แพร่สะพัดบนโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว สำหรับไอเดียสร้างสรรค์ที่สำคัญคือ “ช่วยเหลือสังคม” กรณี “น้ำดื่มสิงห์” พิมพ์ภาพ “เด็กสูญหาย” พร้อมข้อมูลของเด็ก ลงบนฉลากข้างขวด โดย เว็บไซต์ BizpromptInfo ระบุว่า จากเฟซบุ๊ก “Poramate Piensakul” ได้โพสต์ภาพขวดน้ำที่ตามหาเด็กหายซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นของน้ำดื่มสิงห์ โดยระบุข้อความว่า
“ขอชื่นชมเลยครับ ดื่มน้ำ แล้วช่วยสังเกตฉลาก เด็กหายตามภาพ ด้วยครับ” จากเฟซบุ๊ก “y.@tangbooyr” และได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2560 เคยมีผู้ประกอบการน้ำดื่มในจังหวัดร้อยเอ็ด แบรนด์ “ดริ้งค์รีพับบลิค” ร่วมกับ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา พิมพ์ภาพเด็กหาย ติดไปกับขวดน้ำดื่มที่วางจำหน่ายในจังหวัดร้อยเอ็ดมาแล้ว แต่อาจเห็นผลน้อยและเป็นข่าวไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะเป็นผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นที่มีช่องทางจำหน่ายไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ และโลกโซเชียลยังไม่แพร่หลายในวงกว้างเหมือนเช่นปัจจุบัน แต่ก็ต้องขอชื่นชมในความกล้าและเป็นผู้เริ่มอย่างแท้จริง
ก้าวเริ่มของ ดริ้งค์ รีพับบลิค เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และก้าวเดินของ สิงห์ ในวันนี้ จึงนับได้ว่า เป็นไอเดียที่น่าชื่นชมอย่างมาก เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า พลาสติก เป็นหนึ่งในภัยร้ายที่ก่อให้เกิดขยะท่วมโลก จนเกิดการรณรงค์ในหลากหลายรูปแบบเพื่อลดปริมาณการใช้ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ 3R ได้แก่ 1.Reduce การลดการใช้ 2. R : Reuse การนำกลับมาใช้ซ้ำ และ 3. R : Recycle การนำกลับมารีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งปัจจุบันองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะผู้ผลิตพลาสติกต่างให้ความสำคัญกับ 3 กลยุทธ์นี้อย่างมาก เพื่อร่วมช่วยสังคมและลดปริมาณขยะจากพลาสติก
แต่ยังมีน้อยมากที่มองเห็นการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงสังคม อย่างเช่น บุญรอดบริวเวอรี่ เจ้าของน้ำดื่มสิงห์ทำจากกรณีนี้ เพราะสามารถช่วยสังคมได้อย่างมาก จากการใช้ขวดน้ำดื่มสิงห์ ที่มียอดขายถึงปีละ 1,200 ล้านลิตร มีช่องทางจำหน่ายครอบคลุมทั้งช่องทางร้านค้ารายย่อยหรือโชห่วย ไปจนถึงโมเดิร์นเทรด ร้านอาหาร โรงแรม โดยมีส่วนแบ่งตลาด 21% และตั้งเป้าปีนี้จะเพิ่มเป็น 23% จากตลาดรวมน้ำดื่มในประเทศไทยมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท
การที่น้ำดื่มสิงห์ มีวางจำหน่ายครอบคลุมในทุกช่องทาง นั่นหมายความว่า จะเป็นสื่อที่ดีที่สุดในการช่วยประชาสัมพันธ์ และสื่อสารกรณีเด็กหาย เพื่อให้ได้ผลตอบรับช่วยกันสอดส่องจากผู้คนทั่วประเทศที่พบเห็นและรับรู้ข้อมูลจากขวดน้ำสิงห์ ซึ่งหากทำได้ในทุกขวดและทุกช่องทาง แน่นอนว่าจะเห็นผลได้ดีกว่าการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อทั่วไป เพราะเป็นของที่อยู่ในมือผู้บริโภคเมื่อซื้อดื่ม และมีโอกาสสูงมากที่จะอ่านเมื่อเห็นภาพ
งานนี้ สิงห์ร่วมกับ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เพื่อชิมลางโครงการดังกล่าว และจะดียิ่งขึ้นหากสามารถทำได้ในระยะยาว เพราะนั่นจะสื่อว่า “สิงห์” เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง
และแน่นอนว่า ผลที่ได้นอกจากความชื่นชมแล้ว ยังสะท้อนกลับไปถึงยอดขาย เพราะย่อมเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ในความรู้สึกของผู้บริโภค และสร้างแต้มต่อเหนือคู่แข่ง
แต่อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นเรื่องของการช่วยเหลือสังคม มากกว่าการตลาด จึงอยากสื่อไปถึงแบรนด์น้ำดื่มรายอื่นว่า หากร่วมมือกันทำโครงการนี้อย่างจริงจัง โดย “ไม่ต้องคิดว่าใครทำก่อนหลัง” คิดเพียงการร่วมช่วยเหลือบรรเทาทุกข์กรณีเด็กสูญหาย จะเกิดคุณค่าที่ยิ่งใหญ่และจรรโลงสังคมไทยได้มากมาย และท้ายที่สุดแบรนด์เองจะได้ภาพลักษณ์ที่ดีโดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณาเลย
คุณ อรรถ. cnk สื่อได้ทุกที่ เห็นได้ตลอด ทิ้งแล้วยังเห็น มีประโยชน์มาก.
28 ก.ค. 2562 เวลา 05.13 น.
สนับสนุนนะ
28 ก.ค. 2562 เวลา 04.33 น.
อหิงสา สุดยอด
นับถือ
ผู้โฆษณา
28 ก.ค. 2562 เวลา 05.30 น.
Dan Dan ดีมากๆครับช่วยกันเยอะๆ
28 ก.ค. 2562 เวลา 04.18 น.
นิตรังสัท กู๊ดดดดอายเดีย👌
28 ก.ค. 2562 เวลา 05.29 น.
ดูทั้งหมด