วันนี้ ( 28 มี.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระทรวงการคลัง ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตรูปแบบเหรียญกษาปณ์ ให้จัดทำเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อใช้ในระบบเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อวันที่ 21 ก.ค.60 โดยผลิตเป็นเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน รวม 9 ชนิดราคา ประกอบด้วยเหรียญชนิดราคา 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค์ 25 สตางค์ 10 สตางค์ 5 สตางค์ และ 1 สตางค์ พร้อมทั้งได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ออกจ่ายแลกในระบบเศรษฐกิจ ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 61 เป็นต้นไป
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่จะนำออกจ่ายแลกในระบบเศรษฐกิจ โดยรูปแบบลักษณะของเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ทั้ง 9 ชนิดราคา กรมธนารักษ์ ได้ออกแบบเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ด้านหน้าเหรียญทุกชนิดราคา กลางเหรียญมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ทรงฉลองพระองค์เต็มยศทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า เบื้องขวามีข้อความว่า “มหาวชิราลงกรณ” เบื้องซ้ายมีข้อความว่า “รัชกาลที่ 10” ขณะที่ด้านหลังเหรียญทุกชนิดราคา กลางเหรียญมีอักษรพระปรมาภิไธย วปร ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เบื้องบนมีข้อความว่า “ประเทศไทย” และคำว่า “พ.ศ.” และเลขของปี พ.ศ. ที่จัดทำเหรียญ เบื้องล่างมีข้อความบอกชนิดราคาของเหรียญ สำหรับเหรียญชนิดราคา 5 บาท และ 50 สตางค์ ลวดลายด้านหน้าและด้านหลังของเหรียญวงในเป็นรูปสิบเหลี่ยม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะใช้ควบคู่กับเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีการทยอยผลิตออกมาเรื่อยๆไม่ได้มีการจำกัด คาดว่าจะสามารถทดแทนเหรียญรุ่นเดิมได้หมดภายใน 4-5 ปี โดยยังคงขนาดและน้ำหนักเท่าเดิม สามารถใช่ในระบบตู้หยอดเหรียญต่างๆได้ตามเดิม
สำหรับเหรียญกษาปณ์ใหม่ พร้อมออกใช้และจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชนิดราคา 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค์ และ 25 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2561 ส่วนอีก 3 ชนิดราคาที่เหลือคือ เหรียญ 10 สตางค์ 5 สตางค์ และ 1 สตางค์ จะใช้กับหน่วยราชการในการรับจ่ายเพื่อใช้ปิดบัญชีเท่านั้น โดยในอนาคตเมื่อมีการจ่ายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ก็จะทำให้ความต้องการใช้เหรียญประเภทดังกล่าวลดลง และหากใช้ได้เต็มรูปแบบ มั่นใจว่าจะช่วยลดต้นทุนส่วนราชการได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุว่า กรมธนารักษ์ พร้อมออกใช้และจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรประกอบด้วยเหรียญชนิดราคา 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค์ และ 25 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.61 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. ณ หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2618 6340, 0 2273 0899-902 ต่อ 5115 หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯโทร. 0 2282 4109-10 หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โทร. 0 2565 7943-49 และศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ของกรมธนารักษ์ 6 แห่ง ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ นครสวรรค์ สงขลา และสุราษฎร์ธานี
Piyada คิดถึง พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9. รู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ในรัชการของท่าน
28 มี.ค. 2561 เวลา 04.29 น.
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
28 มี.ค. 2561 เวลา 04.30 น.
Punnee kaha 59 ทรงพระเจริญ
28 มี.ค. 2561 เวลา 04.52 น.
Mt.Bsb ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...
28 มี.ค. 2561 เวลา 04.09 น.
Suwajjanee ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
28 มี.ค. 2561 เวลา 04.42 น.
ดูทั้งหมด