หุ้น การลงทุน

‘ดาวโจนส์’ พุ่ง 391.41 จุด ขานรับ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 20 ม.ค.

The Bangkok Insight
อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • The Bangkok Insight

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (17 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" พุ่ง 391.41 จุด ก่อนที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (20 ม.ค.)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ล่าสุดอยู่ที่ 43,544.54 จุด เพิ่มขึ้น 391.41 จุด หรือ 0.91% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 5,999.83 จุด เพิ่มขึ้น 62.49 จุด หรือ 1.05% และดัชนีแนสแด็กที่ 19,630.35 จุด เพิ่มขึ้น 292.06 จุด หรือ 1.51%

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดาวโจนส์

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 3.6% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และมีแนวโน้มทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดรายสัปดาห์นับตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน 2567 หลังการประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายทรัมป์

นักลงทุนคาดการณ์ว่า นโยบายของนายทรัมป์ในการปรับลดอัตราภาษีของภาคธุรกิจ และการผ่อนคลายกฎระเบียบ จะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยเอื้อให้ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นต่อไป

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

การซื้อขายในสัปดาห์นี้ยังได้ปัจจัยบวก จากการชะลอตัวของเงินเฟ้อสหรัฐ การประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้ บริษัทจำนวน 28 แห่งในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2567 แล้ว โดยบริษัท 82% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะเดียวกัน การซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเป็นสมาชิกถาวรของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่ว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ หากเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวต่อไป

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เขายังคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และจะลดดอกเบี้ยอีกหลายครั้งตามมา หากมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ และการว่างงานที่เอื้อต่อการดำเนินการดังกล่าว

FedWatch Tool ของ CME Group ล่าสุด บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนมิถุนายน แต่ก็ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมสู่ระดับ 50% และเพิ่มน้ำหนักสู่ระดับ 55% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปี 2568

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx

ดูข่าวต้นฉบับ