ทั่วไป

ทนายซัด"สรรพากร"จะติดหมายบ้าน ใครควรตรวจสอบบ้าง

เดลินิวส์
อัพเดต 08 ก.ค. 2563 เวลา 13.02 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. 2563 เวลา 07.40 น. • Dailynews
ทนายเดชาซัด"สรรพากร"จะติดหมายบ้านใครควรตรวจสอบบ้าง ชี้คนแจ้งเอาบ้านไปจดทะเบียนมีความผิดหลายกระทง

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.  นายเดชา กิตติวิทยานันท์  ทนายชื่อดัง เจ้าของเพจ “ทนายคลายทุกข์”  ได้เปิดเผยกับ “เดลินิวส์ออนไลน์“ กรณี นางสมใจ บัวพึ่งน้ำ อายุ 85 ปี อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ได้ร้องเรียนว่ามี 2 เจ้าหน้าที่ “สำนักงานสรรพากร พื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร 9” พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทุ่งสองห้องอีก 2 นาย มาเคาะประตูบ้านเพื่อขอติดหมายเรียกของสรรพากร เรื่องที่มีบริษัทแห่งหนึ่งนำบ้านของนางสมใจ ซึ่งเป็นแฟลตการเคหะ ไปแอบอ้างเป็นที่ตั้งของบริษัท

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า  สอบไปสอบมาสรรพากรก็แจ้งว่า บ้านนี้มี"นิติบุคคล"มาใช้เป็นสถานประกอบการ ซึ่งไม่ได้เสียภาษี ก็เลยเอาหมายมาปิดเพื่อเชิญพบ  ก็ฝากสรรพากรนะครับว่า จะเอาหมายมาติดบ้านใครให้ถามดูว่าเขาได้เกี่ยวข้องอะไรหรือเปล่า อธิบายให้ชัดเจน บางทีคนเฒ่าคนแก่อยู่ที่บ้านจะตกอกตกใจ หรือหัวใจวายได้  อันนี้ก็ฝากสรรพากรหน่อยนะครับ เพราะเดี๋ยวนี้ชาวบ้านก็ตกใจเห็นสรรพากร ก็กลัวกันเพราะทำผิดก็อาจจะโดนยึดทรัพย์ เสียภาษีย้อนหลัง ติดคุกติดตารางเป็นไปได้หมด อันที่ 2 การที่นิติบุคคลจะเอาบ้านใครมาเป็นสำนักงานจดทะเบียนได้ต้องได้รับความยินยอม เจ้าของบ้านต้องเซ็นยินยอม  ซึ่งกรณีคุณป้าคนนี้เท่าที่สอบถามแล้วก็ไม่ได้ให้ความยินยอม แสดงว่าต้องมีการปลอมลายมือชื่อของคุณป้า และเอาแจ้งต่อทนายหุ้นส่วนของบริษัท เพราะฉะนั้นก็ฝากคุณป้าไปติอต่อตรวจค้นที่นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทว่า ใครเป็นคนปลอมลายมือชื่อเรา พอรู้เรียบร้อยก็ไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาปลอมลายเซ็น ปลอมลายมือชื่อ หรือปลอมเอกสาร และในข้อหาใช้เอกสารปลอม ต่อนายทะเบียน แจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงานในข้อหาที่ 2 ก็สามารถดำเนินคดีได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า หากมีการแอบอ้างถึงบุคคลอื่นก็อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทไปด้วย เพราะฉะนั้นหากใครเจอแบบนี้ก็ให้รีบแจ้งสรรพากรว่าคนนี้ไม่ได้ประกอบการที่นี้ และเจ้าของบ้านไม่ได้ยินยอม  และแจ้งนายทะเบียนให้คัดชื่อออกว่าสำนักงานว่า สำนักงานอันนี้ไม่ใช่สำนักงานจดทะเบียน และไปแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีเพื่อเรียกมาดำเนินคดีตามกฏหมาย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตขรก.แจ้งเอาผิด2บริษัทฯ ปลอมเอกสารเอาที่อยู่ไปใช้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • โจ๊ก..จ้า
    ตอนมาจดทะเบียน จนท.ไม่ได้มาดูสถานที่หรอ อย่างน้อยก็ต้องมีภาพถ่ายห้างร้าน บริษัท บ้างล่ะ หรือว่าเงินมันบังตาตอนจดทะเบียน เรื่องนี้ จนท.มันรู้ดี แม่งเป็นแบบงี้ทุกที่ และก็อ้างว่าเค้ามายื่นเรื่องก็ต้องดำเนินการ มิเช่นนั้นอาจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่กูถามหน่อยมึงไปตรวจสอบจริงๆหรือป่าว ส่วนมากนั่งเทียนกันทั้งนั้น ใส่ซองเงียบกริป บอกตรงๆ มันเป็นความผิดตั้งแต่เริ่มต้นของ จนท.แล้ว เรื่องมันถึงลามจนทุกวันนี้
    08 ก.ค. 2563 เวลา 13.50 น.
  • มงคล
    พวกปลอมแปลงเลี่ยงภาษีหรือแอบอ้างเอาบุคคลอื่นเป็นตัวแทนหลีกเลี่ยงทำธุระกิจอย่างอื่น แล้วไม่เสียภาษีแบบนี้ สพรรภากรควรตรวจสอบข้อเท็จจริงบ้างสักแต่จะยึดติดแจ้งจับปรับอย่างเดียวไม่ลืมหูลืมตาตรวจสอบ พวกมิจฉาชีพปลอมแปลงมีไปทั่วทุกวันนี้ระวังตัวยากทั้งเอกสารหรือเครื่องมือสื่อโซเซียลต่างๆพวกมิจฉาชีพปลอมได้หมด
    08 ก.ค. 2563 เวลา 13.52 น.
  • แดงโซดา
    สรรพากรคงตรวจจนไม่รู้จะตรวจยังไงแล้วมั้ง ในเมื่อข้อมูลเงินได้มันโชว์หลาขนาดนั้น ตัว จนท.เองคงลำบากใจไม่น้อยที่ต้องมาเจอรายที่สภาพความเป็นจริงแล้วช่างไม่เหมาะกับเงินได้ที่ปรากฏอย่างแรง แต่คงต้องทำตามระเบียบโดยเริ่มจากจุดที่เป็นสาเหตุ ซึ่งจุดนี้ จนท.ก็คงเดาออกเหมือนอย่างที่เราๆ ท่านๆ เดากันไว้ แต่เราก็ต้องเข้าใจในขั้นตอนการทำงานผลสุดท้ายหากการทำงานมีประสิทธิผลจริงผู้ทำผิดก็ต้องรับผลไป
    08 ก.ค. 2563 เวลา 14.13 น.
  • ⠀สุทธิพร
    ทำตามเอกสารที่แสดง เพื่อเชิญไปให้ถ้อยคำก็ถูกแล้วนี้ครับ จะให้ตะโกนถาม ถ้าป้าตอบว่าไม่ใช่ฉัน จากนั้นสรรพากรก็เดินกลับเหรอครับ
    08 ก.ค. 2563 เวลา 13.58 น.
  • เลี่ยงภาษีกันเยาะเอาให้หนักๆผิดว่าไปตามผิดถูกว่าไปตามถูก
    08 ก.ค. 2563 เวลา 13.43 น.
ดูทั้งหมด