ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เฟซบุ๊กหาทางกวาดล้างคอนเทนท์ต้านฉีดวัคซีน

The Bangkok Insight
เผยแพร่ 17 ก.พ. 2562 เวลา 09.42 น. • The Bangkok Insight

สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง “เฟซบุ๊ก” มองหาลู่ทางปราบปรามข้อความต่อต้านการฉีดวัคซีน ที่กำลังแพร่กระจายอยู่บนแพลตฟอร์มของบริษัท การเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสาธารณสุข

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวในเฟซบุ๊กว่า โซเชียลมีเดียรายนี้ กำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญภายนอกบริษัท ถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมีขึ้นในเร็วๆ วันนี้

“เราดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดการแพร่กระจายการให้ข้อมูลผิดๆ ในเรื่องสุขภาพ แต่เรารู้ดีว่าเราต้องทำมากกว่านี้ และปัจจุบันเรากำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อมองหาการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ที่เราจะประกาศในเร็วๆ นี้”

รายงานข่าวระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีนได้ออกมาเคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊กมากขึ้น และมักจะแชร์ หรือโพสต์ภาพต่อต้านการฉีดวัคซีน และการตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของวัคซีนเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะเดียวกัน สหรัฐก็มีจำนวนผู้ป่วยโรคหัด และโรคติดเชื้อต่างๆ เพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ

ก่อนหน้านี้ นายอดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก และนายซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอกูเกิล แสดงความกังวลว่า บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ กำลังเปิดทางให้เกิดการแพร่กระจายของข้อมูลผิดๆ ที่ต่อต้านการฉีดวัคซีน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายอาเธอร์ แคปแลน ศาสตราจารย์ และผู้ก่อตั้งหน่วยงานจริยธรรมการแพทย์ ที่เอ็นวายยู แลนกอน เฮลธ์ ในนิวยอร์ก กล่าวว่า เขาสนับสนุนอย่างมาก ต่อความพยายามครั้งใหม่ของเฟซบุ๊ก ที่จะจัดการกับข้อความต่อต้านการฉีดวัคซีน

“ผมไม่ได้จะบอกว่า ห้ามใครแสดงจุดยืนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนบนเฟซบุ๊ก ผมรู้ว่า ผู้คนคงจะบอกว่าการกระทำแบบนี้เป็นการละเมิดสิทธิการพูดอย่างเสรี คนที่ต่อต้านการฉึดวัคซีนจำนวนมากคงจะพูดแบบนั้น แต่ไม่มีใครบอกว่า คุณต่อต้านการฉีดวัคซีนไม่ได้ สิ่งที่เราพูดก็คือ คุณจะมาโกหก จะมาปั่นให้คนกลัวไม่ได้”

ข้อมูลของหน่วยงานราชการต่างๆ ในสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า ในรัฐวอชิงตัน เกิดโรคระบาดในเขตคลาร์ก ทางตอนเหนือของพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน และมีการประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้น ซึ่งนับแต่เกิดกาารระบาดตั้งแต่เดือนมกราคม พบผู้ป่วยโรคนี้ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 58 ราย

ดูข่าวต้นฉบับ