ไลฟ์สไตล์

เอะอะไล่ออกนอกประเทศ! “ไทย” วิจารณ์ “ไทย” ไม่ได้ แล้วจะเจริญได้ยังไง?

TheHippoThai.com
เผยแพร่ 24 ต.ค. 2561 เวลา 01.00 น.

เอะอะไล่ออกนอกประเทศ! “ไทย” วิจารณ์ “ไทย” ไม่ได้ แล้วจะเจริญได้ยังไง?

“ไม่ชอบก็ออกไป”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ทำไมไม่มองด้านดีประเทศเราบ้าง”

“คนไทยหรือเปล่า”

ประโยคเหล่านี้มักถูกหยิบยกขึ้นมาใช้งานอยู่เสมอเวลามีใครสักคนหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ถึงด้านที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก ยกตัวอย่างตอนที่นักร้องสาวคนหนึ่งรอรถเมล์นานจนอารมณ์ร้อน ถึงขั้นพิมพ์ลงทวิตเตอร์ด้วยข้อความอันเผ็ดร้อน ที่เธอโดนกระหน่ำในโซเชียลเน็ตเวิร์กไปหลายวันด้วยข้อความที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่เราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภายใต้ความหัวร้อนของเธอนั้นก็ยังคงมีประเด็นที่ไม่ได้รับการแก้ไขมานานแล้ว นั่นคือเรื่องของ “รถเมล์” ขนส่งมวลชนระดับพื้นฐานในกรุงเทพฯ ที่ยังคงขาดประสิทธิภาพ ด้วยสภาพรถที่บุโรทั่ง ป้ายรถเมล์ที่ไม่ชัดเจน รวมถึงมารยาทการขับรถ สิ่งเหล่านี้ก็ควรถูกนำมาขบคิดเช่นกัน ว่าเมื่อมีคนวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา ทำไมเขาถึงคิดเช่นนั้น

นี่คือตัวอย่างที่ค่อนข้างเห็นได้ชัดของความเสี่ยงที่จะถูกล่าแม่มด เมื่อเราวิจารณ์ด้านลบของประเทศนี้ บางเสียงอาจบอกว่า ทำไมไม่มองด้านดีแล้วมีความสุขกับมัน

ในความเป็นจริงแล้วการมองแต่ข้อดีเพื่อมากลบข้อเสียของประเทศเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เพราะข้อเสียเหล่านั้นจะยังคงอยู่ เหมือนเราคบกับแฟนหนึ่งคนคงจะมองข้อดีของเขาไปตลอดไม่ได้ นิสัยเสียบางอย่างที่กระทบต่อชีวิตคู่ก็ควรได้รับการแก้ไขเช่นกัน ไม่งั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับการหลอกตัวเองไปวันๆ ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นช่างมีความสุขเหลือเกิน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ยกตัวอย่างในคลิปนี้ https://www.facebook.com/VogueThailandOfficial/videos/295561304380068/ ที่พาดคำบรรยายใต้คลิปว่า…

สละเวลาดูแค่ 4 นาที แล้วคุณจะเห็นอีกด้านของเมืองไทย! "ไม่อยากอยู่ในประเทศนี้แล้ว… รถก็ติด คอรัปชั่น ระบบการศึกษา ปัญหาคนจน เมืองไทยไม่มีอะไรดีเลย"

ในคลิปได้บรรยายถึงปัญหาในประเทศที่เราทราบกันดี และเลือกที่จะไปถามชาวต่างชาติที่มาเที่ยวบ้านเราว่าเมืองไทยนั้นมีดีอย่างไร (ซึ่งจริงๆ แล้วการไปถามนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นหลักเป็นฐานก็นับว่าเอาเทียบกันไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก) ปิดท้ายด้วยการให้คนไทยเชียร์ไทยด้วยกันเอง

ประเด็นนี้มองเผินๆ ก็นับว่าเป็นการให้กำลังใจที่ดี แต่ปัญหาที่บรรยายไว้ตอนแรกก็เหมือนเดิม ทั้งรถติด สายไฟยุ่งเหยิง นักการเมืองคอร์รัปชั่น ฯลฯ ไม่ว่าจะยกข้อดีมาอีกร้อยข้อ ปัญหาก็ยังอยู่เหมือนเดิม 

เราหวังให้ต่างชาติมาพูดด้านเสียกันเหรอ? ถ้าเราเมินเฉยต่อการวิพากษ์วิจารณ์จากคนในบ้านของเรา และยังคงมัวแต่ไล่ให้คนเหล่านั้นไปอยู่ต่างประเทศ มันก็ไม่ต่างอะไรกับซุกปัญหาไว้ใต้พรม

สุดท้ายแล้วถ้าเราเอา “คำวิจารณ์” เหล่านั้นมานั่งพินิจถึงข้อเสียเพื่อเอามาปรับปรุงแก้ไขชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้ คนที่รับผลกระทบก็คือพวกเรากันเองทั้งนั้น เราก็ยังคงอยู่ในวงจรเดิมๆต่อไปเรื่อยๆ อาจจะอีก 50 หรือ 1,000 ปีแบบที่น้องคนนั้นพูดก็ได้

ความเห็น 221
  • เห็นด้วย อยากแต่ให้คนอื่นมายกยอว่าตัวเองดีอย่างนั้นอย่างนี้ถ้ามาตินี่รับไม่ได้ ทั้งที่ข้อเสียก็มีที่ควรปรับปรุงแก้ไข
    23 ต.ค. 2561 เวลา 23.44 น.
  • 🌼KHANAVICH`🅝🅣🅣64🌼
    จะอยู่แบบ ไม่ลืมหูลืมตา เลยก็ไม่ได้ ต้องมีตำหนิในสิ่งที่ควรปรับปรุงบ้าง ดูเคสต่างประเทศที่เขาเจริญแล้ว ส่วนใหญ่การพัฒนาขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน
    24 ต.ค. 2561 เวลา 00.12 น.
  • อ๋อย
    มันเป็นคำพูดของคนที่ไม่ยอมรับความจริง ชอบพักอาศัยอยู่ในกะลา ที่มีแต่กลิ่นความโง่คลุ้งไปหมด
    24 ต.ค. 2561 เวลา 00.19 น.
  • เห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่าสังคมไทยควรเปิดใจยอมรับให้กว้างขึ้นกับคำตำหนิติเตือนเพื่อหาทางออกร่วมกันแบะแก้ไขให้ดีขึ้น แต่มีเพียงคนกลุ่มน้อยแต่มีชนชั้นทางสังคมสูงซึ่งไม่ยอมรับในข้อตำหนินี้คือเขามองว่าตัวเองเป็นชนชั้นปกครองสามารถชี้นำชะตากรรมของประเทศได้เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาคิดหรือทำนั้นทุกอย่างคือถูกต้องแล้วจึงดีแต่ไล่ทุกคนที่เห็นต่าง
    24 ต.ค. 2561 เวลา 00.21 น.
  • X+2X-Y=10....Y=?
    วิจารณกับตำหนิด่าไปเรื่อยเปื่อย ไม่เหมือนกัน คนที่ต้องการเสนอความเห็นต่างเอง และต้องยอมรับว่า ความเห็นขอวตนก็จะต้องถูกตรวจสอบ และโต้แย้งด้วยเสมอ เรื่องความคิดจึงเป็นเรื่องที่จะมาเอาชนะกันไม่ได้ ต้องบอกเหตุผล ที่มาและมีข้อเท็จจริง สาระสำคัญว่ามีวัตถุประสงค์ยังไง แล้วดูที่ตรงนั้น เทียบกันว่า แบบไหนเป็นไปได้แล้วควรเป็นมากที่สุด ...เพราะอะไร มันยากเกินไปสำหรับคนไทย เพราะไม่เคยถูกเลี้ยงให้มีเหตุมีผล ระบบการศึกษาก็ไม่เน้นว่า ต้องตอบให้ได้ว่า เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น ถ้าตอบไม่ได้ ความเห็นที่ว่ามาก็เสมือน
    24 ต.ค. 2561 เวลา 00.11 น.
ดูทั้งหมด