เขียนโดย @mint.nisara
"การเมือง ปรัชญา ศาสนา" 3 หัวข้อที่ผู้ใหญ่ชอบบอกว่าอย่าไปคุยกับใครเขา เพราะจากบทสนทนาเล็กๆ จะกลายเป็นการทะเลาะเบาะแว้งที่ใหญ่หลวงได้ ซึ่งเป็นความจริงหมดทุกประการ เแต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่ลืมเตือนเราตอนเด็กๆ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ "การเงิน" มาเอี่ยวในเรื่องเมื่อไร กลายเป็นความพังเมื่อนั้น จากการที่ได้คุยกับหลายๆ คน ประสบการณ์พวกนี้เจอมาเหมือนกันหมดโดยเฉพาะเรื่องยืมเงินและเป็นการโดนยืมจากคนที่ไม่ค่อยจะสนิทเสียด้วย
เล่นเองเจ็บเอง ไม่ใช้สแตนด์อินกันทุกราย สรุปง่ายๆ ได้เป็น 4 ช่วงเวลา มาเช็กกันหน่อยสิว่า "แล้วคุณล่ะ เคยโดนกับตัวมาเหมือนกันบ้างไหม?"
ช่วงที่ 1 : ร้อยวันพันปีไม่เคยคุยกัน แต่…
"แกกกกก แกพอมีเงินให้ฉันยืมสัก XX,XXX บาท มั้ย" LINE เด้งมาปุ๊บ เราถึงกับต้องคิ้วขมวดส่องชื่อไอดีว่าใครกันนะที่ส่งมา ก็แหม ร้อยวันพันปีที่แอ้ดเฟรนด์กันมาไม่เคยจะทักมาเลยสักครั้ง สติกเกอร์ส่งมา Happy New Year ก็ไม่เคยมี แต่ประโยคแกรนด์โอเพนนิ่งก็ตรงเข้าประเด็นเลยว่ามีเงินให้ยืมหน่อยไหม เพื่อนเดือดร้อนจริงๆ นะ ภาระเยอะ หมุนเงินไม่ทัน แม่ป่วย และเหตุผลอีกสารพัดที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบายให้อ่านจนแบบที่ว่าเราต้องสงสาร
ช่วงที่ 2 : ความลังเลในจิตใจ
"เพื่อนลำบากเราก็อยากช่วยเพื่อน ถึงจะไม่ค่อยได้ติดต่อกันแต่เขาก็คือเพื่อน!"
ถึงจุดนี้ศีลธรรมในจิตใจก็จะเริ่มต่อสู้กับความขี้งกในตัว เสียง 1 บอกว่าให้เถอะเพราะถ้าเพื่อนเดือดร้อนก็ควรจะช่วยเหลือ แต่เสียง 2 ก็ถามสอดขึ้นมาเลยว่าแล้วถ้าให้ยืมแล้วเงินจำนวนนี้ปลิวไปเลยล่ะ จะกล้าทวงเพื่อนไหม แต่สำหรับมือใหม่ทั้งหลายแล้ว เสียง 1 มักจะชนะเสียง 2 เสมอ จบด้วยการ LINE กลับไปว่า "ส่งเลขบัญชีแกมา เดี๋ยวชั้นโอนให้"
ช่วงที่ 3 : นาทีแห่งความเงียบงัน…
หลังจากได้รับเงินไป ผ่านขั้นตอนการกล่าวขอบคุณแสนซาบซึ้งประมาณว่า "ถ้าไม่มีแก ชั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ" พร้อมสติกเกอร์หัวใจอีกประมาณล้านดวง เธอคนนั้นก็หายวับเข้ากลีบเมฆไปเลย หายไปชนิดที่ว่าน่าเป็นห่วง เป็นห่วงทั้งคนว่ายังสบายดีไหม แต่ที่น่าห่วงกว่าก็คือเงินเนี่ย จะได้คืนหรือเปล่าเอ่ย *กุมขมับ*
ช่วงที่ 4 : ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน
เมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องใช้เงินก้อนนั้นจริงๆ แล้ว เราก็ต้องเอ่ยปากทวงไง! มันคือความรู้สึกลำบากใจขั้นสุดเพราะนอกจากว่าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ต้องมานั่งคิดหาวิธีการทวงเงินที่เป็นมิตรมากที่สุดด้วย
ไลน์ไปก็แล้ว โทรไปก็แล้ว ข้อความน่ะไปไม่ถึงคนหรอก มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่ตอบกลับมา อะ ไม่เป็นไรๆ พยายามหาเหตุผลเข้าข้างอีกฝ่ายว่าเขาอาจจะกำลังเดือดร้อนอยู่ มีเรื่องอื่นๆ ที่กำลังเครียดอยู่ก็ได้ ตอนจบของเรื่องนี้มีอยู่ 3 ทางคือ
1) คุยกันอย่างเข้าใจ ได้รับเงินคืน ทุกอย่างจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งแต่เป็นจริงแค่ 10%
2) ได้รับข้อความตอบกลับมาในที่สุดแต่ในเชิงตัดพ้อว่าทำไมถึงไม่เข้าใจ แค่เรื่องเงินเล็กๆ น้อยๆ ทำไมถึงต้องทวงกันด้วย ได้รับเงินคืนแต่ก็จบด้วยความบาดหมางเบาๆ
3) ความเป็นนางเอกของเราถูกแปลงร่างเมื่อความแตก ไถไปเจอรูปบนอินสตาแกรมของ 'เพื่อนที่กำลังเป็นทุกข์เรื่องการเงิน' โพสท่าสวยกับกระเป๋าใบใหม่ที่เพิ่งถอยมา หรือมีคนมาฟ้องว่าคุณน่ะกำลังถูกหลอก ไม่ได้เงินคืน ทะเลาะกันแบบไฟลุกหัว ตัดขาดเพื่อนไปตลอดกาล
มาแชร์กันหน่อยว่าตอนจบของเรื่องคุณเป็นอย่างไร…
vannee 5555เหมือนกันเลย ไม่หนี ไม่มี ไม่จ่าย
06 เม.ย. 2562 เวลา 03.51 น.
Bee ให้ยืมได้ในปริมาณที่เราสามารถตัดใจได้ในกรณีไม่ได้คืนค่ะ
06 เม.ย. 2562 เวลา 03.05 น.
Panida (Too) ขอให้ทุกท่านจงทำใจ
เพราะคนทุกยุคทุกสมัย
เหมือนกันหมดเวลาเดือด
ร้อนเรื่องเงินก็จะพยายาม
เข้าไปยืมตอนยังไม่ได้ก็ตื้อ
พอได้ไปแล้วโทรทวงก็ไม่ให้
ไปหาที่บ้านคนยืมก็ำม่ยอมออก
มาพบหลบเลี่ยงตลอดเราจึงตั้ง
ต้องตั้งจิตอนิฐานถ้าชาติก่อนเรา
ไม่ได้เป็นหนี้ขอให้ลูกหลานๆเจอ
แต่กัลยานิมิตรที่ดีๆอย่าได้เจอ
อย่างที่เราเจอสาธุๆๆๆ
15 ธ.ค. 2561 เวลา 21.49 น.
ฉันก็เจอเพื่อนมันยืมไม่จ่ายหลายหมี่นมันหน้าด้านมันทำมาหากินไม่เจริญทำให้เราจนเป็นปีมันยืมเกือบ10ปีตอนนี้มันหลบหน้าอี่ห่า
19 ต.ค. 2561 เวลา 09.04 น.
noi เราไม่ได้คืนเสียเพื่อนไปด้วยแต่ก็ดีใจที่เพื่อนเลวๆออกจากชีวิตเราไป
12 ต.ค. 2561 เวลา 13.00 น.
ดูทั้งหมด