OfficeMate ทุ่มพันล้านเปิดคลังสินค้าไฮเทค หวังเป็นอาลีบาบาอาเซียน

OfficeMate เปิดคลังสินค้าไฮเทคอัจฉริยะย่านสุวินทวงศ์ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เดินหน้าตอบโจทย์ B2B Solution แปลงร่างจากขายอุปกรณ์สำนักงาน สู่ทุกสรรพสิ่งขององค์กร

อยากขยายตลาด ต้องเริ่มจากคลังสินค้า

OfficeMate ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเขียนรายใหญ่ของไทย ที่เน้นธุรกิจ B2B เป็นหลัก ปัจจุบันเป็นหนึ่งธุรกิจในเครือ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา OfficeMate ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่าง เพื่อให้เท่าทันต่อยุคสมัย ทั้งในเรื่องการปรับโครงสร้าง การบุกตลาดออนไลน์ ตอนนี้ได้อยู่ในกลุ่มธุรกิจ COL ของเซ็นทรัล กรุ๊ป

โดยที่ในปีนี้เป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ของ OfficeMate จากโจทย์ใหญ่ที่ต้องการอัพรายได้ระดับ “หมื่นล้าน” จำเป็นจะต้องขยายธุรกิจในหลายๆ อย่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหัวใจสำคัญอยู่ที่การบริหารคลังสินค้า และโลจิสติกส์ ทีเป้นตัวแปรสำคัญในการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค

OfficeMate จึงได้ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท ในการสร้างคลังสินค้าไฮเทคอัจฉริยะแห่งใหม่บนพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ถนนสุวินทวงศ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ เพราะเป็นพื้นที่อยุ่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม พร้อมกับอยู่ใกล้มอเตอร์เวย์ สามารถส่งสินค้าได้ยังทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออกที่อยู่ใกล้ที่สุด

วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) บอกว่า

“นับเป็นก้าวกระโดดของ OfficeMate ที่อยากอัพรายได้เป็นหลายหมื่นล้าน จากปัจจุบันมี 8,000-9,000 ล้านบาท จำเป็นต้องมีระบบคลังสินค้า และโลจิสติกส์มารองรับการเติบโตนี้ คลังนี้เป็นการทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงเป็นแหล่งดูงานของภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษาด้วย”

ใช้คนลดลง แต่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

คลังสินค้าไฮเทคอัจฉริยะแห่งใหม่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 45 ไร่  มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 30 ไร่ หรือกว่า 50,000 ตร.ม. รองรับสินค้าพร้อมส่งมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า บริการจัดส่งด้วยรถขนส่งที่พร้อมให้บริการลูกค้าทุกวันทำการมากกว่า 200 คันต่อวัน โดยมีเทคโนโลยีสำคัญๆ ได้แก่

• ASRS  (Automated Storage & Retrieval System)  :  เทคโนโลยีการจัดเก็บสินค้าในแนวสูงบนชั้นวางสูง 12 เมตร เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่เพื่อรองรับสินค้าพร้อมขายสูงสุด พร้อมค้นหาสินค้าอัตโนมัติและนำสินค้าออกด้วยแขนกลอัจฉริยะตามคำสั่งซื้ออย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว
• I-PACK (Automatic Forming & Packing System)  :  ระบบขึ้นรูปกล่อง ติดบาร์โค้ด และแพ็คกล่องสินค้า พร้อมสมาร์ทเซ็นเซอร์ที่วัดความสูงสินค้า เพื่อตัด พับ และปิดกล่องให้พอดีกับขนาดสินค้า ซึ่งช่วยลดความเสียหายระหว่างนำส่งสินค้า
• UNI-SHUTTLE : เทคโนโลยีการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติเพื่อรอนำส่ง โดยทำงานร่วมกับระบบ Route Planning เพื่อคำนวณเส้นทางการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้มั่นใจว่าลูกค้ากว่า 99% ของเรา จะได้รับสินค้าที่ถูกต้อง ครบถ้วน อย่างรวดเร็ว ตามมาตรฐานการบริการ*

ซึ่งคลังสินค้าเดิมที่ย่านหนองจอกเป็นการใช้ระบบแมนนวล ต้องใช้กำลังคนในการจัดการต่างๆ การย้ายมาที่ใหม่นี้มีการใช้คนน้อยลงในสัดส่วน 1 ใน 3 จากที่เดิมใช้ 600 คน เหลือเพียง 100 กว่าคนเท่านั้น แต่พนักงานคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ทำการเลย์ออฟแต่อย่างใด เพราะธุรกิจนี้มีการหมุนเวียนเข้าออกเยอะ บางคนก็มี Rotation ไปทำส่วนอื่นๆ ในเครือเซ็นทรัลได้

“คลังสินค้าเดิมมีพื้นที่เก็บสินค้า 15,000 ตารางเมตร ส่วนที่ใหม่มีพื้นที่ 22,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 35% แต่ในแง่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 500% รองรับ Transaction ได้มากกว่า 5 เท่า นี่คือผลของเทคโนโลยี ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ แต่จัดการอย่างมีประสิทธิภาพ”

ตอนนี้คลังสินค้าใช้พื้นที่ไป 60% แล้ว หรือประมาณ 30 ไร่ ยังเหลืออีก 15-16 ไร่ รองรับการเติบโตได้อีก 5 ปี อีกทั้งข้างๆ คลังสินค้ายังเป็นพื้นที่ของเซ็นทรัล กรุ๊ปอีกหลายร้อยไร่ สามารถทำให้เป็น DC ให้ประเทศได้เลย

เป้ารายได้หมื่นล้าน โตปีละ 15%

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา OfficeMate เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 9% โดยในปี 2561 OfficeMate ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 6,500,000 คำสั่งซื้อ แบ่งเป็นลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ 45% ลูกค้า SME 48% และภาครัฐ&ผู้บริโภค 7% โดยที่ช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างมา ติดเป็นสัดส่วน 26%

ช่องทางออนไลน์ที่มีการเติบโตมากนั้น เกิดจากการพัฒนาออนไลน์แพลตฟอร์มให้มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การช้อปของลูกค้า B2B โดยมีลูกค้าเข้าเว็บไซต์ officemate.co.th และ OfficeMate Mobile App กว่า 14 ล้านครั้งในปี 2561 นอกจากนี้ยังโฟกัสการให้บริการรับสั่งซื้อออนไลน์ภายในร้านออฟฟิศเมท (E-ordering @Store) ที่ปัจจุบันสร้างยอดขายคิดเป็นสัดส่วน 12% ของยอดขายร้าน  นอกจากนี้ ออฟฟิศเมทยังพบว่าลูกค้ากว่า 21% มีพฤติกรรมช้อปมากกว่าหนึ่งช่องทาง (Omnichannel) ซึ่งสร้างยอดขายได้มากถึง 49% ของยอดขายรวม

เป้าหมายของ OfficeMate คือต้องการมีรายได้ 10,000 ล้านบาท แล้วต้องมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% และเป็นเซอร์วิสที่ตอบโจทย์ลูกค้า B2B ครบวงจร