ทั่วไป

เผยอาการเด็กชาย 2 ขวบ หนึ่งในเหยื่อแม่ปุ๊กวางยา ล่าสุดทานข้าวได้ปกติแล้ว

ไทยรัฐออนไลน์ - Social
อัพเดต 25 พ.ค. 2563 เวลา 08.39 น. • เผยแพร่ 25 พ.ค. 2563 เวลา 00.26 น.
ภาพไฮไลต์

อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ เผยอาการล่าสุดของเด็กชายวัย 2 ขวบ หนึ่งในเหยื่อแม่ปุ๊กวางยา ล่าสุดทานข้าวได้ปกติแล้ว แข็งแรงขึ้น เร่งดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมาย

จากกรณีน้องเอ วัย 2 ขวบ (นามสมมติ) ถูก นางสาวนิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นแม่ของเด็ก โพสต์รูปและวิดีโอลูกป่วย เพื่อขอรับบริจาคค่ารักษา กระทั่งเข้ารับการรักษา พบว่าตัวเด็กถูกวางยา ด้วยการแอบหยอดสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ก่อนถูกตำรวจจับกุมและดำเนินคดีในหลายคดี อีกทั้งยังตั้งข้อสงสัยถึง น้องอ้อย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นพี่สาวน้องเอ ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ก็มีอาการเดียวกันก่อนเสียชีวิตนั้น ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่เอ วัย 2 ขวบ ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์จนอาการดีขึ้น และได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้เด็กอยู่ในความดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพของ ดย. ซึ่งอยู่ในที่ที่ปลอดภัย 

ทั้งนี้ เป็นตามคำสั่งศาลที่สั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามที่ทีมสหวิชาชีพยื่นขอ เนื่องจากเห็นว่าเด็กอาจได้รับอันตรายหากอยู่ในความดูแลของมารดา ขณะนี้เด็กมีสุขภาพดี กินได้ปกติ ด้านสุขภาพไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตาม ดย.จะมีการประชุมร่วมกับทีมสหวิชาชีพในเร็วๆ นี้เพื่อร่วมกันประเมินอาการด้านร่างกาย รวมถึงสภาพจิตใจของเด็กอีกครั้ง รวมถึงการดูแลเลี้ยงดูเด็กหลังจากนี้ ซึ่งผลการตรวจดีเอ็นเอที่อยู่ระหว่างพิสูจน์ว่าเด็กเป็นลูกของผู้ต้องหาจริงหรือไม่ ก็เป็นอีกองค์ประกอบที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย

หากผลตรวจดีเอ็นเอ ระบุว่าเป็นลูกจริง ก็ต้องดูว่าเด็กจะอยู่ในความเลี้ยงดูของใคร ในขณะที่แม่กำลังถูกดำเนินคดี ก็ต้องประเมินว่าตายายมีความพร้อม และมีความผูกพันที่จะเลี้ยงดูเด็กหรือไม่ และหากไม่ใช่เป็นลูกจริง ก็ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ก่อนบริจาคเงินให้ใครต้องเช็กให้ละเอียด 

นางสุภัชชา กล่าวอีกว่า กรณีที่เกิดขึ้นทำให้เห็นถึงปัญหาของการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือบุคคลต่างๆ ซึ่งบางเหตุการณ์อาจจะเป็นช่องโหว่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบของบุคคลที่ไม่หวังดี ซึ่งคงต้องพิจารณาให้รอบคอบ ที่ผ่านมา ดย.จะติดตามประเด็นที่เด็กถูกละเมิด ถูกกระทำความรุนแรง ซึ่งจะเร่งประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือ

แต่เรื่องการบริจาคเงินที่ผิดปกติ ทำให้เป็นอีกประเด็นให้ฉุกคิดว่า คงต้องมีการติดตาม ตรวจสอบการบริจาคผ่านช่องทางต่างๆ ที่ดูผิดสังเกตเช่นกัน ซึ่งในส่วนของ ดย.ก็คงดูในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและเยาวชน ส่วนกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ ก็เป็นภาพรวมของ พม. ที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็คงต้องมีการติดตามเช่นกัน

นอกจากนี้ การยกบุตรให้ผู้อื่นดูแลเป็นอีกประเด็นที่อยากย้ำเตือนว่า ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายในการยกบุตรเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งสามารถติดต่อที่ ดย. เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีนำเด็กไปแสวงหาผลประโยชน์ หรือเกิดการซื้อขายเด็ก ซึ่งผิดกฎหมาย

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • passapong
    ลุงขอให้หนูหายเร็วๆดีวันดีคืนนะลูก...
    25 พ.ค. 2563 เวลา 02.17 น.
ดูทั้งหมด