ทัวร์ลงน้องสะดิ้งพี่สาวน้องชมพู่คาใจต้องรู้เห็นอะไรสักอย่าง

กลายเป็นอีกหนึ่งคดีสำหรับการเสียชีวิต ปริศนา ของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งก่อนหน้านี้ เสียชีวิตที่แน่ชัดได้ ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เผยว่า จนถึงเวลานี้ตำรวจยังไม่ได้รับผลชันสูตรอย่างละเอียด ที่บ่งบอกสาเหตุการตาย จึงยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมถึงข้อสังเกตว่า "น้องชมพู่อาจไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม" ซึ่งตอนนี้ตำรวจบอกได้แค่ว่า ไม่เชื่อประเด็นเด็กเดินพลัดหลงไปเอง

ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ดราม่าดังกล่าวส่งแฮชแท็ก #น้องชมพู่ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อีกครั้ง ฝั่งสังคมเฟซบุ๊กก็ไม่แพ้ คอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเด็น

ยกตัวอย่างเช่น ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ตั้งข้อสงสัย ระบุว่า ฉันว่าพี่สาวมี % รู้เห็นอะไรสักอย่างอ่ะ

1.ไปส่องเฟสมา เฟสสมัครไว้วันที่ 9 พ.ค.

2.วันที่ 11 แชร์ข่าวตามหาน้อง ซึ่งเป็นภาพการที่น้องสะดิ้งโพสต์เฟสบุ๊กและระบุว่าอยู่ในเทศบาลเมืองมุกดาหาร วันที่ 9 พฤษภาคม และย้ายไปอยู่ที่เทศบาลเมืองมุกดาหาร

พร้อมกับมีภาพที่ถ่ายคู่กันและระบุข้อความว่า ตอนไหนจะเจอว่ะ คำแพงเอ้ย

ทั้งนี้มีการแชร์ข้อมูลโดยตั้งข้อสังเกตต่ออีกว่า

3.โพสวันที่ 12 มีคนไปคอมเมนท์ว่าให้เปลี่ยนหัวเฟส (Bio)เพราะรู้สึกไม่ดีเหมือนสื่อความหมายว่าน้องไม่อยู่แล้ว โดยมีข้อความระบุเอาไว้ว่า ไม่มีน้องพ่อแม่กับพี่จะอยู่ยังไง น้องชมพูนางฟ้าของพี่

4.วันที่ 14 อัพว่าเจอน้องแล้วและบอกว่าน้องเป็นนางฟ้าแล้วคือ มันน่าสงสัยตรงที่เราเรียกน้องสาวเราว่านางฟ้าจริงๆหรอ ถ้าไม่รู้เหตุการณ์อะไรสักอย่างล่วงหน้าอ่ะ

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 พ.ต.ท.สุริยา นภกรีกำแหง สารวัตรใหญ่ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กล่าวว่า จากกรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ที่ภูเหล็กไฟที่พบศพของน้องชมพู่ ที่ภูเหล็กไฟ ขณะนี้ ทางตำรวจยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานกันอีกอยู่ และยังไม่ได้ขอศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับของคนร้ายกันแต่อย่างใด

ส่วน พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภาค 4 กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุในตัวน้องชมพู่ที่ไปเสียชีวิตลงที่ภูเหล็กไฟนั้น ตนเองได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เข้ามาอารักขาความปลอดภัยให้กับนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา ที่บ้านของเขากันทุกๆ วัน วันละ 4 นาย