ทั่วไป

“ฉันทำได้!” ราฮาฟเดินทางออกจากไทย ลี้ภัยไปแคนาดาแล้ว

THE STANDARD
อัพเดต 12 ม.ค. 2562 เวลา 05.10 น. • เผยแพร่ 12 ม.ค. 2562 เวลา 04.57 น. • thestandard.co
“ฉันทำได้!” ราฮาฟเดินทางออกจากไทย ลี้ภัยไปแคนาดาแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตรงกันว่าคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ม.ค.) ราฮาฟ โมฮาเหม็ด อัล-เคนูน หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี ได้รับการอนุมัติให้เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เพื่อไปพำนักที่ประเทศแคนาดาในสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าเธอมีทางเลือกจะเดินทางไปยังออสเตรเลียที่อนุมัติให้เธอลี้ภัยเช่นเดียวกัน

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เปิดเผยระหว่างแถลงข่าว ยืนยันว่าทางการแคนาดายินดีให้ราฮาฟได้พำนักที่แคนาดาในสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว “แคนาดามีความชัดเจนว่าเราจะยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรีทั่วโลก เมื่อสหประชาชาติประสานงานมา เราจึงตอบรับราฮาฟเป็นผู้ลี้ภัย”

 

ราฮาฟโพสต์รูปพาสปอร์ตตัวเองบนเครื่องบินและข้อความผ่านทวิตเตอร์ Rahaf Mohammed رهف محمد ว่า “#ประเทศที่สาม #ฉันทำได้” โดยก่อนหน้านี้ก็ได้โพสต์ข้อความขอบคุณคนทั่วโลกที่มาให้กำลังใจ โดยเธอสัญญาว่าจะเป็นคนที่ดีขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

 

พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่าราฮาฟเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินโคเรียนแอร์ จากกรุงเทพฯ สู่โทรอนโต ประเทศแคนาดา โดยแวะต่อเครื่องที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ระบุว่าการตัดสินใจไปประเทศแคนาดาในครั้งนี้เป็นความต้องการของราฮาฟ และเธอยังคงปฏิเสธการขอเข้าพบของพ่อและพี่ชาย โดยทั้งพ่อและพี่ชายของราฮาฟเดินทางกลับคูเวตแล้ว

 

สำหรับกรณีของราฮาฟ โมฮาเหม็ด อัล-เคนูน สตรีชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี กลายเป็นที่สนใจของทั่วโลกในชั่วข้ามคืน หลังจากที่เธอถูกกักตัวในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเจ้าหน้าที่สถานทูตซาอุดีอาระเบียได้ยึดพาสปอร์ต ทำให้เธอไม่สามารถเดินทางต่อไปยังออสเตรเลียเพื่อขอลี้ภัยได้ เธอแสดงความหวาดกลัวผ่านทวิตเตอร์ว่าเธออาจถูกครอบครัวฆ่าหรือถูกดำเนินคดีเพราะการหนีแต่งงานและละทิ้งศาสนาอิสลาม ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงในซาอุดีอาระเบีย

 

กรณีของราฮาฟอาจไม่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหากเธอไม่สามารถใช้งานทวิตเตอร์ได้ เพราะหลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ทางการไทยจึงถูกจับตาจากนานาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ส่งผลให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติได้เข้ามาคุ้มครองเธอในฐานะผู้ลี้ภัย และรัฐบาลไทยจำเป็นต้องเลิกล้มแผนส่งตัวเธอกลับไปหาครอบครัวที่คูเวต

 

ปัจจุบันทวิตเตอร์ของราฮาฟมีผู้ติดตามถึง 138,000 คน ทั้งๆ ที่เธอเพิ่งเริ่มทวีตครั้งแรกในวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่เธอถูกกักตัวอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยในรายละเอียดบุคคลของเธอเขียนไว้ว่า “Don’t let anyone break your wings, you’re free. fight and get your RIGHTS!”  

 

“อย่าให้ใครมาหักปีกของคุณ คุณมีอิสระ จงต่อสู้เพื่อสิทธิของคุณเอง!”

 

ภาพ: twitter.com/rahaf84427714

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 52
  • เกิดเป็นหญิงประเทศแถบนี้น่าเห็นใจ.. ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร
    13 ม.ค. 2562 เวลา 00.49 น.
  • เมี้ยง
    ซาอุแน่จริงเอาเรื่องแคนนาดาสิ ทิ้งศาสนานี่เรื่องใหญ่โตกว่าเพชรขี้แมวเม็ดเดียวนะ
    13 ม.ค. 2562 เวลา 00.06 น.
  • €¥£
    ฉันตอแหลน่ะสิ มาแบบตั๋วเที่ยวเดียวลงไทย ไม่มีเงิน ไม่มีสารพัดเอกสาร ไทยต้องส่งกลับต้นทางตามกฏ ทวิตต์แหกตาคนทั้งโลก ให้แห่กันมาด่าไทยว่านางแค่ทรานสิท(รอเปลี่ยนเครื่อง) แต่โดนจับ โดนรังแก ทรานสิทแบบไหนวะตีตั๋วมาแค่ไทย เที่ยวเดียวด้วย วีซ่าท่องเที่ยวไม่ผ่านตามกฏต้องมีตั๋วกลับอีก บอกว่าอุปทูตยึดพาสปอร์ตนางเพื่อส่งกลับ ทั้งที่ไม่ได้ทำ นางไม่สนหวีสนแปด ใส่ร้ายใครยังไงก็ช่าง ทำทุกอย่าง ขอให้ฉันรอด คนเห็นแก่ตัวแบบนี้สงสารไม่ลงจริงๆ ไทยควรออกมาตรการเข้มงวดเพิ่มขึ้นอีก ก่อนสัมพันธ์กับซาอุจะแย่กว่านี้
    12 ม.ค. 2562 เวลา 19.21 น.
  • nawinkoh
    รับไปเยอะๆนะ ขอให้ในนั้นมีพวก is ติดไปด้วย
    12 ม.ค. 2562 เวลา 17.53 น.
  • me
    My friend from Saudi,so suffer to be a woman there,she cried when she told me about woman’s rights.
    12 ม.ค. 2562 เวลา 17.02 น.
ดูทั้งหมด