่ต่างจังหวัดให้แม่ดีกว่า แล้วเราก็ไม่ได้อยากได้อะไรจากเขา ปฏิเสธทุกอย่าง แต่เขายืนยันว่าจะต้องซื้อให้ให้ได้ เขาบอกว่าห้าม no มีแต่ yes หรือ ok”

“ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่เดือนมีนาฯ ปีที่แล้ว แต่เวลาไปทำบุญทุกครั้งเราก็ยังนึกถึงเขา ขอให้เขามีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะเขาก็มีพระคุณกับเราและครอบครัวเรา”

ไม่จำเป็นต้องประกาศทุกเรื่อง

“ตอนทำนมมาคนยังไม่ค่อยรู้เลยว่าไปทำมา นี่ยังไม่เคยพูดเรื่องนี้ที่ไหนมาก่อน เพิ่งพูดที่นี่ที่แรก แต่ว่าเราไม่ได้คิดจะปิด เพราะว่าเราไม่จำเป็นต้องประกาศทุกเรื่องที่เราทำ ถ้าถามมาก็ตอบได้ ไม่ได้ปิด แต่ไม่ได้ประกาศเท่านั้นเอง”

“อีกอย่างหนึ่งที่คนไม่ค่อยรู้ก็เพราะว่าเมื่อก่อนเราพอมีอยู่บ้างก็จริง แต่เรายัดหลายชั้น เราดันขึ้นมา พอแต่งตัวออกมาเมื่อก่อนกับตอนนี้ก็ไม่เลยต่างกันมาก แค่เรายัดกับไม่ยัด คนก็เลยอาจจะไม่ค่อยสนใจประเด็นเรื่องนี้เท่าไหร่เพราะว่าไม่ได้สังเกตว่ามันเปลี่ยน”

“ถามว่าเวลามีคนมองว่าเราแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้แล้วลดคุณค่าความเป็นผู้หญิง เรารู้สึกยังไง…เราก็ปล่อยเขา ช่างเขา เพราะเราก็เคยคิดนะ แต่สุดท้ายก็คิดว่ามันก็เป็นงาน เป็นเงินน่ะ ถ้าเราไปนั่งแคร์ทุกคนก็ไม่ได้ แล้วลำยองเคยแต่งตัวเรียบร้อยไปงานนะ แต่กลายเป็นว่าเจ้าภาพไม่โอเคที่เราแต่งแบบนั้น”

“อย่างพ่อแม่เราเองตอนแรกๆ เขายังเคยรับไม่ได้เลย ตอนที่ลำยองลาออกจากเป็นครูเพื่อมาเป็นนักร้องเต็มตัว เขาก็ยังบอกว่า มึงลาออกจากการเป็นครูที่คนเขายกมือไหว้ ไปไหนก็เรียกอาจารย์ ต่อจากนี้เขาจะไม่เรียกอาจารย์แล้ว เขาจะเรียกอี มึงไม่อายคนบ้างเหรอ”

“ขนาดพ่อกับแม่ยังเคยพูดอย่างนี้ คนในครอบครัวยังเคยพูดแบบนี้ เพราะฉะนั้นแค่คนนอกไม่ได้ขี้ปะติ๋วหรอก เราเองก็ท่องไว้ตลอดว่า งานๆๆ แล้วเราก็รู้อยู่แล้วว่าจริงๆ ตัวเราเป็นคนแบบไหน”

สถานที่ iwane 1975