อุทาหรณ์สอนครอบครัว อย่ามัวแต่เอะอะก็ให้เงินๆ จงตั้งใจสั่งสอนและควบคุมเด็กในปกครองให้อยู่ในลู่ทางและศีลธรรมอันดี เมื่อเด็กสาวซิ่งรถออกจากบ้านไปโดยไม่มีใบขับขี่ ด้วยความประมาทและขาดสติจึงทำให้เหยื่อหลายคนต้องสังเวยชีวิตแก่มัจจุราช น่าอนาจใจ… เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บนทางยกระดับโทลล์เวย์ขาเข้า ช่วงด้านหน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนถึงวันนี้เวลาผ่านมา 9 ปีแล้ว …
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ในโลกโซเชียลก็ได้แห่แชร์หมายศาลคดีหมายเลขดำและคดีหมายเลขแดงในคดีดังกล่าวที่เผยแพร่โดยทวิตเตอร์บัญชี tintin ผู้ที่ระบุว่าอยู่ในรถตู้คันดังกล่าว แต่โชคดีไม่เสียชีวิต
โดยเอกสารหมายศาลที่เผยแพร่ดังกล่าว ระบุว่าแพรวาได้เปลี่ยนชื่อ ใช้ อรชรหรือแพรวา หรือบัวบูชา เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์
นอกจากนี้ในโลกโซเชียลยังได้แห่แชร์เฟซบุ๊กของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รายหนึ่ง ซึ่งได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า บัวบูชา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้แต่งงานแล้ว ทั้งนี้ ผู้ที่บัวบูชาแต่งงานด้วย เป็นอดีตอดีตคณะอนุกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
หลังจากที่ครอบครัว "แพรวา" ต่อสู้ให้อยู่นาน เรื่องจากศาลชั้นต้นไปถึงศาลอุทธรณ์ ก็เป็นไปตามสเต็ปคนบ้านรวยจนไปจบด้วยการรอลงอาญาจาก 3 ปี เป็น 4 ปี และคุมประพฤติอีก 48 ชั่วโมง ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถก็ยกฟ้องออกไป แต่ก็ยังมีการยื่นอุทธรณ์อีกเรื่อยๆ จนผู้เสียหายยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริง
ล่าสุด ก็มีกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย ได้ปลุกแฮชแท็ก #แพรวา9ศพ กลับมาติดเทรนด์อันดับต้นๆ ของประเทศอีกครั้ง ท่ามกลางคำถามของสังคมถึงความคืบหน้าในกรณีนี้ โดยเหตุการณ์มาเกือบจะครบ 9 ปีเต็มแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจะยังไม่ได้รับความยุติธรรมการประเด็นนี้
โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ tintin ได้แสดงความคิดเห็นในกรณีนี้ว่า เขาคือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนรถตู้คันที่เกิดเหตุ ล่าสุดได้ขยายความและเล่าเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาเกือบ 9 ปี นับตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เรื่องราวของเขากำลังได้รับความสนใจอยู่ในเวลานี้ โดยระบุว่า…
"เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 เป็นช่วงสอบมิดเทอมชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องอยู่อ่านหนังสือจนดึก เพื่อสอบวิชาสุดท้าย วันนั้นกลับบ้านด้วยรถตู้โดยสาร และหลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับมาสอบอีกเลย มีผู้เสียชีวิต 9 คน และรอดชีวิต 4 คน"
"เราหลับตื่นมาอีกทีด้วยเสียงกรีดร้อง พบว่าตัวเองอยู่บนโทลล์เวย์แล้ว พอถึงโรงพยาบาล พบว่ากระดูกไหปลาร้าเราหัก 3 กระดูกเข่าซ้ายแตก แขนขวาหักพร้อมแผลใหญ่ กระจกรถปักทั่วร่างจนเลือดอาบหน้า เราโดนชน 3 ทุ่ม แต่ได้เข้าห้องผ่าตัดตอน 7 โมงเช้า ตอนนั้นมีคนที่หนักกว่าเราเยอะ"
"หลังจากผ่าตัดขยับร่างไม่ได้เลย เพราะโดนพันท่อนล่างทั้งหมด เป็นเวลากว่า 2 เดือนที่ต้องนอนนิ่งๆ บนเตียง ร้องไห้บ่อยมาก หงุดหงิดตัวเองที่ต้องมาเป็นแบบนี้ และแน่นอนว่าไม่ได้ไปเรียน ครั้งแรกที่ได้เจอแพรวา มาพร้อมกับคุณแม่และช่างภาพ ยังนอนติดเตียงอยู่เลย น้องนั่งรถเข็นมาในห้อง คนที่พูดทั้งหมดคือแม่ของน้อง พอพูดจบจึงบอกว่า"ขอโทษพี่เขาสิลูก" น้องก็พูดว่า "ขอโทษค่ะ" นั่นคือครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน พร้อมกับขนมเปี๊ยะบ้านอัยการและถ่ายรูป"
"ตอนนั้นไม่รู้สึกถือโกรธแล้วเพราะมันคืออุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ เราก็รู้สึกดีนะที่มาขอโทษ ที่เขาไม่พูดเพราะเขายังเด็กอาจจะกลัวด้วย พอน้องออกไป พี่พยาบาลก็มาเล่าว่าน้องเขาเดินมาปกตินะ แต่มาขอรถเข็นหน้าวอร์ด เราเลยอึ้งไปพักนึง"
"หลังจากนั้นก็ต้องกายภาพ หัดเดินให้กลับมาเป็นปกติอีก 1 ปี ระหว่างนั้นก็กลับไปเรียนต่อด้วย ร่างกายกลับมาปกติทุกอย่างในอีก 3 ปีให้หลัง แต่ก็ต้องไปๆ มาๆ หาหมออยู่เรื่อยๆ ค่ารักษาพยาบาลประกันรถเป็นฝ่ายจ่ายให้ แต่หลังจากออกโรงพยาบาลแล้วก็ต้องจ่ายเอง ซึ่งเป็นจำนวนตามที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายไป"
"คดีความแบ่งเป็น 2 คดีคือ อาญาและแพ่ง อาญา มาหากันว่าใครผิดระหว่างรถตู้หรือแพรวา ระหว่างนั้นคุณป้าซึ่งเป็นแม่คนขับรถตู้ จะยกมือขอโทษเราทุกครั้ง'ขอโทษที่ลูกสาวป้าทำให้เราเจ็บ' เราไม่ได้ถือโกรธเลย แต่เราไม่ได้คำยินคำนี้จากแพรวาเลย"
นอกจากนี้ เหยื่อผู้เสียหายจึงได้เล่าถึงกระบวนการทางกฎหมายที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เกิดการต่อรองกันต่างๆ นานา โดยเฉพาะค่าชดเชยเยียวยาเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ถึงขนาดที่ผู้เสียหายใช้คำว่า"เขาต่อราคาเรายังกับผักกับปลา" ทำให้เขารู้สึกว่าตลอด 9 ปีของการต่อสู้บนชั้นศาล เป็นช่วงเวลาที่สูญเสียพลังใจไปตลอดเวลา
และล่าสุดเขาได้รับหมายศาลชั้นฎีกาของคดีแพ่ง ที่หวังว่าคดีจะจบลงเสียที แต่คำพิพากษาใดๆ ก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะยังถูกประวิงเวลาไปอยู่เรื่อยๆ อยู่เช่นเดิม
นอกจากนี้ ในโลกโซเชียลยังปรากฏข้อมูลใหม่ โดยมีการเปิดเผย หมายศาลคดีหมายเลขดำและคดีหมายเลขแดงในคดีดังกล่าวที่เผยแพร่โดยทวิตเตอร์บัญชี tintin ผู้ที่ระบุว่าอยู่ในรถตู้คันดังกล่าว
โดยเอกสารหมายศาลที่เผยแพร่ดังกล่าว ระบุว่าแพรวาได้เปลี่ยนชื่อ ใช้ อรชรหรือแพรวา หรือบัวบูชา เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์
บทสรุปของคุณหนูตระกูลดัง"น้องแพรวา 9 ศพ" เรื่องนี้ดังกระฉ่อนมากช่วงปลายปี 53 กับกระแสน้องแพรวา 9 ศพ ถึงขั้นมีคนมาแต่งเพลงสรรเสริญน้องเค้าออกมาว่อนชาวเน็ต และแล้วววว…ก็หายจ๋อม!!! ไปไหนไม่รู้ ผู้เสียชีวิตก็จัดงานกันไป ที่สำคัญคือไร้การเยียวยาที่น่าพอใจจากครอบครัวผู้ต้องหา ผู้ต้องหาก็วาร์ปไปมาอย่างกับนินจา ไร้สามัญสำนึกต่อครอบครัวผู้สูญเสีย
sawat คนมันผิดพลาดกันได้..โดยเฉพาะอุบัติเหตุ..ดูตัวอย่างเสี่ยโรงงานแดกน้ำนรก..ชนตำรวจตายยกคันเกือบยกทั้งครอบครัว..ผิดเต็มๆ..แต่เขาสำนึกผิด..จัดการทุกอย่างจนครอบครัวผู้ตายอโหสิให้
แต่คุณดูเหมือนยังยิ้มแย้ม..ไม่สนใจความรู้สึกของครอบครัวคนตายและไม่แคร์สังคม..ใจหินมาก..9ศพนะครับ
สื่อควรติดตามเสนอข่าวเป็นระยะดีแล้วครับ
17 ก.ค. 2562 เวลา 03.58 น.
รวยไม่จริงไง ถ้ารวยจริง เเค่นี้จิ๊บ รวยเเค่ภาพ เหมือน หม่อมบางคน ที่โดนฟ้องล้มละลาย
17 ก.ค. 2562 เวลา 03.58 น.
chinda คนชั่วต้องถูกลงโทษ อย่าปล่อยให้มันลอยนวล
17 ก.ค. 2562 เวลา 04.28 น.
Aiaom อีกกี่10ปี คนก็ขุดคุ้ยขึ้นมาเพราะคุยไม่เคยดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเลย บอกตรง หน้าหนาหน้าทนมาก
17 ก.ค. 2562 เวลา 04.50 น.
Tom. นรกขุมลึกสุดรอมึงอยู่
17 ก.ค. 2562 เวลา 04.12 น.
ดูทั้งหมด