สาวไลฟ์ขาย กกน.ใช้แล้วทำรายได้สุดปัง ออร์เดอร์เพียบจนผลิตไม่ทัน ต้องใส่ไปวิ่งก่อนแพ็กส่งลูกค้า (คลิป)

กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ กรณีสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง ได้ไลฟ์ขายกางเกงชั้นในที่ใช้แล้ว ซึ่งเธออ้างว่าธุรกิจดังกล่าวทำรายได้ดีมาก ๆ และยืนยันว่าขายทุกอย่างจริง ๆ ถ้าอยากรู้ให้แอดเข้ากลุ่ม พร้อมกลับปฏิเสธว่าไม่ได้ขายตัวอย่างแน่นอน นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำธุรกิจดังกล่าว เธออ้างว่าเกิดจากความลำบากในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ล่าสุดวันที่ 3 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี วิดีโอคอยสัมภาษณ์น.ส.เนตรนภา พุทธรักษา หรือ น้ำฝน เจ้าของธุรกิจ กล่าวว่า ตนทำธุรกิจขายกางเกงชั้นในที่ใช้แล้ว ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตนไม่มีทางเลือก ซึ่งตนอยากจะทำธุรกิจหลายอย่างที่คิดไว้ อาทิ ขายทุเรียน แต่ก็ไม่มีทุนมาซื้อ และค่าน้ำมันรถก็ไม่มี จึงเปิดมือถือสังเกตเห็นว่าส่วนมากผู้ชายสนใจอะไรแบบนี้ ตนจึงคิดว่าหากทำธุรกิจขายกางเกงชั้นในที่ใช้แล้วจะดีหรือไม่ เพราะตนคิดว่าทุกคนแม้จะไม่มีเงิน แต่ก็ยังเหลือกางเกงชั้นใน ตนจึงตัดสินใจทดลองไลฟ์ขายผ่านโลกโซเชียลฯ ทันที

โดยก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยขายของมาก่อน เพิ่งจะมาหัดขาย เวลาลูกค้าเข้ามาสั่งสินค้า ตนจะมีหน้าที่ขายเท่านั้น ส่วนจะซื้อเอาไปทำอะไรตนก็ไม่ได้สนใจ และก็จะไม่ถามลูกค้าด้วย แค่โอนเงินมาแล้วก็ส่งของไป ซึ่งไม่เกิน 4 วันสินค้าก็จะถึงมือลูกค้า ต่อมาก็จะมีคนออร์เดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ จนบางทีลูกค้าติดต่อเข้ามาจำนวนมาก ตนก็ต้องใส่กางเกงชั้นในแล้วออกไปวิ่งหน้าบ้านหลายรอบ เพื่อให้เหงื่อมันออกมา และจะได้รู้ว่าเป็นตัวที่ใส่แล้ว

สำหรับราคาตนจะขายตัวละ 250 บาท แต่ออร์เดอร์ล่าสุดที่จัดส่ง คือ 9 ตัว 1,800 บาท ขอแค่ลูกค้าบอกมา ส่วนมากจะเป็นแบบที่ใส่แล้ว โดยตั้งแต่เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.64) จนถึงวันนี้รายได้เข้ามาแล้ว 26,000 บาท ทำให้ตนต้องไปหาซื้อกางเกงชั้นในมาเก็บไว้จำนวนมาก

"ตั้งแต่ที่เปิดขายมาครอบครัวยังไม่รู้ เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน หนูก็เป็นสาวโสด ซึ่งธุรกิจนี้หนูไม่ได้ไปเอาของคนอื่นมาขาย ไม่มีการขายตัวอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ที่กลัวมาก ๆ คือจะจัดส่งให้ลูกค้าไม่เพียงพอ เพราะลูกค้าส่งข้อความมาสั่งซื้อเยอะมาก โอนเงินมาแล้วด้วย สิ่งที่หนูทำลงไปไม่ได้ไปฆ่าใคร ไม่ได้ไปนอนกับใคร ไม่ได้นอกใจใคร ที่ทำไปเพราะความจำเป็น คิดเสียว่าเป็นการขายเสื้อผ้ามือสอง" น.ส.เนตรนภา กล่าวทิ้งท้าย

ทีมข่าวโทรศัพท์พูดคุยกับทนายเกิดผล แก้วเกิด ให้ข้อมูลว่า ถ้าผู้ขายไม่มีเชื้อโรค ก็เหมือนกับเป็นเสื้อผ้ามือ 2 จึงไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เป็นรสนิยม และถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีใครห้ามกันได้

ส่วนอีกมุมทางกฎหมาย หากผู้ขายเป็นพาหะนำโรค ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ในฐานความผิดแพร่กระจายเชื้อโรค หรือทำให้โรคระบาดมากขึ้น ในขณะเดียวกันเรื่องของศีลธรรม ก็มีส่วนผิดอยู่บ้าง เพราะผิดจารีตประเพณี แต่บางคนก็จะมองว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคล