ปัญหาหนี้สินขยายวง ครูบำนาญโคราชนับพันคนจ่อถูกฟ้องล้มละลาย เกือบล้านคนประสบปัญหาสัดส่วนการหักเงินใช้หนี้ ทำหนี้พะรุงพะรัง
เมื่อเวลา13.30 น. วันที่3 มิ.ย. ที่หอประชุมพระบรมราชสมภพ200 ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่4 วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา ครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสถานศึกษาในพื้นที่32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา จำนวน210 คน
ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูบำนาญที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สิน ร่วมประชุมกับเครือข่ายประชาชนแก้หนี้สินแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจ5 เรื่อง คือ1.รู้จักตนเอง2.รู้เท่าทันสหกรณ์และสถาบันการเงิน3.เครื่องมือระเบียบ ปี2551 4.ระบบและกลไกเพื่อการขับเคลื่อน5.เป้าหมายชีวิต
นายสมพูล วรรณทอง ผู้แทนเครือข่าย ปชช.แก้หนี้สินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดเวทีให้ความรู้และหาทางออกปัญหาหนี้สินมีสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการหักเงินเดือนไม่เป็นไปตามข้อกำหนด30 % ขณะนี้มีครู900,000 คน จากจำนวน1,400,000 คน ทั่วประเทศ ประสบปัญหา30 % ทิพย์ ต้องเฉลี่ยหนี้ให้ลูกหนี้สามารถดำรงอยู่ได้
โดยจัดสรรเงินเดือน70% ใช้หนี้ เพื่อให้เหลือเงิน30 % ความเป็นจริงสหกรณ์ครูและสถาบันการเงินหักไปหมด หากปล่อยปละละเลยจะมีครูเข้าสู่กระบวนการถูกฟ้องล้มละลายนำไปสู่การขายทอดตลาด ทั้งที่ดินและสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อชำระหนี้สิน ดังนั้นรัฐบาลต้องออก พ.ร.ก ชะลอการฟ้องและการขายทอดตลาด ดำเนินการคู่ขนานเจรจาไกล่เกลี่ยนำไปสู่การฟื้นฟูและเฉลี่ยชำระหนี้สินอย่างเป็นธรรม
นางอรณี กระจ่างโพธิ์ ผู้ประสานงานกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนครูสู้คดี เปิดเผยว่า คำพิพากษาศาลปกครอง วันที่26 กันยายน2562 ให้ครูใช้หนี้จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ70 % และเหลืออีก30 % เป็นเงินค่าครองชีพ ความเป็นจริงสหกรณ์ครูและสถาบันการเงินไม่ได้ยึดถือข้อปฏิบัติได้หักเงินเดือนตั้งแต่ต้นทางทำให้หลายรายเงินเดือนติดลบ เสมือน30 % ทิพย์ ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ยกเป็นปัญหาระดับชาติและสรรหาผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ทุเลาลง จะทำให้ให้ครูมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทุ่มเทการสอนได้อย่างเต็มความสามารถ
นายสมปอง อินทรสอน ข้าราชการครูบำนาญ กล่าวว่า ขณะนี้มีเพื่อนครูในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ประมาณ2,300 คน อยู่ระหว่างสถาบันการเงินยื่นฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายและอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันต้องชดใช้หนี้สินแทน น่าเป็นห่วงกลุ่มที่ยังรับราชการหากไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขต้องถูกให้ออกจากราชการ เมื่อเกษียณราชการ เงินที่ได้จากตำแหน่งและวิทยฐานะถูกตัดออกรวมทั้งหักเงินชำระหนี้ ทำให้เงินที่ได้รับไม่ถึง30 % รัฐบาลต้องแก้ไขปรับเปลี่ยนข้อกฎหมาย เช่นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไม่จำเป็นต้องมีแหล่งเดียว ถือเป็นการผูกขาดและเป็นแหล่งขุมทรัพย์รวมทั้งพิจารณาขยายระยะเวลาการชำระหนี้และลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นธรรม
นางโสภา จันทฉายา อดีตครูผู้สอนโรงเรียนประถมชื่อดัง ยินดีต้องการเปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่ ว่า สถานะมีหนี้สินร่วม4 ล้านบาท ยังไม่รวมหนี้จากการค้ำประกันในกลุ่มเพื่อนครูโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูของสถาบันการเงิน ซึ่งต้องจับกลุ่มรวมกัน5 คน ล่าสุดถูกฟ้องล้มละลาย2 คน ทำให้ผู้ค้ำถูกร่างแหเฉลี่ยต้องชดใช้หนี้แทนประมาณ1 ล้านบาท
ขณะนี้อยู่ขั้นตอนของการบังคับคดี ส่วนสามีเสียชีวิตเมื่อ15 ปี ที่ผ่านมา ปัจจุบันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีรายได้เดือนละ6-7 พันบาท จากการเพาะพันธุ์ขายไม้ด่างที่ตลาดนัดรวมทั้งสอนพิเศษ ซึ่งดูแลแม่อายุ87 ปี ลูกชายพิการติดเตียงรวมทั้งหลานประสบอุบัติเหตุจนพิการเป็นภาระต้องเลี้ยงดูทั้งหมด4 ชีวิต อาศัยเบี้ยคนพิการแบ่งเบาภาระ
นายสิทธิชัย แก้วคำ ผมก็ครูเงินอย่างเดียว ไม่มีหนี้ หลักการเดียว อย่าใช้เงินเกินจากเงินเดือน.จบ
03 มิ.ย. 2566 เวลา 12.55 น.
ครูใช้เงินเกินตัวจริงๆ ที่จริงเงินเดือนของคูรก็ไม่น้อยเลย จะเรียกร้องอะไรกันนักกันหนา ให้รู้จักพอบ้างนะ
03 มิ.ย. 2566 เวลา 12.22 น.
แก้ว มาลูน * ครูจนๆ มาประชุมสหกรณ์ครูรถหรูคันใหญ่ทั้งนั้น ไม่มีที่จอด มาคนละคัน.
03 มิ.ย. 2566 เวลา 11.43 น.
Nattapong ใช้เงินเกินตัวมันจะมีอะไรนอกจากหนี้
03 มิ.ย. 2566 เวลา 11.57 น.
Off งั้นพ่อแม่เราคงเป็นส่วนน้อยของครูที่ไม่มีหนี้สิน ทุกวันนี้ มีความสุขกับบำนาญและท่องเที่ยว จน เรา ที่ทำเอกชน ยังอิจฉา555
03 มิ.ย. 2566 เวลา 12.38 น.
ดูทั้งหมด