บันเทิง

เชอรีน เปิดใจทั้งน้ำตา อดีตสามีทำร้ายร่างกาย-คุกคาม รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย!

The Bangkok Insight
อัพเดต 23 ก.ค. เวลา 04.27 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. เวลา 04.22 น. • The Bangkok Insight

เชอรีน ณัฐจารี น้องสาวนิชคุณ เปิดใจทั้งน้ำตา อดีตสามีทำร้ายร่างกาย-คุกคาม จนรู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย!

จากกรณีที่ นักร้องสาว เชอรีน-ณัฐจารี หรเวชกุล หรือเชอรีน เดอะสตาร์ ได้เดินทางไปยัง สน. ทองหล่อ พร้อมกับทนายความ ทนายแก้ว มนต์ชัย เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามี ที่ทำร้ายร่างกาย จนต้องแยกทางกัน และทุกวันนี้ยังข่มขู่คุกคาม ให้คนตามรังควานไม่เลิก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เชอรีน เปิดใจ อดีตสามีทำร้ายร่างกาย-คุกคาม รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย!

ล่าสุด (23 ก.ค.)เชอรีน ได้เปิดใจก่อนเดินทางเข้าไปแจ้งความอดีตสามี โดยเธอบอกว่าวันนี้ก็เดินทางมาแจ้งความ เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ ตั้งแต่แต่งงานกันและมีลูกด้วยกัน หลังจากที่ประกาศเลิกไม่มีการทำร้ายร่างกาย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตั้งแต่คบหากัน คลอดลูกออกมา ครั้งแรกมีการทะเลาะกัน มีอาการมึนเมา ถูกตบเข้าที่หน้า ตบหลายครั้งจนปากแตก จริง ๆ ครั้งแรกก็รุนแรงมากเหมือนกัน ครั้งสุดท้ายคือถูกตบหลายครั้ง ตอนนั้นนอนอยู่บนเตียง แล้วเขานั่งอยู่ข้าง ๆ เหมือนจะพยายามให้ตอบคำถามเขาตบเข้าที่หน้า ตอบสิ ๆ เคยตอบโต้ไปแล้วมันจะรุนแรงขึ้น

ทำไมไม่แจ้งความเพราะตอนแรกอยากประคับประคอง ครอบครัว ไม่อยากเป็นข่าวมีเรื่องราว มันจะกระทบถึงลูกด้วย รู้สึกว่าตอนนี้ไม่ปลอดภัยแล้ จริง ๆ ทุกครั้งคือมีอาการมึนเมา ก่อนที่จะมีลูกไม่เคยทำร้ายร่างกาย เขาบอกเมา ขาดสติ เขาขอโทษ จะไม่ทำอีก ครั้งแรกเดือนพฤษภาคม 2565 ครั้งที่สองเดือนกรกฏาคม 2565 ครั้งที่สามเดือนเมษายน 2566 ครั้งสุดท้ายเดือนกันยายน 2566 มีภาพ แชทข้อความที่คุยกัน คลิปเสียงต่าง ๆ

สาเหตุหลัก ๆ เกิดการจากความหึงหวง มีอารมณ์รุนแรงค่อนข้างหนักอยู่แล้ว ในเวลาอื่น ๆ ไม่ได้มึนเมาก็มีอาการหึงหวงรุนแรงอยู่แล้วด้วย ส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดกัน เคยคุยกัน คุยกับแม่ ขอขมา มีการพูดคุย สัญญาทุกครั้ง ตอนแรกคิดว่าจะหยุดไหม หรือทนไหม มีลูกแล้วไม่อยากทำให้ครอบครัวแตกแยก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เวลาทำร้ายร่างกายก็คืออยู่คนละห้องกับลูก ไม่เคยทำร้ายลูก ช่วงแรก ๆ น้องยังเด็กมากไม่รู้เรื่อง อะไรที่ทำให้ตัดสินใจแยกทางกับอดีตสามีคือคิดว่ามันถึงขั้นเป็นห่วงชีวิตตัวเองแล้วในวันที่เกิดเหตุการณ์ ถูกคุกคามไม่รู้ถึงขั้นชีวิตไหม วันนั้นวิ่งตัวเปล่าออกจากบ้าน มีแค่มือถือเครื่องเดียว วิ่งออกมาเท้าเปล่าโทรหาเพื่อนใกล้เคียงให้พาหนีออกมา ลูกตอนนั้นอยู่กับพี่เลี้ยงอีกห้อง แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรลูก คิดว่าน่าจะปลอดภัย

การตกลงเรื่องลูก ถ้าลูกอยู่กับฝ่ายไหน อีกฝ่ายก็ไม่ต้องส่งเสียอะไรเลย เธอขอเลือกให้ลูกอยู่กับตน วันก่อนเขาโทรมาว่าเขารู้ได้หมดว่า เธอเข้า-ออกบ้านกี่โมง ไปไหนกับใคร เขารู้หมดเลย เขาโทรไปบอกแม่ด้วยว่าออกจากบ้านกี่โมง เขาอ้างว่าเป็นห่วงลูก เลยให้คนดูมาเชอรีนมีเวลาอยู่กับลูกไหม

ตั้งแต่ที่เป็นสามีภรรยาแต่งงานกัน ก็มีปัญหาอารมณ์รุนแรง ทะเลาะค่อนข้างบ่อย ทำอะไรก็ตามใจเขา ก่อนมีลูกเขาดูแลดีมาก ๆ ให้แต่งตัวได้ เจอเพื่อนได้ แต่หลังแต่งแล้ว แต่งตัวไม่ได้ เจอเพื่อนไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ตอนนั้นก็ได้แต่ทำใจ อยู่กับลูกให้มีความสุขที่สุด ไม่ไปไหนก็ได้ พยายามมองในมุมที่ดี ได้มีการคุยกับครอบครัวแล้ว

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้สึกหวาดระแวง ชีวิตไม่ปลอดภัย กลัวไปหมด หลังจากที่เลิกกันช่วงแรกก็ได้เจอ เพราะอยากให้ลูกได้เจอพ่อ แต่ทุกครั้งที่เจอก็จะกลัวเขามาก ๆ กลัวเขาจะไปถึงขั้นไหนอีก ทุกวันนี้ถูกติดตาม พูดจาแบบนี้รู้สึกตัวเองไม่ปลอดภัยเลย

หากอีกฝ่ายอยากไกล่เกลี่ย ไม่คุยด้วย ให้คุยกับทนายความ อยากให้เขาเลิกยุ่งกับชีวิตตนแค่นั้นเลย เคยเตือนเขาไปแล้วถ้าเขาไม่หยุดก็คงต้องทำอะไรสักอย่างเหมือนกัน ขอให้เขาหยุด ที่บ้านก็ซัพพอร์ตทุกอย่างที่ตนเลือกอยู่แล้ว ชีวิตทุกวันนี้ก็พยายามใช้ชีวิตต่อเพราะต้องดูแลลูกเองทั้งหมด พยายามทำงาน หาเงิน เพราะก่อนหน้านี้หยุดชีวิตไปเพื่อครอบครัวมานานแล้ว พยายามเป็นแม่ที่มีสุขภาพจิตที่ดีฝากถึงอีกฝ่ายก็ขอให้หยุดได้แล้ว พอเถอะ สงสารลูก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ