ไอที ธุรกิจ

ASP ชี้หุ้นลงแตะ1,300 จุด กังวลโควิด-19 คาด 1 เดือนรีบาวด์ แนะสะสม 8 หุ้นเด่น

Businesstoday
เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 07.22 น. • Businesstoday

ASP ชี้ดัชนีหุ้นปรับตัวลงแรงสู่ระดับ 1,300 จุด เป็นเพราะความกังวลไวรัสโควิด-19 คาด 1
เดือนรีบาวด์กลับหลังประเทศที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สามารถควบคุมความรุนแรงโรคได้ แนะเป็นโอกาสดีทยอยสะสม
8 หุ้นพื้นฐานดี ประกอบด้วย CPN, CPALL, DIF, MCS, AOT, WHA, PYLON และ CRC

ดัชนีหุ้นไทย หรือ SET Index เปิดซื้อขายวันที่ 26 ก.พ.2563 ที่ 1,439 จุด ก่อนปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดเวลา  14.17 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,397 จุด ลดลง 42.06 จุดจากช่วงเช้าที่เปิดซื้อขาย หรือ 2.92 %

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายเทิดศักดิ์  ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส
จำกัด หรือ ASP เปิดเผยว่า SET
Index วันนี้ปรับตัวลงแรงหลุด
1,400 จุด เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ดัชนีลงแรง
ประกอบด้วยความกังวล ไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยใหญ่สุด ประกอบกับเศรษฐกิจโลกมีการปรับลดการเติบโต
GDP ทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จึงทำให้เกิดแรงขายในตลาดหุ้นแรง

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปเมื่อปี 2540
จนถึงปัจจุบันจะพบว่ามีวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งมีการลดการเติบโตของ GDP ลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน  ได้แก่ปี 2540 วิกฤตต้มยำกุ้ง, ปี 2551
วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ไคซิส และปี 2556 เกิดปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งทั้ง 3
ครั้งส่งผลให้ SET Index ปรับตัวลงแรงกว่า 50% ด้วยกันทั้งนั้น และได้เห็นธนาคารลดดอกเบี้ยนโยบายทุกครั้ง

ขณะเดียวกัน
ในภาวะปัจจุบันเรายังไม่อยู่ในภาวะวิกฤตเนื่องจากการหดตัวของ GDP
แบบ 2 ไตรมาสติดต่อกันยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลและส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปกว่า
20% ตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้ผลตอบแทนยิลด์แกปตอนนี้ขยับเพิ่มเป็น
 5% ทำให้เห็นว่าความกลัวยังไปได้สุดกว่านี้
ซึ่งถือเป็นโอกาสในการหาตัวเลือกเข้าลงทุนในหุ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตามสถิติ เมื่อภาวะวิกฤตจบลงดัชนีหุ้นจะปรับตัวขึ้น
40-50% ทันทีในช่วง 6 เดือน แต่การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงขณะนี้เกิดจากความกังวลไวรัสโควิด-19
ซึ่งเป็นปัจจัยระยะสั้น ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตเศรษฐกิจจะทำให้เกิดผลตอบแทนที่ดีในตลาดหุ้น
เมื่อไวรัสโควิด-19 ถูกควบคุมได้

ดังนั้น ช่วงเวลาที่ดัชนีลงแรงขณะนี้
ก็ไม่ใช่ภาพที่แย่เสมอไป แต่ยังเป็นช่วงจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีในราคาถูก
โดยแนะนำให้ทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีเก็บไว้ในพอร์ตลงทุน ค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ  ซึ่งหุ้นพื้นฐานดีที่ควรเก็บสะสมในช่วงนี้ต้องเป็นหุ้นที่มีเปอร์เซนต์เงินปันผลตอบแทนของหุ้นต่อปีเกิน
4% ขึ้นไป และต้องมีความแข็งแกร่งของฐานะการเงินด้วยโดยหุ้นที่แนะนำได้แก่
CPN, CPALL, DIF, MCS, AOT, WHA, PYLON และ CRC

ทั้งนี้ ประเมินว่าราคาที่ลงมาต่ำขณะนี้ เป็นจังหวะที่ดีทำให้เกิดเศรษฐีใหม่ เพราะ VI ที่ทำกำไรจากหุ้นล้วนแต่ซื้อหุ้นในช่วงวิกฤตด้วยกันทั้งนั้น และยังเชื่อว่าช่วงไตรมาส 2/2563 ไวรัสโควิด-19 จะสามารถคลี่คลายได้ เนื่องจากขณะนี้จีนมีอัตราการรักษาผู้ป่วยหายสูงกว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันแล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น ซึ่งจีนใช้เวลา 1 เดือนในการควบคุมความร้ายแรง โดยถ้าใช้สมมุติฐานเดียวกันจะทำให้ประเทศญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อิหร่าน และอิตาลี สามารถควบคุมความรุนแรงของโรคได้ภายใน 1 เดือนนับจากนี้ หลังจากนั้นดัชนีหุ้นมีโอกาสดีดกลับแบบวีเชฟ จากความกังวลนักลงทุนหายไป ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นรีบาวด์เร็ว

อ่านข่าวอื่น ASP อัดศก.ไทยพึ่งอุตสาหกรรมเดิมนับสิบปี ทำ GDP โตต่ำ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • กำไร 1000 % ก็ไม่สำคัญเท่าจ่ายปันผล กี่เปอร์เซ็นต์ ครับ 😊 สุดยอดหุ้นเด่น เหนือกว่า นักวิเคราะห์บอกคุณ จาก โคตรเซียน หุ้น PAP ซื้อวันนี้ รับปันผลทันทีเกิน 10% ( 12.2% ) เพราะถ้าหุ้นราคา 2.7 บาท ปันผล 10 % ก็จะปันผล .27 สตางค์ แต่ตอนนี้หุ้นราคาแค่ 2.28 ปันผล 10% คือ .228 สตางค์ แต่ได้ปันผล .27 สตางค์ครับ ปีหน้ากำไรดีกว่านี้อีก เพราะราคาเหล็กในสต๊อกกำไรจากค่าเงินบาทอ่อนครับ ( ต้องซื้อก่อน วันที่ 4 มีนาคม ( XD วันที่ 5 ) จ่ายปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม ครับ 5555. 😂 😇
    26 ก.พ. 2563 เวลา 19.24 น.
ดูทั้งหมด