ทั่วไป

“ไม่ปลดเกียร์ว่าง – จอดขวางบ้านคนอื่น” แค่ไม่ทันคิด? หรือ สำนึกบกพร่อง!

TheHippoThai.com
เผยแพร่ 22 พ.ย. 2561 เวลา 13.00 น.

“ไม่ปลดเกียร์ว่าง – จอดขวางบ้านคนอื่น” แค่ไม่ทันคิด? หรือ สำนึกบกพร่อง!

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เหตุจอดรถขวางทางสร้างความขัดแย้งในสังคมไทยไม่รู้จบตั้งแต่ป้าทุบรถที่จอดขวางหน้าบ้านตัวเองจนเป็นข่าวฮือฮาเปิดโปงเรื่องราวหลายปีที่คุณป้าถูกเอารัดเอาเปรียบจากตลาดนัดรอบๆบริเวณบ้าน  ภรรยาดาราดังที่ถูกจอดรถขวางพร้อมใส่เบรคมือกลางบางแสนจนขึ้นรถกลับบ้านไม่ได้  หนำซ้ำยังถูกคู่กรณีเอาไปโพสต์ลงโซเชียลพาดพิงมาถึงครอบครัวเธอ  ทั้งที่เป็นผู้เสียหายจนต้องเตรียมนำทนายไปดำเนินคดี  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มาถึงกรณีล่าสุดที่มีเพื่อนบ้านเขียนป้ายด่าเจ้าของบ้านว่า "ใครจะไปตรัสรู้ว่าจะเข้าออกบ้านกี่โมง"  ทั้งที่ไปจอดขวางหน้าบ้านเขาเอง แล้วเจ้าตัวก็เคยพูดคุยไปอย่างสุภาพแล้ว นี่ทำเอาผู้เขียนถึงกับจุก

เราไม่ได้แค่อยู่ในยุคที่คนจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นอย่างมั่วซั่ว แต่ยังเป็นยุคที่คนจอดรถขวางหน้าบ้านกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ เป็นฝ่ายถูกประจานอีกด้วย !!

ร้อยเหตุผลของคนจะจอด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“แปบเดียวเองไม่เป็นไรหรอก ก็ไม่มีที่จอดอะ ก็จอดแบบนี้ทุกทีอะ”  ถ้าใครพอจะจำได้ นี่คือเหตุผลที่คนจอดรถขวางหลายๆ คนมักจะอ้างเมื่อมีเหตุวิวาทเกิดขึ้น อย่างหญิงสาวที่ถูกคุณป้าเจ้าของบ้านทุบรถ เธอยืนกรานว่าไม่ได้ตั้งใจ คิดว่าบ้านร้าง (ทั้งที่มีป้ายห้ามจอดแปะเต็มหน้าบ้าน) พร้อมพ่วงท้ายอีกว่า ก็เวลาไปซื้อของตามตลาดนัดก็มักจะจอดแบบนี้ ไม่เห็นเคยมีปัญหาอะไรเลย  

“ใจจริงผมพยายามจะปลดเกียร์ว่าง แต่พอปลดเกียร์ว่าง รถล็อกไม่ได้ จึงต้องเข้าเกียร์ P ไว้ แล้วดึงเบรกมือ แล้วก็ลงไปซื้อของกิน นั่งกินกับเพื่อนประมาณ 30 นาที คิดว่า ไม่เป็นไร คงไม่มีรถใครออกแต่พอมีคนประกาศตามหารถตัวเองจอดขวาง ก็ไปเลื่อนรถให้”  นี่คือปากคำของชายหนุ่มที่อธิบายว่าทำไมจอดรถขวางครอบครัวดาราจนเอารถออกไม่ได้ ก่อนที่แฟนสาวของเจ้าตัวจะทำการโพสต์วิจารณ์ภรรยาของดาราคนดังกล่าวอย่างถึงลูกถึงคนประหนึ่งว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด 

จนถึงกรณีล่าสุดที่เพื่อนบ้านตัวแสบที่จอดขวางหน้าบ้านของฝ่ายผู้เสียหายไว้จนไม่สามารถจะออกจากบ้านได้  ไม่เคยเลิกพฤติกรรมที่บอกพร้อมยังทิ้งจดหมายน้อยพร้อมถ้อยความแสบๆว่า “นี่มันที่สาธารณะ ใครจะไปตรัสรู้ว่าออกจากบ้านตอนไหน”  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ความน่ากลัวอยู่ที่ทั้ง 3 กรณีที่กล่าวมา คนจอดรถขวางไม่ได้สำนึกจริงๆ ว่าตัวเองผิด พร้อมทั้งตั้งคำถามกับทั้งสังคมและผู้เสียหายว่าก็มีเหตุผลแบบนี้ ทำไมไม่เข้าใจเหตุผลบ้างล่ะ?  พอเจ้าตัวมองแบบนี้ ความผิดของเขาจะเล็กลงทันที แล้วเขาจะมองเห็นแต่ความรุนแรงของกระแสสังคมและการเอาเรื่องของฝ่ายตรงข้ามที่ถาโถมเข้ามา แต่มองไม่เห็นความไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวมของตนเอง จึงเท่ากับปัญหาไม่เคยถูกแก้เลย ตามที่เรามักจะได้ยินเจ้าตัวพูดออกสื่อ  ในหลายๆ กรณีว่าก็จอดแบบนี้ตลอดนะ ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เลย ทั้งที่จริงๆ เป็นเพราะบังเอิญในครั้งนั้นโชคดีที่ไม่มีเรื่องต่างหาก

เพราะเราต่างเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน

นอกจากความมักง่าย คิดน้อยของผู้ที่จอดขวางแล้ว เหตุผลข้อนี้คือปัจจัยหลักที่ทำให้ปัญหาจอดรถขวางหยั่งรากลึกและไม่เคยหายไป มีแต่จะเติบโตตามปริมาณรถและปริมาณคน คือ ทั้งเจ้าของรถและเจ้าของบ้านหรือผู้ที่ถูกจอดขวางต่างเป็นคนแปลกหน้าที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ฝ่ายคนจอดพอไม่รู้จักก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเกรงใจ คิดแต่จะไปทำธุระของตัวเองก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน ซึ่งถ้าเป็นคนรู้จัก เราจะรู้ว่าใครบ้างที่อยู่ในบ้าน เขาจะเข้าจะออกเวลาไหน เราจอดแบบนี้เขาจะเดือดร้อนนะ ไม่เอาไม่จอดดีกว่า        

ขณะเดียวกัน ถ้าคนที่มาจอดรถไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเจ้าของบ้าน ในหลายๆ กรณีก็น่าจะพออลุ่มอะหล่วยกันได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตทุกครั้ง อย่างที่เห็นๆ กันมา

พอมองแบบนี้แล้ว ทางออกเดียวของปัญหาการจอดรถขวางก็พอมีทางแก้ คือ เราต้องลดความเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน 

ฝ่ายผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านนั้นอาจจะต้องทำการบ้านในการหวงหน้าบ้านกว่าเดิม จากป้ายประกาศอาจจะเปลี่ยนเป็นการวางของกั้นให้จอดไม่ได้ไปเลย แบบที่หลายๆบ้านทำแล้วได้ผล ขอให้มองว่าเป็นการสื่อสารที่ดีขึ้น ให้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นว่าจอดไม่ได้นะ เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง

ขณะที่ฝ่ายผู้ต้องการจอด ที่ต่างก็ยืนกรานว่าไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความเดือดร้อน แต่มันจำเป็น  ขอให้ระลึกเสมอว่าที่ที่คุณกำลังจะจอดนั้นไม่ใช่บ้านคุณ เป็นพื้นที่ที่คุณใช้ร่วมกับคนอื่น การใส่เกียร์ว่างหรือเขียนเบอร์โทรศัพท์กับชื่อทิ้งไว้ให้ตามได้คือมารยาทที่พึงกระทำ

ไม่มีใครเป็นคนแปลกหน้า เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราจะคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้  ถึงแม้การจอดรถขวางจะผิดกฎหมาย สามารถแจ้งความดำเนินคดีหรือโทรแจ้งตำรวจได้ แต่หากใส่ใจเพียงเล็กน้อยตั้งแต่ก่อนจอด ก็ย่อมจะดีกว่าที่ความสูญเสียก็จะไม่ลุกลามเกินไป 

แค่คำว่า “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” เท่านั้นเอง

ขอบคุณข้อมูล

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1843854

https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_1848821

https://www.dailynews.co.th/entertainment/677900

https://www.thaipost.net/main/detail/22318

https://www.thairath.co.th/content/1208335

ภาพประกอบ

https://www.springnews.co.th/social/385094

ความเห็น 124
  • S.
    แนะนำให้บริษัทลากรถ มาผูกกับตำรวจ สน ต่างๆ ใครจอดขวางมีสายด่วน มาลากรถไป สน จ่ายค่าปรับ+ค่าลาก คันละ 10,000 บาท
    22 พ.ย. 2561 เวลา 11.15 น.
  • คณพศ เจริญรุ่งเรือง
    กลับมาเขียนด่าเขาอีกแสดงว่า ไม่มีจิตสำนึก
    22 พ.ย. 2561 เวลา 11.33 น.
  • 🎹 Oum 😎
    ไร้สำนึก ต่ำทราม ไร้การศึกษา
    22 พ.ย. 2561 เวลา 13.19 น.
  • ผู้เฒ่า
    ทำไมไม่อาศัยรถสาธารณะหรือวิน/แกร๊ป มีปัญญาซื้อรถ แต่ไม่มีสติที่จะหาที่จอดรถโดยไม่รบกวนคนอื่น บางคนจอดอีกซอย แต่บ้านตัวอยู่อีกซอยนึง รึกลัวว่าบ้านใหญ่จะตามเจอ แถมบางคนจอดไม่สนใจโลก กรูเข้ามาสภาพไหนก็จอดแม่งยังงั้น เหมือนหมามุดรูหางโผล่ช่างมันกรูไม่เห็นก้อแล้วไป ส่วนใหญ่เช่าบ้านเขาอยู่ ไม่ใช่บ้านตัวเองหรอก!!!
    22 พ.ย. 2561 เวลา 11.46 น.
  • Ros.Sirisak
    ได้ๆๆๆ ไอ้คนไหนอยากมาจอดขวางหน้าบ้านผมจอดได้.. แต่ติดต่อประกันเครียกับประกันไว้ก่อนจอดนะครับ เพราะอาจมีทำสี รึปะผุ ทำประตูรถใหม่...
    22 พ.ย. 2561 เวลา 11.29 น.
ดูทั้งหมด