วันที่เจ็บป่วยนอกจากเจ็บกาย ยังเจ็บไปถึงกระเป๋าเงินเพราะเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้งค่าหมอค่ายาแพงหูฉี่
ว่าแต่ต้นทุนของโรงพยาบาลมาจากอะไร ทำไมค่ายา ค่ารักษาถึงแพงขึ้นทุกปี?
เปิดต้นทุนโรงพยาบาลมาจากค่าแรง 70% กำไรสุทธิที่ 7-10% ต่อปี
นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THGบอกว่า 20 ปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะมีกำไรสุทธิประมาณ 7-10% ต่อปี และบางโรงพยาบาลที่ทำ medical tourism จะมีกำไรสุทธิ ประมาณ 12-13% ต่อปี กำไรของโรงพยาบาลมาจากหลายด้านรวมกัน เช่น ค่ายา ค่าเครื่องมือแพทย์ ค่าบริการ ค่าห้อง ค่า Lab ค่า x-ray ฯลฯ
ทั้งนี้ต้นทุนโรงพยาบาล ส่วนใหญ่กว่า 70% มาจากค่าแรง เช่น ค่าแพทย์ ค่าพยาบาล ค่าใช้จ่ายพนักงาน นอกจากนี้มีต้นทุนจากการลงทุน (Capex-Capital Expenditure) เช่น หากต้องการสร้างโรงพยาบาลมาตรฐานสูง 500 เตียงใช้เงินประมาณ 10,000 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าที่ดิน) ดังนั้นต้นทุน Capex เฉลี่ยเตียงละ 20 ล้านบาท ในขณะที่โรงพยาบาล มาตรฐานระดับรองลงมา Capex เฉลี่ยเตียงละ 7-10 ล้านบาท ส่วนโรงพยาบาลแบบ Mass หรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่างที่ภาครัฐทำ Capex เฉลี่ยเตียงละ 3 ล้านบาท เมื่อโรงพยาบาลลงทุนแล้วจะใช้เวลาประมาณ 7-8 ปีจึงจะถึงจุดคุ้มทุน
ในขณะต้นทุนที่เป็นค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน (Opex-Operating Expenditure) กรณีโรงพยาบาลมาตรฐานสูงจะมีพนักงานดูแล ( แพทย์พยาบาล ฯลฯ) 5-7 คนต่อ 1 เตียง ในขณะที่โรงพยาบาลแบบ Mass จะมีพนักงานดูแล 3 คนต่อ 1 เตียง สาเหตุที่โรงพยาบาลไม่สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานได้ ก็เพื่อคงมาตรฐาน การรักษาผู้ป่วย ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ในไทยต้นทุนค่าหมออยู่ที่ประมาณ 20% ของ ต้นทุนทั้งหมด ถ้าเทียบกับประเทศอื่นค่าหมอไทยก็ถูกกว่า ต่างประเทศอย่าง เช่น ไต้หวัน ฮ่องกงค่าแพทย์คือ 40 %ของระบบ”
หมอย้ำยาไม่เคยขึ้นราคาแต่ยาใหม่ที่ดีขึ้นราคาก็แพงขึ้น
นพ.ธนาธิป บอกว่าราคายาไม่เคยปรับขึ้น โดยธรรมชาติราคายาจะแพงที่สุดหลังออกจากการวิจัย และขายสู่ตลาดในครั้งแรก ซึ่งราคายาจะค่อยๆ ปรับลดลงภายใน 7 ปีตามการแข่งขันในตลาด ที่มียาชนิดใหม่ๆ เกิดขึ้น
“จริงๆ แล้วราคายาไม่เคยปรับเพิ่มขึ้น แต่ยาตัวใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งยาแต่ละตัวก็มีนวัตกรรมมากขึ้น เช่น ปัจจุบันยาเม็ดนี้โอกาสรักษาหายให้ได้ 70% แต่ยาตัวใหม่ที่ออกมามีโอกาสรักษาโรคหายได้ 90% คนก็เลือกยาตัวใหม่ แม้ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น 3 เท่าก็ตาม ปัจจุบันยามะเร็งเม็ดละ 10,000 บาทยังมี ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งอาจไปถึงหลักล้านบาท”
ดังนั้นจากที่หลายคนเคยพูดว่าค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นเฉลี่ยปีละ 8-10 % ก็มาจากมาตรฐานการรักษาที่สูงขึ้น
ชี้เทรนด์ 2 รูปแบบโรงพยาบาลเกิดใหม่ เฉพาะทาง-ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น
จากสังคมสูงวัยและสภาพแวดล้อมในปัจจุบันหลังจากนี้โรงพยาบาลขนาดใหญ่จะไม่มีเพิ่มขึ้น (ยกเว้นโรงพยาบาลที่มีอยู่ขยายสาขา) แต่จะเห็นการขยายตัวในรูปแบบโรงพยาบาลเฉพาะทาง เช่น ศูนย์รักษาแผลเบาหวาน ทันตกรรม ศูนย์ส่องกล้อง ฯลฯ และโรงพยาบาลพักฟื้นผู้ป่วย
“คนไทยอายุยืนมากขึ้น ปัจจุบันคนไทยอายุขัยเฉลี่ย 75-77 ปี ภายใน 20 ปีข้างหน้าอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 85-90 ปี นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าเด็กที่เกิดหลังปี 2000 อาจมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 100 ปี ดังนั้นผู้ป่วยที่สูงอายุจะมีเยอะขึ้น นอกจากการรักษาตัวในโรงพยาบาล ต้องมีสถานที่ฟื้นฟูร่างกาย เช่น เมื่อผู้ป่วยอัมพาต ออกจากโรงพยาบาลต้องมีกายภาพบําบัดยาว 1 เดือนต้องมาใช้โรงพยาบาลพักฟื้นผู้ป่วยที่ค่าใช้บริการจะถูกกว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพราะใช้ผู้ดูแลประมาณ 2-3 คน เท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถรองรับผู้ป่วยติดเตียงได้ด้วย”
สรุป
ไม่ว่ารวยหรือจนทุกคนต้องใช้บริการโรงพยาบาล แต่ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าหมอก็แพงขึ้นทุกปี จนล่าสุดภาครัฐ เริ่มจะเข้ามาควบคุมราคายาและค่าบริการทางการแพทย์ แต่จะช่วยให้คนเข้าถึงการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานได้มากขึ้นหรือไม่ คงต้องรอดู. . .
กะแตแต้แว้ดดดดด ทำบุญที่วัดทุ่มสุดตัว เอาจนวัดรวยเอาๆ กี่คนกันทำบุญกะโรงพยาบาล เวลาป่วยเข้า รพ. เวลาหายป่วยไปทำบุญแก้บนที่วัด เพราะบนบานไว้วัดไม่ใช่บนบานกะ รพ. รึคนคิดว่าท้ายที่สุดก้คือไปวัด เลยทุ่มบริจาคกะวัดจนลืมว่าโรงเรียน โรงพยาบาลก็สำคัญ รึคิดว่างบหลวงที่โรงบาลรับมามันมากมายมันเพียงพอ
19 ก.พ. 2562 เวลา 15.38 น.
Sia บิลของ รพ. มีแยก ค่ายา ค่าหมอ ชัดเจน
ถ้าคิดเฉพาะค่ายาของ รพ. แพงกว่าร้านขายยา ไม่ต่ำกว่าสองเท่าครับ คอนเฟิรม
19 ก.พ. 2562 เวลา 13.14 น.
ไก่ป๊อป เข้าวันแรกจับล่ามน้ำเกลือไว้ก่อนจากนั้นสารพัดค่าจะตามมาจนงงว่ามันคืออะไรกันบ้าง สรุปกำไร7-10%คือกำไรที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี
19 ก.พ. 2562 เวลา 13.14 น.
ooy013 บอกตรงๆ ไม่เชื่อ
19 ก.พ. 2562 เวลา 12.34 น.
yut เห็นบิลค่ารักษาของญาติแล้วยอมใจ ป่วยก็ซื้อยาทัมใจกินเอาละกัน
19 ก.พ. 2562 เวลา 11.41 น.
ดูทั้งหมด