สหรัฐ-จีนพักยกสงครามการค้าภายหลังการเจรจารอบที่ 13 ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสฯและศุกร์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้าเข้าจีนจากอัตรา 25% เป็น 30% มูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคารนี้เพื่อแลกกับการที่จีนตกลงที่จะซื้อผลผลิตเกษตรของสหรัฐเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์
ทำเนียบขาวแถลงถึงการบรรลุข้อตกลงการค้าบางส่วนกับจีนล่าสุดซึ่งสหรัฐจะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อแลกกับการที่จีนเสนอซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐในจำนวน 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้สหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงขั้นต้น นอกเหนือจากการซื้อสินค้าเกษตรซึ่งครอบคลุมถึงการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา การเปิดเสรีการเงินและ Currency Pack ที่มีเป้าหมายสกัดจีนลดค่าเงินหยวนและการใช้มาตรการอุดหนุนเพื่อคงความได้เปรียบการค้า
ทางการสหรัฐระบุว่าการเจรจาทำข้อตกลงการค้ากับจีนส่วนใหญ่จะยังเดินหน้าต่อไปเพื่อที่ลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีนและทำการปรับปรุงแก้ไขแนวปฏิบัติทางด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการบังคับให้บริษัทสหรัฐที่เข้าไปลงทุนในจีนต้องถ่ายโอนเทคโนโลยี
ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ระบุในทวิตเตอร์ช่วงสุดสัปดาห์เกี่ยวกับการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีกับจีนในกรุงวอชิงตันรอบนี้มีสิ่งดีๆกำลังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นกว่าการเจรจาหลายครั้งที่ผ่านมาเหมือนกับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขกับสิ่งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น
โดยผู้นำสหรัฐอาจจะมีการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G-20 ในเดือนพฤศจิกายนนี้เพิ่อให้เกิดความก้าวหน้าต่อจากการระงับเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ที่กำหนดในวันที่ 15 ตุลาคมออกไป
ส่วนขั้นตอนการเจรจรต่อไปในอีก 3-4 สัปดาห์จากนี้จะเป็นการทบทวนมาตรการเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 160,000 ล้านดอลลาร์ที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ขณะเดียวกันจีนก็จะทบทวนถึงการเรียกเก็บภานำเข้าสินค้าสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 10-15% มูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์จากที่เรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นไปแล้ว 110,000 ล้านดอลลาร์
ทางด้านหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวกับประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในความพอใจต่อความคืบหน้าในหลายด้านโดยในวันนี้ทางการจีนได้ตอบรับด้วยการประกาศให้บริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในจีนสามารถที่จะจัดตั้งเป็นบริษัทของตัวแทน การเป็นบริษัทร่วมทุนรวม ทั้งการเปิดเสรีให้กับการทำธุรกรรมในตลาดเงินของจีนที่เป็นเสรี
ตลอดช่วงเวลา 22 เดือนท่ามกลางบรรยากาศสงครามการค้าทั้งสหรัฐและจีนต่างก็ประกาศมาตรการตั้งกำแพงภาษีเพื่อตอบโต้ข้อพิพาทการค้าระหว่างกัน แต่ล่าสุดจีนเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศยังคงมีการขยายตัว 2.8% ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ที่มีมูลค่าการค้าที่ระดับ 22.91 ล้านล้านหยวนหรือราว 3.23 ล้านล้านดอลลาร์
โดยเป็นการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.2% ส่วนการนำเข้าลดลง 0.1% ส่งผลให้จีนมีการยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้น 44.2% เมื่อเทียบระยะเดียวกันปีก่อนเป็นมูลค่า 2.05 ล้านล้านหยวน
ถึงแม้ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในรอบที่ 13 ครั้งนี้จะช่วยคลี่คลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นหลังจากปีที่แล้วสินค้าเกษตรสหรัฐที่ส่งออกไปยังจีนลดลงอย่างหนักถึง 53% สู่ระดับมูลค่าเพียง 9,200 ล้านดอลลาร์ การที่จีนยอมซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐระลอกใหม่จะช่วยบรรยากาศการคหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ แต่หลายคนยังเชื่อว่าการเจรจาเพื่อให้ได้ข้อตกลงทางการค้าน่าจะยังคงยื้อไปจนถึงหลังการเลือกตั้งปลายปี 2020
BigChay ขอบคุณครับ 33.3: 33.3 : 33.4 ไม่โอเค 50: 50 แบบนี้โอเค
15 ต.ค. 2562 เวลา 06.59 น.
ทัศน์ More.. To continue.. Done... Boss!!!
15 ต.ค. 2562 เวลา 03.29 น.
ขึ้นเครื่องบินไป ถ่ายรูปไปประชาชนอิจฉาล่ะซิสง่างามจริงๆเงินเดือนก็เยอะกว่าใครเค้า.
15 ต.ค. 2562 เวลา 02.30 น.
Smk'd ด้อยพัฒนาไม่เข้าใจก็เงียบๆไว้จ้า
14 ต.ค. 2562 เวลา 11.53 น.
dad สงบศึกการค้าชั่วคราวหรือไม่?นั้น ปัญหาหลักๆ คือ ตัวไอ้ ปธ.ทรัมป์ มันพูดวันนี้ขอสงบศึกการค้า พรุ่งนี้ มันก็กลับคำ ทำอีก เก็บภาษีเพิ่ม หรือไม่ก็ถอดถอน บ.จีน ออกจากตลาดหลักทรัพย์หรืออย่างไรอย่างหนึ่ง ขึ้นมาอีก นั่นแหละ...........
14 ต.ค. 2562 เวลา 11.49 น.
ดูทั้งหมด